วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.36 : Otaku Elf 江戸前エルフ

 สวัสดีครับ ช่วงนี่มีซีรีย์แนวอิงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยเอโดะเรื่อง Shogun ออกฉายในเน็ตสตรีมมิ่งชื่อดัง พอพูดถึงสมัยเอโดะก็เลยนึกถึงอนิเมะแนวต่างโลกแบบกลับด้าน(Reverse Isekai)ที่เอาเอลฟ์จากต่างโลกมาอยู่ในญี่ปุ่นแทน เรื่องนั้นคือ Otaku Elf  江戸前エルフ (ชื่อภาษาไทย "คุณเอลฟ์โอตาคุ") เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ

Source : https://edomae-elf.com/

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวสาวน้อย โคอิโตะ โคกาเนะอิ ผู้ได้รับตำแหน่งมิโกะ(ผู้ดูแลศาลเจ้าผู้หญิง)รุ่นที่ 15 แห่งศาลเจ้าทากะมิมิ(ศาลเจ้าหูยาว) ต่อจากคุณแม่ที่เสียชีวิตไป ตำแหน่งมาพร้อมๆกับการที่ต้องดูแล เอลด้า เอลฟ์สาวอายุหกร้อยกว่าปีที่ถูกอัญเชิญมาจากต่างโลกโดย โทกุกาวะ อิเอยาสุ ตั้งแต่สมัยเอโดะเพื่อเป็นตัวแทนของเทพเจ้า เรื่องน่าปวดหัวก็คือเอลด้านั้นพออยู่มานานเข้าก็กลับกลายเป็นพวกฮิคิโคโมริ(พวกเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง)แถมยังเป็นโอตาคุตัวแม่ วันๆเอาแต่เล่นเกม ต่อพลาโมเดล กินขนมกรุบกรอบดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเป็นอาจิน โคอิโตะจะสามารถดูแลเอลด้าได้ดีหรือไม่ต้องคอยลุ้นไปด้วยกันครับ

 


ความคิดเห็น:

    สำหรับเรื่องนี้เป็นแนวชีวิตประจำวันบวกกับการให้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆจากสมัยเอโดะ โดยเอลด้าจะเล่าเรื่องราวเปรียบเทียบสมัยปัจจุบันกับสมัยเอโดะ เช่น วันฝนตกคนสมัยนี้ใช้ร่ม คนสมัยเอโดะจะใส่เสื้อฟางหมวกฟางกัน อะไรประมาณนี้ เรียกได้ว่านอกจากความฮาแล้วก็จะได้ความรู้ไว้ประดับหัวสมองไปด้วยกันเลยทีเดียว นอกจากนี้เรื่องราวก็จะเน้นความอบอุ่นสายสัมพันธ์ของเพื่อนๆและครอบครัว ดูแล้ววัยรุ่นสมัยนี้ก็คงเรียกว่าใจฟูกันละนะ

ข้อด้อย :

    สำหรับข้อด้อยถ้าจะมีก็คงเป็นที่จำนวนตอนมันน้อยไปนิดจบเร็วไปหน่อย ความรู้สมัยเอโดะถ้าสำหรับคนที่ไม่อินไม่สนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นก็คงเหมือนรู้ไปก็เท่านั้นแหละ แต่โดยรวมถือว่าเป็นอนิเมะน้ำดีที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยละครับ

    คิดๆไปคนเราถ้าผ่านชีวิตไปนานๆเหมือนเอลด้าก็คงจะกลายเป็นพวกเก็บเนื้อเก็บตัวแหงๆ เพราะโลกนี้มันโหดร้ายละนะ ว่าที่จริงคนเขียนเขาก็อาจจะประชดประชันพวกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เวลาไปขอไปไหว้ทีไรเอาก็เอาแต่อยู่แต่ในห้องอยู่แต่ในศาลนั่นแหละ ไม่ได้ออกมาดูออกมารับรู้ความเดือดร้อนของผู้คนประชาชนประชาชีเท่าไรนักหรอก เฮอๆ 

Official Anime Website -> https://edomae-elf.com/


ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบจ้า ->

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.35 : Let's Make A Mug Too やくならマグカップも

