วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Anime No. 38 : Long Riders ! ろんぐらいだぁす!

 สวัสดีครับ หลังจากความร้อนระอุอันแสนยาวนานในที่สุดฝนก็ตกลงมาสักทีนะครับ คุณภาพอากาศก็ดีขึ้นบรรยากาศก็ดีเหมาะกับการไปปั่นจักรยานเล่นเสียเหลือเกิน ว่าแล้วก็นึกถึงอนิเมะแนวสาวๆปั่นจักรยานขึ้นมานั่นก็คือเรื่อง Long Riders ! ろんぐらいだぁす! มาลองดูกันครับว่าเรื่องราวจะเป็นเช่นไร



Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของสาวน้อย อามิ คุราตะ นักศึกษามหาลัยปี1 จอมซุ่มซ่ามผู้ที่ยังไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะทำอะไร ด้วยความประทับใจในจักรยานซึ่ง อาโออิ นิกาคิ เพื่อนสนิทของเธอขี่มามหาลัยบ่อยๆ เธอจึงตัดสินใจจะลองซื้อจักรยานพับได้ราคาถูกมาลองขี่ดู ทั้งคู่ได้ลองไปปั่นในที่ปั่นจักรยานรอบๆแม่น้ำแต่ด้วยการที่อามิไม่ได้พักผ่อนอย่างเพียงพอประกอบกับไม่ได้กินข้าวเช้ามาก็เลยเกิดอาการชนกำแพง(น้ำตาลตก) จนหมดเรี่ยวหมดแรง โชคดีที่มีสองสาวนักปั่นผ่านมาพอดีเลยได้ให้เจลลี่พลังงานมาให้อามิกินก็เลยรอดไปได้ ทั้งสี่คนจึงพากันไปที่ร้านอาหารใกล้ๆและกินไอติมด้วยกัน อามิิได้รับรู้ถึงความสนุกในการปั่นจักรยานเป็นครั้งแรกจึงอยากจะปั่นจักรยานต่อไปนั่นเอง 

 



ความคิดเห็น :

     เรื่องนี้มีตัวเอกเป็นสาวๆนักปั่นซึ่งก็ไม่ใช่อนิเมะแนวกีฬาจ๋าขนาดนั้น ออกจะเป็นแนวปั่นชมวิวแวะกินอาหารขนมระหว่างทางเสียมากกว่า มันก็เลยไม่มีคู่แข่งหรือการแข่งขันแบบเอาเป็นเอาตายเหมือนอนิเมะแนวกีฬาเรื่องอื่นๆ ก็พูดได้ว่าเป็นแนวกีฬาบวกการท่องเที่ยวและแนะนำของกินแบบที่ดูได้เรื่อยๆเอื่อยๆไม่เครียดเลยก็ว่าได้ ซึ่งจะว่าแปลกก็แปลกดีละครับ

ข้อด้อย :

     ตัวละครดูเป็นสไตล์การ์ตูนยุคเก่าๆหน่อยเพราะวาดตาโตกว่าอนิเมะยุคหลังๆนี่แหละ ตัวเนื้อเรื่องเองจริงๆมีการสอดแทรกความรู้เกี่ยวกับจักรยานเข้ามาด้วยแต่ดูเหมือนจะไม่ละเอียดเท่าไร ยกตัวอย่างเช่นมีฉากที่ยางแตกแล้วต้องเปลี่ยนยาง ก็จะตัดฉากเป็นเปลี่ยนเสร็จแล้วซะงั้น ทั้งๆที่น่าจะนำเสนอวิธีการเปลี่ยนยางที่ถูกต้องให้ชมดูไว้เป็นความรู้ซะหน่อยก็คงจะดีกว่านี้นะแหละครับ

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้เป็นอนิเมะแนวกีฬาปั่นจักรยานท่องเที่ยวที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่ได้เน้นการแข่งขันเหมือนเรื่องอื่นๆ ใครที่ดูแล้วก็อาจจะอยากลุกขึ้นมาซื้อจักรยานมาตั้งก๊วนปั่นเที่ยวเหมือนกับอามิจังก็เป็นได้ (แต่เมืองไทยนอกจากจะร้อนแล้วก็ยังต้องคอยหลบสิบล้อ มอไซค์ที่ขี่สวนเลน คนเมาแล้วขับ คนเมากัญชา แถมต้องระวังวัยรุ่นหัวร้อนด้วย ผมคนหนึ่งแหละคงขอบายดีกว่านะขอรับ เฮอๆ ) 

