สวัสดีครับ วันนี้ก็จะขอกลับมารีวิวซีรี่ย์มาครอสที่ยังเหลืออยู่ นั่นก็คือเรื่อง Macross II : Lovers Again マクロスII มาครอสภาคสอง สำหรับเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นมาครอสซีรี่ย์ที่ถูกลืมก็ว่าได้ เพราะอะไรไปดูกันครับ
Ataya's Star : ★★★★☆
เรื่องย่อ :
เรื่องราวหลังจากจบศึก Space World War I ในมาครอสภาคแรกไปเป็นเวลา 80 ปี ในปีค.ศ 2092 เมื่อ ฮิบิกิ คันซากิ นักข่าวหนุ่มไฟแรงจากสำนักข่าวSNN พยายามจะเปิดเผยเรื่องซุบซิบนินทาการคบหาระหว่างผู้บังคับบัญชากองทัพ เอกเซแกรน กับ ซิววี่ จีน่า เอสไฟล็อตของหน่วยแฟรี่ จนฮิบิกิโดนชกหน้าโดยซิลวี่แถมยังถูกบังคับให้ขอโทษทางกองทัพ ระหว่างนั้นมีการโจมตีจากศัตรูลึกลับพวกมาดุก ฮิบิกิจึงได้โอกาสทำข่าวสงครามโดยอาสาเป็นนักบินให้กับ เดนนิส โลน นักข่าวสงครามรุ่นเก๋าที่ขี้เมาไปหน่อย ในสงครามครั้งนั้นปรากฎว่าการใช้เสียงเพลง Minmay Attack กับศัตรูไม่ได้ผล แถมพวกมาดุกยังมีหน่วย Emulator ซึ่งทำหน้าที่"ร้องเพลง"เพื่อทำให้พวกเซนทราดี้ที่ถูกล้างสมองทำการรบได้ดีขึ้นอีกต่างหาก ก่อนที่การรบจะจบลงเดนนิสและฮิบิกิได้เข้าไปในยานของมาดุกลำหนึ่งและได้พบกับ อิชทาร์ หนึ่งใน Emulator เดนนิสตัดสินใจจะพาเธอกลับมาแต่เกิดการระเบิดขึ้น เดนนิสได้เสียชีวิตและฮิบิกิก็ได้พาอิชทาร์กลับมายังโลก และพยายามสอนเรื่องราววัฒธรรมต่างๆของโลกรวมถึง"เสียงเพลง"ให้กับเธอด้วยเช่นกัน
ความคิดเห็น :
ก่อนอื่นต้องขอพูดถึงเนื้อเรื่องก่อน ผมว่าพล็อตเรื่องมันออกจะคล้ายๆกับมาครอสภาคแรกไปหน่อยแต่ก็มีองค์ประกอบใหม่ๆเข้ามา บางอย่างก็ยังเห็นได้ในมาครอสภาคหลังๆ จะถือได้ว่าเป็นมาครอสภาคที่มาก่อนกาลก็ว่าได้ สำหรับเพลงประกอบดูไม่เด่นเท่าภาคแรกเท่าไรอยู่ในระดับที่ฟังได้เพลินๆละนะ จะออกแนว Pop Jazz ซะส่วนใหญ่ ซึ่งเพลงในภาคนี้จะไปโผล่ในมาครอสเซเว่นซะเยอะด้วยละครับ
ข้อด้อย :
สำหรับข้อด้อยก็คงเป็นเรื่องที่เขาไม่นับมาครอสภาคนี้อยู่ในไทม์ไลน์หลัก จนถึงขั้นบอกว่าภาคนี้ดำเนินเรื่องในจักรวาลคู่ขนานไปเลย(Parallel Universe) ซึ่งผมก็ลองไปหาข้อมูลดูว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ก็มีหลายๆเรื่อง บ้างก็ว่าเป็นเรื่องสงครามลิขสิทธิ์ที่เกิดขึ้นกับมาครอสภาคแรก เรื่องที่ภาคสองนี่มันไม่ปังเท่าไร แต่เท่าที่พอจะเข้าเค้าก็คือเรื่องที่ว่าผู้กำกับคู่บุญมาครอสอย่างคุณ โชจิ คาวาโมริ พอเขาประสบความสำเร็จกับมาครอสภาคแรก มาครอสหนังใหญ่ Do you remember love แล้ว พอเขากำกับภาค