 สวัสดีครับ หมดเทศกาลสาดน้ำทาแป้งกันไปแล้ว สำหรับคนแก่อย่างผมก็แค่ไปวัดไปพบญาติก็เหนื่อยจะแย่แล้วละครับ วันนี้ก็เลยมานั่งคิดดูว่าจะรีวิวอนิเมะเรื่องอะไรดี จู่ๆก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา やくならマグカップも Let's Make A Mug Too (ชื่อภาษาไทย วัยฝันปั้นแก้วมัค) คงเพราะช่วงสงกรานต์นี่มีการรวมญาติกินเลี้ยง พอเห็นพวกถ้วยโถโอชามก็เลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็เป็นได้ เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาดูกันเลยครับ

Source : https://yakumo-project.com

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของสาวน้อย ฮิเมะโนะ โทโยกาวะ ที่ย้ายบ้านกลับมาที่บ้านเกิดของคุณแม่ที่เสียไปซึ่งก็คือเมืองทาจิมิในจังหวัดกิฟุ เมื่อเธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเก่าของคุณแม่เธอก็ได้พบกับ มิกะ คุคุริ และทั่งคู่ก็ได้ไปที่ชมรมเซรามิกของโรงเรียน ที่ชมรมเธอได้พบกับ นาโอโกะ นารุเสะ สาวน้อยที่ชอบมาเที่ยวเล่นที่ชมรมอยู่บ่อยๆ และ โทโกะ อาโอกิ สาวน้อยผู้ที่มุ่งมั่นจะสร้างผลงานเซรามิกชิ้นเอก ที่ชมรมนี่เองที่ฮิเมะโนะได้รู้ว่าจริงๆแล้วแม่ของเธอเป็นยอดนักปั้นเซรามิกผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของเมือง เธอจึงอยากจะลองเจริญรอยตามด้วยการลองปั้นเซรามิกดูนั่นเอง 

 


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้จะนำผู้ชมทุกท่านเข้าสู่โลกแห่งการปั้นเครื่องเคลือบเซรามิก เนื้อหาจะสอนเรื่องการปั้น การเผา การเคลือบน้ำยา การอบ เทคนิคต่างๆนาๆ เรียกได้ว่าสอนรายละเอียดลึกจนถึงขนาดเอาไปทำตามได้กันเลยทีเดียว ตัวละครก็น่ารักสดใส เรื่องราวของสาวๆก็มีแบคกราว์นมีปมต่างๆของตัวเองตามประสาวัยรุ่น เรียกได้ว่าสอดแทรกความรู้ด้านเซรามิกเข้ากับเรื่องราวดราม่าได้ดีพอสมควรทีเดียว

ข้อด้อย :

    เนื่องจากมันเป็นอนิเมะแนวสาวๆทำชมรมอะไรสักอย่าง เรื่องราวเลยไม่ได้มีอะไรมากมายนอกจากการทำเซรามิก คนที่ชอบแนวแอ็คชั้นแฟนตาซีอะไรแบบนั้นก็อาจจะไม่ชอบก็ได้ เนื่อเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆเอื่อยๆแบบสโลว์ไลฟนะแหละ ไม่ได้มีดราม่าอะไรมากมาย โดยรวมก็สนุกดีดูได้เพลินๆน่ะ  

    สำหรับเมืองทาจิมิก็เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านเซรามิกจริงๆนะแหละ หลายๆโลเคชันที่อยู่ในอนิเมะก็มีอยู่จริงด้วย ถ้าใครเห็นแล้วอยากจะตามรอยก็สามารถบินไปเที่ยวกันได้เลยนะครับ สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ก็มีอยู่สองซีซันแล้วก็มีเทปพิเศษที่สาวๆนักพากย์ไปเที่ยวกันที่ทาจิมิกันด้วย สนใจยังไงก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ 

Official Anime Website -> https://yakumo-project.com/

 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->



วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.34 : The Hero Is Overpowered but Overly Cautious この勇者が俺TUEEEくせに慎重すぎる

 สวัสดีครับ ช่วงนี้อากาศร้อนๆ เลยอยากจะดูอนิเมะแนวฮาๆเบาสมองดูบ้าง วันนี้ก็เลยนึกถึงเรื่องนี้เลยครับ Cautious Hero: The Hero Is Overpowered but Overly Cautious この勇者が俺TUEEEくせに慎重すぎる (ชื่อภาษาไทยคือ ผู้กล้าสุดแกร่งขี้ระแวงขั้นวิกฤติ) เรื่องราวจะเป็นยังไงมาลองดูกันครับ

 