Official Anime Website -> https://anime-longriders.com



ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบจ้า ->



 

วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Anime No.37 : Frieren: Beyond Journey's End 葬送のフリーレン

 สวัสดีครับ ช่วงนี้อนิเมะที่มีเอฟล์เป็นตัวเอกดูเหมือนกำลังจะมา หนึ่งในเรื่องที่หลายๆคนยกย่องให้เป็นอนิเมะแห่งปีเลยที่เดียวก็คือเรื่อง  Frieren: Beyond Journey's End  葬送のフリーレン (ชื่อภาษาไทย ฟรีเรนคำอธิษฐานในวันที่จากลา) ซึ่งผมเองก็พึ่งไล่ดูจนจบก็เลยมาเขียนรีวิวไล่ตามหลังชาวบ้านทีหลัง เรื่องราวจะเป็นเช่นไร ดีอย่างที่เขาว่ากันจริงหรือไม่ มาลองดูกันครับ

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวเริ่มจากการที่กลุ่มผู้กล้าอิมเมลได้ปราบจอมมารได้สำเร็จ หลังการเฉลิมฉองเสร็จสิ้นทุกคนกล่าวคำลากันโดยสัญญาว่าจะมาดูดาวตกกันอีกรอบในอีก 50 ปีให้หลัง ฟรีเรน เอลฟ์จอมเวทในปาตี้ผู้กล้าก็ออกไปหมกตัวอยู่จนถึงเวลาที่นัดหมายกันจึงกลับมารวมตัวกลุ่มผู้กล้าอีกครั้งแต่คนอื่นๆที่เป็นคนธรรมดาทั้งตัวผู้กล้าอิมเมล นักบวชไฮเตอร์ ต่างก็แก่ตัวกันหมดแล้ว แม้แต่นักรบคนแคระไอเซนเองก็แก่ขึ้นมาก(เทียบกับอายุขัยของคนแคระในเรื่อง) จะมีก็แต่ตัวฟรีเรนเองที่ไม่แก่ไม่ตาย หลังจากที่ได้ดูดาวตกได้ไม่นานผู้กล้าอิมเมลก็ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ ฟรีเรนเองกลับรู้สึกเศร้าโศกที่ไม่ได้ทำความรู้จักไม่ได้ทำความเข้าใจอิมเมลให้มากกว่านี้ตอนที่ยังมีโอกาส การเดินทางในการตามหาความทรงจำและทำความเข้าใจมนุษย์ให้มากขึ้นจึงเริ่มต้นขึ้นเช่นนี้นี่เอง



ความคิดเห็น:

    หลังจากดูจนจบแล้วต้องบอกเลยว่า นี่น่าจะเป็นอนิเมะที่เขียนบทได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่ผมเคยดูมาเลยก็ว่าได้ บทพูดของตัวละครไม่ได้มีมากมายอะไรเลยพูดน้อยแต่คำพูดกลับกินใจลึกซึ้งมากจนบางทีผมก็เผลอน้ำตาไหลร้องไห้ตามอยู่หลายครั้งอยู่เหมือนกัน บทบาทตัวละครมีทั้่งข้อดีข้อด้อยไม่ได้มีใครเฟอร์เฟคไปทุกอย่าง มุกตลกที่ใส่เข้ามาก็ขำได้แบบอมยิ้มได้แหละ แล้วก็ไม่ได้ขายฉากเซอร์วิสเหมือนเรื่องอื่นๆด้วย คิดๆแล้วน่าจะนับให้เรื่องนี้เป็นแนวปรัชญาชีวิตมากกว่าแนวแฟนตาซีทั่วไปด้วยซ้ำไป โดยรวมแล้วถ้าจะให้5ดาวเต็มๆก็คงไม่เกินไปสำหรับเรื่องนี้ครับ

ข้อด้อย:

    ถ้าจะมีข้อด้อยก็อาจจะที่เนื้อเรื่องที่อาจจะดูอืดๆไปนิด(แต่คงเพราะตัวเอกไม่แก่ไม่ตายก็ไม่รู้จะรีบไปไหนอะนะ) สำหรับคนที่ชอบดูฉากแอคชันต้องบอกว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมากแต่ฉากแอคชันก็ไม่ได้มาบ่อยๆ จะมีมากหน่อยในช่วงท้ายๆเรื่องแหละ สำหรับคนดูที่ยังเป็นเด็กเป็นวัยรุ่นอยู่ก็อาจจะไม่อินกับความลึกซึ้งของคำพูดของตัวละครเพราะประสบการณ์อารมณ์ร่วมของหนูๆคงจะยังน้อยอยู่แหละ(แต่สำหรับลุงที่ผ่านชีวิตมาเยอะแถมเหลือเวลาอยู่น้อยนิดแล้วนี้อินกับบทจนแทบจะบ่อน้ำตาจะแตกตาย เฮอๆ)