Macross Flashback 2012 เสร็จแล้วก็รู้สึกอิ่มตัวเลยไม่ขอทำซี่รี่ย์มาครอสต่ออีกต่อไปแล้ว แต่ทาง BigWest ดูเหมือนจะยังอยากทำซีรี่ย์มาครอสต่อก็เลยเปลี่ยนสตูดิโอที่ทำจาก Studio Nue ไปให้ทาง AIC ทำแทน (แต่ยังได้อาจารย์ฮารุฮิโกะ มิกิโมโตะเป็นคนดีไซน์ตัวละครเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนคนออกแบบเมคคานิกอะนะ) สุดท้ายก็ได้ภาค Macross II : Lovers Again ออกมานะแหละ ต่อมาไม่ทราบว่าด้วยเหตุผลกลใดสุดท้ายผู้กำกับ โชจิ คาวาโมริ แกก็ตัดสินใจกลับมาทำซีรีย์มาครอสต่อ ตั้งแต่ภาคมาครอสเซเว่นเป็นต้นมาก็เลยได้คุณโชจินะแหละเป็นคนกำกับ(และสตูดิโอNueมาผลิต)ทั้งหมด ส่วนภาคสองนั้นเมื่อไม่ได้ผู้กำกับคู่บุญอย่างคุณโชจิเป็นคนกำกับก็เลยพลักตัวของภาคนี้ให้ไปเป็นเรื่องราวในจักรวาลคู่ขนานไม่รวมกับไทม์ไลน์หลักซะเลย เรื่องก็เป็นเช่นนี้นี่เอง (มีคนเปรียบเทียบกับ StarWars ที่ไม่ได้จอร์จลูคัสกำกับก็ไม่ควรนับเป็นหนังสตาร์วอร์ส ฉนั้นepisode 7,8,9 ก็จะมีบางคนมองว่าเป็นหนัง StarWars Fanmade อะไรประมาณนั้นแหละ)
อย่างไรก็ดี ผมว่าภาคสองนี่ก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอก มันมีองค์ประกอบของความเป็นมาครอสครบทุกอย่างแหละ ว่าที่จริงแม้แต่มาครอสเดลต้าเอง(ซึ่งเรื่องราวของมาครอสเดลต้าจะอยู่ในช่วงเวลาใกล้ๆกับมาครอสสองนี่แหละ)ก็หยิบเอาหลายๆอย่างในมาครอสสองไปใช้อยู่เหมือนกัน เช่น นางเอกAที่เป็นนักร้องมนุษย์ต่างดาว(เดลต้าคือเฟรย่า ภาคสองคืออิชทาร์) นางเอกBที่เป็นนักบินเชื้อสายลูกครึ่งเมลทรานดี้(เดลต้าคือมิราส ภาคสองคือซิลวี่) ศัตรูทีใช้เสียงเพลงล้างสมองคน(เดลต้าคือพวกวินเดอร์เมียร์ ภาคสองก็คืออีมูเลเตอร์) ผมถึงได้บอกว่ามาครอสสองนี่คือภาคที่มาก่อนกาลนะแหละครับ เฮอๆ
จริงๆถ้าคนดูอยากจะนับมาครอสสองเข้าไปในไทม์ไลน์หลักก็คงจะได้อยู่ละครับ เพราะเขานับเวลาไป 80 ปีหลังจากจบภาคแรกก็เลยไม่เหลือตัวละครหลักๆจากภาคแรกมาอยู่แล้ว แถมก็ไม่มีตัวละครหลักในภาคแรกที่ปักหลักสร้างครอบครัวอยู่บนโลกอีกแล้วด้วย ถ้าจะมีศัตรูใหม่มาบุกโลกตอนนั้นแล้วเรื่องจะเป็นเหมือนในภาคสองก็คงไม่น่าเกลียดอะไรหรอกครับ
ป.ล. ถ้าใครดูมาครอสฟรอนเทียร์แล้วได้ดูตอนที่พวกรันกะไปถ่ายหนังกัน จะมีผู้กำกับเรื่องมากติสแตกอยู่คนหนึ่ง ส่วนตัวผมว่านั่นแหละคือตัวคุณโชจิคาวาโมริเองละครับ จริงไม่จริงก็ไม่ทราบได้เหมือนกัน เฮอๆ
สำหรับวันนี้ก็คงจะรีวิวประมาณนี้ละครับ
ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น