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของเทพธิดารีสตาเต้ ผู้ถูกเลือกในภารกิจให้กอบกู้โลกกาแบรนจากจอมมาร เธอจึงเลือกเซยะ ริวกุอิง ผู้มีแววจะเป็นผู้กล้ามากที่สุดเพื่อมาจัดการกับจอมมาร แต่เซยะนั่นแทนที่จะเป็นผู้กล้าแบบทั่วไปแต่กลับเป็นคนที่ขี้ระแวงและไม่ไว้วางใจอะไรสักอย่าง ก่อนจะทำอะไรก็ต้องเตรียมพร้อมแบบสุดๆถึงจะค่อยลุย ทำให้เทพธิดาริสตาเต้ปวดหัวเป็นอย่างมาก เรื่องราวจึงดำเนินไปด้วยความป่วนของทั้งเทพธิดาและผู้กล้าขี้ระแวงนั่นเอง



ความคิดเห็น:

    ดูเรื่องนี้เรียกได้ว่าขำตั้งแต่ตอนแรกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะคาแร็กเตอร์ของเทพธิดารีสตาเต้(ริสต้า)ที่เรียกได้ว่าทั้งรั่วทั้งลามกทั้งตบมุกชนิดไม่ห่วงสวยกันเลยเชียว ส่วนพระเอกก็เรียกได้ว่าเป็นตัวตรงข้ามกับเทพธิดาแบบสุดๆ ทั้งปากร้ายทั้งขี้ระแวงไม่ไว้ใจใครเลย มันก็เลยเหมือนกำลังดูคู่ตลกดูโอ้ยิงมุกกันไปตลอดทั้งเรื่องละนะ

ข้อด้อย :

    ข้อด้อยก็อาจจะเป็นเรื่องที่นางเอกที่พูดเร็วเป็นต่อยหอย บางทีก็ฟังไม่ทันเหมือนกัน ส่วนตัวเนื้อเรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เป็นแนวผู้กล้าไปต่างโลกแบบทั่วๆไปนะแหละ แต่ท้ายๆเรื่องเขาจะเฉลยว่าทำไมพระเอกมันถึงได้ขี้ระแวงซะขนาดนั้นละนะ (ว่าที่จริง พวกผู้กล้าที่โดนอัญเชิญไปต่างโลกก็ควรจะระแวดระวังให้มากๆเหมือนเซยะจะดีกว่าละมั้ง ไม่รู้ทำไปถึงเชื่อใจพวกเทพพระเจ้าเทพธิดาได้ง่ายๆซะเกือบทุกเรื่องสินา)

    กล่าวโดยสรุป สำหรับท่านที่ชอบแนวต่างโลกแบบตลกๆอยากจะดูอนิเมะเพื่อคลายเครียดคลายร้อนก็ขอแนะนำเรื่องนี้เลยครับ รับประกันความฮาได้เลยจ้า

 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->



วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.33 : Diary of Our Days at the Breakwater 放課後ていぼう日誌

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมหนีควันทางภาคเหนือมาเที่ยวทะเลภาคใต้ (ฝากแช่งถึงคนที่เผาป่าเผานาขอให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวันเตอะ จะเก็บของป่าจะทำนาไม่ว่าจะเผาทำ*ตุ๊ด*อะไรฟะ) ว่าแล้วก็นึกถึงอนิเมะที่มีเรื่องเกิดขึ้นแถวๆชายทะเลขึ้นมาในบัดดล ซึ่งก็คือเรื่องนี้ 放課後ていぼう日誌 Diary of Our Days at the Breakwater (ชื่อภาษาไทยคือ บันทึกชมรมริมเขื่อนหลังเลิกเรียน) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรลองมาดูกันครับ

Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ : 

    เรื่องราวของ ฮินะ ซึรุกิ สาวน้อยม.ปลายที่พึ่งย้ายบ้านจากโตเกียวกลับมาบ้านเกิดที่เมืองอาชิคิตะจังหวัดคุมะโมโตะในเขตคิวชู ระหว่างที่ไปเดินเล่นริมเขื่อนกันคลื่นทะเล เธอได้พบกับ ยูคิ คุโรอิวะ รุ่นพี่หมวกฟางที่กำลังตกหมึกอยู่ก็เลยได้โอกาสลองตกหมึกด้วย ด้วยเหตุบางอย่างก็เลยโดนชวนเข้าชมรมริมเขื่อนที่กำลังแย่เพราะสมาชิกชมรมไม่พอ แม้ว่าฮินะจังจะเป็นพวกกลัวการสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตแต่ก็ไม่อาจจะทนความสนุกของการตกปลาและความอร่อยของอาหารทะเลที่ตกได้มาแบบสดๆได้จนสุดท้ายก็เข้าชมรมจนได้ เรื่องราวการตกปลาของเหล่าสาวน้อยม.ปลายจึงเริ่มขึ้นเช่นนี้เอง

 



ความคิดเห็น :

    เนื้อเรื่องก็เป็นแนวชมรมที่กำลังจะโดนยุบเพราะคนไม่พอซึ่งก็เป็นพล๊อตที่นิยมใช้เวลาตัวเอกจะเข้าชมรมอะไรกันสักอย่างละนะ เนื้อหาก็จะเป็นเทคนิคในการตกปลาต่างๆนาๆรวมไปถึงการทำอาหารจากปลาที่ตกมาได้ด้วย เรียกได้ว่าถ้าเป็นคนชอบทำบาปด้วยการตกปลาก็คงจะชอบเรื่องนี้ด้วยแหละ 

ข้อด้อย :

     ตัวเรื่องไม่ได้มีดราม่าอะไรมากไป การดำเนินเรื่องก็จะเอื่อยๆไปเรื่อยๆตามสไตล์แนวสาวน้อยชมรมอะไรสักอย่างละครับ นอกจากการตกปลาแล้วก็แทบจะไม่มีอะไรเลย นางเอกก็โก๊ะๆเอ๋อๆตามแบบพิมพ์นิยมของชาวญี่ปุ่นเขาละครับ

    นอกจากความรู้ด้านการตกปลาแล้ว ในด้านการออกแบบตัวละครสาวๆก็ว่าน่ารักดี มียิงมุขตลกเฮฮาโป๊ะเป๊ะกันไปตลอดเรื่อง เรียกได้ว่าดูได้สนุกดีไม่มีพิษภัยอะไร คิดว่าเด็กๆเล็กๆก็น่าจะดูได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ แถมดูเหมือนเรื่องนี้จะดังจนเขาไปทำเวอร์ชันคนแสดงด้วย สนใจแบบไหนก็ลองหามารับชมได้นะครับ


Official Anime Website -> https://teibotv.com/


ส่งท้ายขายของ มังงะของกระผมขอรับ  ->


 


วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

Anime Special 8 : พระเอกตัวจริงของซีรี่ย์มาครอส マクロスの本当の主人公

 สวัสดีครับ ช่วงนี้มีข่าวดีว่าทาง Disney+ คว้าลิขสิทธิ์นำมาครอสทุกภาคมาฉายบนบริการสตรีมมิ่งของตัวเอง(รู้สึกจะยกเว้นมาครอสภาคแรกกับหนังใหญ่ Do you remember love เพราะยังติดลิขสิทธิ์กับทางบริษัทเจ้าปัญหาทางอเมริกาอยู่) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะได้มีโอกาสดูมาครอสนอกญี่ปุ่นได้แบบถูกลิขสิทธิ์ละนะ ว่าแล้วก็มาคุยกันเรื่องเกี่ยวกับมาครอสกันหน่อยดีกว่า หลังจากที่ผมดูมาครอสครบทุกภาคแล้ว ผมก็รู้สึกว่าจริงๆแล้วพระเอกมาครอสตัวจริงมันไม่ใช่พระเอกประจำภาคที่เป็นหนึ่งในความรักสามเศร้าแต่กลับเป็นผู้ชายคนหนึ่งต่างหาก คนๆนั้นก็คือ ....  Maximilian Jenius เฮียแม็กซ์ของเรานั่นเอง ทำไมผมถึงคิดเช่นนั้นมาลองดูกันครับ


 

*** Spoiler Alert : จะมีการสปอยล์เนื้อเรื่องของมาครอสหลายภาคอยู่นะครับ ใครยังไม่ได้ดูก็ไปดูกันก่อนก็ได้นะครับ


1. เฮียแม็กซ์หล่อกว่าพระเอกทุกภาคเสียอีก

อย่างแรกเลยคือเฮียแม็กซ์เป็นคนเดียวที่ลินน์มินเมย์ชมว่าหล่อในตอนที่ฮิคารุพาแม็กซ์กับคาคิซากิมาอวดว่าตัวเองมีลูกน้องในสังกัดแล้วในงานวันเกิดของมินเมย์ ซึ่งในซีรี่ย์มาครอสคนที่ถูกสาวๆนางเอกตัวหลักชมว่าหล่อนี่เท่านี่จำได้ก็มีแต่เฮียแม็กซ์คนเดียวนี่แหละ(ยกเว้นอัลโตที่โดนรันกะชมว่าสวยอะนะ!!) แสดงว่าแกต้องหน้าตาดีมากกว่าเหล่าพระเอกประจำภาคเยอะเลยละ ขนาดว่าตอนมีลูกสาวเจ็ดคนอายุน่าจะเกือบๆ60แล้วได้เป็นกัปตันยาน Macross 7 สาวๆบนสะพานเดินเรือก็ยังแอบกรี๊ดเฮียแกอยู่เลย



2.เฮียแม็กซ์ไม่เคยถูกยิงตกเลยสักครั้ง

ไม่ทราบว่าทุกท่านสังเกตุหรือเปล่าว่าตัวเอกในแต่ละภาคจะต้องโดนยิงเครื่องตกสักครั้งนึงแหละ และก็จะเป็นเหตุให้นางเอกมาเยี่ยมดูอาการที่โรงพยาบาล แต่ด้วยความเป็นนักบินอัจฉริยะของเฮียแม็กซ์แกเลยไม่เคยโดนยิงจนถึงขั้นเครื่องตกโหม่งโลกเลยสักครั้ง ตั้งแต่ภาคแรกที่ถ้าไม่นับตอนที่แอบไปช่วยป้ามิสะออกมาจากการโดนพวกเซ็นทราดี้จับไปแล้วโดนยิงจนเครื่องไม่ทำงานแล้วก็ระเบิดไป แกก็ไม่เคยโดนยิงจนร่วงในการต่อสู้กลางอากาศเลยสักครั้ง แม้แต่ในภาคมาครอสเซเว่นในฉากสุดท้ายที่ทุกคนโดนยิงร่วงกันเป็นว่าเล่นแต่เฮียแม็กซ์ก็ขับเครื่องหลบหลีกได้สะบายๆ ขนาดพระเอกอย่างบาซาร่าที่ว่าขับวาลคีรี่ไปร้องเพลงไปได้ก็ยังโดนเสียบจนเครื่อง VF-19 Fire  Valkyrie ยังระเบิดเป็นชิ้นๆไปด้วยซ้ำ รวมไปถึงภาคเดลต้าหนังใหญ่ Zettai Live ก็มีฉากที่เฮียแม็กซ์(ซึ่งอายุน่าจะเกิน80ไปแล้ว)ซ้อมรบกับพวกหลานๆเจนแซด ก็ยังไม่มีใครยิงแกโดนสักคน เรียกได้ว่าบินให้เด็กมันดูหน่อยละนะ

 


3. เฮียแม็กซ์เป็นสุดยอดปาป๋า

นอกจากความเป็นนักบินอัจฉริยะแล้วแกยังมีความเป็นแฟมิลี่แมนสูงด้วย ในภาคแรกจะมีฉากที่ฮิคารุกับมิสะจะไปเยี่ยมบ้านของแม็กกับมิเรีย เฮียแกก็ถามว่าหัวหน้าอยากกินอะไรบอกมาได้เลย ผมทำได้หมดแหละ อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น อาหารฝรั่งอิตาลี่อะไรก็ว่ามา จะเห็นได้ว่าแกเป็นผู้ชายที่ทำกับข้าวกับปลาเป็น(รู้สึกเหมือนว่าจะเคยทำงานพิเศษในร้านอาหารมาก่อนด้วยนะ) เรียกได้ว่าใครได้เป็นสามีนี่สะบายไปทั้งชาติแหละ เฮอๆ แถมยังเป็นพ่อลูกดกมีลูกสาวตั้งเจ็ดคน (ตรงนี้ก็มีคนว่าเพราะเลือดพวกเมลทราดี้น่าจะข่มเลือดของมนุษย์โลก ถ้าผู้ชายมนุษย์โลกแต่งงานกับเมลทราดี้ก็จะได้แต่ลูกสาว เท็จจริงประการใดไม่ทราบแต่เท่าที่ดูในเรื่องก็มีลูกๆของแม็กซ์กับมิเรีย7คนเป็นลูกสาวหมด รันกะ มิราจก็เป็นผู้หญิงทั้งนั้น) แถมดูๆไปแล้วลูกสาวคนสุดท้องอย่างมิเลนก็ยังสนิทสนมกับปาป๋าแม็กซ์มากกว่ามาม๋ามิเรียด้วยซ้ำ อย่างตอนที่แอบตามบาซาร่าไปเจอเขากำลังพยายามร้องเพลงปลุกซิวิลอยู่ แทนที่มิเลนจะไปฟ้องแม่ที่เป็นนายกเทศมนตรีแต่กลับไปบอกพ่อแทนอะนะ แถมในภาคเดลต้าเฮียแกก็ยังอุตส่าห์แบกสังขารกลับมาช่วยหลานมิราจตอนกำลังเดือดร้อนด้วย


    ลูกสาวทั้งเจ็ดคน(ก็น่าจะล้อเลียนคนแคระทั้งเจ็ดของสโนไวท์แหละ) ก็จะมีรายชื่อกับปีเกิดดังนี้

   1. Komilia Maria Fallyna Jenius - 2011 (เป็นลูกครึ่งมนุษย์โลกกับเมลทราดี้คนแรก ในซีรี่ย์มาครอสภาคแรกจะได้เห็นตอนยังเป็นทารกอยู่)
   2. Miracle Jenius - 2017
   3. Muse Jenius - 2022 (ฝาแฝด)
   4. Therese Jenius - 2022 (ฝาแฝด)
   5. Emilia Jenius - 2024 (จะโผล่มาในมาครอสเซเว่นภาคหนังใหญ่ The Galaxy is calling me )
   6. Miranda Jenius - 2026 (คนนี้คือแม่ของมิราจครับ ในรูปคือคนที่จับเบาะอยู่มุมล่างซ้ายนะ)
   7. Mylene Flare Jenius - 2031 (ลูกสาวคนสุดท้องนางเอกจอมเหวี่ยงในมาครอสเซเว่น สังเกตุว่าหล่อนแหกคอกผมสีชมพูอยู่คนเดียว ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน)

นอกจากนี้ก็ยังมีรับลูกบุญธรรมอีกคนคือ Moaramia Fallyna Jenius (น่าจะเป็นเนื้อหาในเกม) แล้วก็มีหลานที่ทราบชื่ออีกหนึ่งคนคือ Mirage Farina Jenius ลูกสาวของมิรันดาเกิดปี 2049 ขอรับ

(ลูกๆของแม็กซ์กับมิเรียถ้าไม่มีบทในอนิเมะก็จะมีบทบาทในเกมหรือนิยายภาคแยกครับ)

 

4. เฮียแมกซ์เป็นคนรักเดียวใจเดียว

 พระเอกมาครอสนี่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกโลเลไม่รู้จะเด็ดบัวตูมบัวบานอยู่นั่นนะแหละ แต่เฮียแม็กซ์ไม่ใช่คนแบบนั้น ตั้งแต่เห็นมิเรียที่ร้านเกมอาเขตแกก็รู้ตัวเลยว่านี่คือรักแรกพบ แล้วก็ขอเดทขอแต่งงานทันทีเลยด้วย(คนเลยมักจะจำว่าแกเป็นมนุษย์โลกคนแรกที่แต่งงานกับมนุษย์ต่างดาว) เรียกได้ว่าไม่ใช่ผู้ชายประเภทเจ้าชู้คบสาวๆไปทั่วจนเลือกไม่ถูกแน่ๆ (ทั้งๆที่แกหล่อเลือกได้อะนะ) ถึงแม้หลังจากนั้นจะมีข่าวลือว่าทั้งคู่ระหองระแหงกันมีข่าวว่าจะหย่ากันไม่รู้กี่รอบ (ทั้งในภาค Macross 7 และภาค Delta แถมมีข่าวว่าแอบมีเมียน้อยในมังงะ Macross 7 Trash ซะอีก) แต่สุดท้ายก็ดูเหมือนว่าจะเป็นแค่ข่าวลือนะแหละ  ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าแกนับถือคริสต์คาโทริกก็เลยอาจจะหย่าไม่ได้หรือไม่อยากจะหย่าเองก็ได้อะนะ (อนึ่งถ้านับตามไทม์ไลน์การสร้างซีรี่ย์มาครอส เฮียแมกซ์จะจัดว่าเป็นคนยุคเบบี้บูมเมอร์ซึ่งก็เป็นคนยุคที่มีความอดทนสูง ไม่ใช่เอะอะทะเลาะกันก็หย่ากันง่ายๆเหมือนคนยุคนี้แหละนะ) 

 

ก็เอาเป็นว่าที่ได้กล่าวมาทั้งหมดก็เป็นเหตุผลที่ทำไมผมถึงคิดว่าเฮียแมกซ์นี่แหละคือพระเอกตัวจริงของซีรี่ย์มาครอส ไม่รู้ว่าภาคที่กำลังจะสร้างใหม่นี่จะยังมีบทของแกอยู่ด้วยหรือเปล่าแต่ก็อยากให้แกยังอยู่อะนะ ว่าที่จริงตอนแรกผมคิดว่าคาแร็คเตอร์ของเฮียแมกซ์น่าจะได้รับอิทธิผลจาก Pete Mitchell จากเรื่อง Top Gun ที่เฮียทอมครุยซ์เล่นหรือเปล่า เพราะก็เป็นคนหล่อใส่แว่นกันแดดขับเครื่องบินรบเก่งเหมือนกัน แต่พอไปดูปีที่หนัง Top Gun ฉายปรากฎว่าหนังเข้าโรงปี 1986 ส่วนมาครอสภาคแรกฉายปี 1982 เลยกลายเป็นว่า Pete Mitchell นั่นแหละที่อาจจะได้อิทธิพลจากเฮียแมกซ์แทน !! (ความเห็นส่วนตัวนะเท็จจริงประการใดก็ไม่ทราบได้เหมือนกัน) สำหรับใครที่อยากรู้จักเฮียแมกซ์ให้มากขึ้น แนะนำให้หามาครอสภาคแรกฉบับที่ฉายทีวีมาดูก็จะรู้ว่าเฮียแกเก่งแกอัจฉริยะขนาดไหนละนะครับ สำหรับวันนี้ก็ขอขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมนะครับ


ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->



วันศุกร์ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2567

Anime No.32 : Campfire Cooking in Another World with My Absurd Skill とんでもスキルで異世界放浪メシ スイの大冒険

 สวัสดีครับ ต่อเนื่องเรื่องการทำอาหารกันต่อเลยดีกว่า สำหรับวันนี้ก็ขอแนะนำอนิเมะแนวต่างโลกที่เกี่ยวกับการทำอาหารชื่อว่า Campfire Cooking in Another World with My Absurd Skill とんでもスキルで異世界放浪メシ スイの大冒険 (ชื่อภาษาไทยว่า"สกิลสุดพิสดารกับมื้ออาหารในต่างโลก"  ชื่อยาวเฟื้อยอีกตามเคยตามสไตล์แนวต่างโลก) เรื่องราวจะเป็นอย่างไรมาลองดูกันครับ

 


Ataya's Star :    ★★★☆☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ มุโคดะ สึโยชิ ผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมายังต่างโลกแต่กลับมีแค่สกิล"เน็ตซูเปอร์"ที่ดูจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยในการต่อสู่กับจอมมาร ด้วยเหตุนี้เขาจึงตัดสินใจจะขอตัวออกจากปาร์ตี้ผู้กล้าไปใช้ชีวิตสโลไลฟ์ที่ชายแดนแทน ระหว่างทางเขาได้พบกับ เฟล สัตว์เทพในตำนานที่อยากกินอาหารที่มุโคดะทำจนถึงขั้นขอทำสัญญาเป็นอสูรรับใช้ ทั้งคู่จึงออกเดินทางไปแสวงหาวัตถุดิบใหม่ๆในการทำอาหารนั่นเอง



 


ความคิดเห็น :

    ก่อนอื่นสำหรับสกิล"เน็ตซูเปอร์"ที่ว่าก็คือ interNet Supermarket ซึ่งก็หมายถึงการสั่งของออนไลน์นะแหละ พูดง่ายๆเรื่องนี้ก็คือเน้นขายของนะแหละครับ ไทอินทั้งซอสทั้งของกินของหวาน คาดว่าน่าจะได้สปอนเซอร์จากเน็ตซูเปอร์ของห้างอีออนในญี่ปุ่นละครับ พระเอกก็สามารถสั่งของกินของใช้จากโลกของเราไปใช้ในต่างโลกได้ จะว่าแปลกก็แปลก จะว่าขายของตรงๆเลยมันก็ได้

ข้อด้อย :

     ถ้าไม่นับการขายของตรงๆของสกิลเน็ตซูเปอร์แล้วละก็ เนื้อเรื่องก็แทบไม่มีอะไรแปลกใหม่เลยนอกจากการไปล่ามอนสเตอร์ของเฟลเพื่อเอาเนื้อมาทำอาหารโดยใช้ซอสที่สั่งจากเน็ตซูเปอร์นี่แหละ จะว่าออกจะน่าเบื่อไปหน่อยก็คงจะได้

    อย่างไรก็ดี ด้วยที่ว่าเนื้อหามันไม่ได้ยากจนเกินไป มีมุขตลกแทรกสอดอยู่บ้าง ก็เลยอาจจะเหมาะให้เด็กๆดูได้ ไม่มีพิษมีภัยอะไรมากมาย อาหารที่ทำก็วาดออกมาได้น่ากินดี เห็นแล้วก็อาจจะอยากลองสั่งซอสมาลองทำอาหารดูบ้างก็ได้ ก็หวังว่าซีซันสองอาจจะมีอาหารใหม่ๆหรือมีเนื้อหาที่เข้มข้นมากขึ้นก็ได้นะครับ

    

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->



วันศุกร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2567

Anime No.31 : Koufuku Graffiti 幸腹グラフィティ

 สวัสดีครับ สำหรับวันนี้ก็จะมาในทีมของอนิเมะแนวกินแหลกในสไตล์สบายๆชิลๆของเหล่าสาวน้อยจากเรื่อง Koufuku Graffiti 幸腹グラフィティ (ชื่อภาษาไทย สาววัยใสหัวใจนักชิม) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

     เรื่องราวของ เรียว มาจิโกะ สาวน้อยม.ต้นผู้สูญเสียคุณยายไปได้ไม่นาน ทำให้เธอรู้สึกว่าทำกับข้าวกับปลาได้ไม่อร่อยเหมือนเคยจนอาจจะเป็นเจ้าสาวที่ดีในอนาคตไม่ได้ จนกระทั้งวันหนึ่ง คิริน มาริโนะ ลูกพี่ลูกน้องผู้ที่อายุเท่าๆกับเรียวตัดสินใจอยากจะสอบเข้าเรียนม.ปลายโรงเรียนศิลปะที่โตเกียวเลยต้องเดินทางมาเรียนที่โรงเรียนพิเศษที่เดียวกับที่เรียวเรียนอยู่ทุกวันอาทิตย์ ทั้งคู่จึงได้ทำความรู้จักกันผ่านทางการเรียนรู้การทำอาหารต่างๆนาๆด้วยกันนั่นเอง



 

ความคิดเห็น :

     เรื่องนี้ดูแล้วก็เป็นแนวชีวิตประจำวัน เรื่อยๆเปื่อยๆ ไม่ได้มีแอคชันดราม่าอะไรมากมาย เหมาะสำหรับดูคลายเครียดฆ่าเวลาก็ว่าโอเคละครับ ในเรื่องก็จะเป็นโชว์สกิลการทำอาหารแนวที่คนญี่ปุ่นทำกินกันในบ้านทั่วๆไปของเรียวนั่นแหละครับ ดูแล้วก็อาจจะหิวๆอยากจะลองทำกินดูบ้างก็ได้ คาดว่าเป็นเมนูที่ไม่ยากเกินไปสำหรับคนทั่วไป

ข้อด้อย :

    เนื้่อเรื่องดูจะเอื่อยๆไปสักนิด บางทีก็ใส่ฉากเซอร์วิสเข้ามาทั้งที่ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องมีก็ได้ แต่โดยรวมก็ว่าเป็นอนิเมะที่ยังถือว่าดูได้สนุกดีละครับ อาหารก็วาดออกมาดูสมจริงน่ากินทีเดียวเลยอาจจะไม่เหมาะกับคนที่กำลังอดอาหารลดน้ำหนักอยู่ก็ได้ เดี๋ยวจะตบะแตกเอา

    โดยรวมก็เป็นอนิเมะแนวใสๆทำอาหารไปกินไปอร่อยจุงเบย ตัวละครก็น่ารักดี จะว่าเป็นแนวยูริก็คงจะได้เพราะไม่มีตัวละครชายเลย ถ้าไม่รวมฉากเซอร์วิสก็ถือว่าดูได้ทุกเพศทุกวัยละนะครับ ยังไงก็ลองหามาดูกันได้นะครับ


ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบจ้า ->