     กล่าวโดยสรุป อนิเมะเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ผมแนะนำให้ทุกท่านได้ลองรับชมดู ท่านจะได้ข้อคิดอะไรหลายๆอย่างจากเรื่องนี้อย่างแน่นอน ไม่รู้ว่าคนที่ดูแล้วรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า ในเวลาที่ฟรีเรนนึกถึงผู้กล้าอิมเมลที่จากไปแล้วมันก็ให้ความรู้สึกเหมือนเวลาที่เรามีคนรักสักคนแล้วจู่ๆเขาก็หายไปจากชีวิตเรา พอเราไปเจอเหตุการณ์บางอย่างมันก็อดนึกถึงความดีงามของเขาขึ้นมาไม่ได้   นั่นแหละครับ คนเรากว่าจะรู้จักคุณค่าของอะไรสักอย่าง ก็ต่อเมื่อเราได้สูญเสียสิ่งนั้นไปแล้วนี่เอง

     

    หลังจากดูเรื่องนี้จบแล้วก็นึกคึกลองเอาไม้ไอติมมาทำของชอบของฟรีเรนนั่นคือหีบสมบัติขึ้นมา ลองดูรายละเอียดได้ครับ -> https://lemongrass-figure.blogspot.com/2024/03/handmad-treasure-box.html

    


 

 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->



วันศุกร์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2567

Anime Special 9 : เพลงเพราะๆที่ตัวเอกมาครอสไม่ได้ร้อง マクロス主人公の歌ではないいい曲

 สวัสดีครับ วันนี้ก็กลับมาเขียนเกี่ยวกับอนิเมะเรื่องโปรดของผมอีกครั้ง นั่นก็คือซี่รี่ยมาครอสนั่นเอง ช่วงนี้ก็นั่งฟังเพลงจากมาครอสอยู่หลายๆเพลง มันก็เลยคิดสนุกลองคิดดูดีๆว่ามีเพลงที่ตัวเอกไม่ได้ร้องแต่เป็นเพลงที่ไพเราะบ้างหรือเปล่า ว่าแล้วก็ลองรวบรวมมาดูลองมาฟังกันดูนะครับ

*** Spoiler Alert : มีการสปอยล์เนื้อหาจากซี่รี่ย์มาครอสอยู่บ้างนะครับ ใครยังไม่ได้ดูไปดูมาก่อนก็ได้นะครับ


1. Macross ภาคแรก : Runner

มาครอสภาคแรกนี่มีนักร้องอยู่คนเดียวก็คือลินน์มินเมย์ ก็น่าจะมีเพลงของเธอคนเดียวแต่จริงๆแล้วเพลงเปิดและเพลงปิดของมาครอสร้องโดยนักร้องชาย เพลงเปิด "超時空要塞マクロス" มีคุณมาโกโตะ ฟุจิฮาระ เป็นคนร้อง อารมณ์เพลงเหมือนเพลงปลุกใจทหารหน่อยๆแหละ ก็ว่าเป็นแนวที่ชอบแต่งให้อนิเมะหุ่นรบยักษ์สมัยยุค 70-80 สำหรับเพลงปิดเป็นเพลงบัลลาดเศร้าๆ ランナー Runner ขับร้องโดยคุณมาโกโตะ ฟุจิฮาระเช่นกัน เนื้อหาเป็นการบอกว่าขอยอมแพ้ไม่วิ่งตามเงาของเธอผู้ห่างไกลไปเสียแล้ว ซึ่งก็เข้ากับความรู้สึกของฮิคารุที่คิดว่ามินเมย์กลายเป็นไอดอลที่เขาไม่อาจจะเอื้อมมือไปถึงแล้ว เพลงไพเราะเนื้อหากินใจมาก สำหรับภาพประกอบก็เป็นมือของคนจริงๆคนหนึ่งกำลังเปิดอัลบัมรูป(ซึ่งจริงๆเป็นอัลบัมรูปของฮิคารุที่เก็บรูปของลินล์มินเมย์ในเนื้อเรื่องน่ะแหละ) เรียกได้ว่ามันกลายเป็นแนวเพลงปิดสำหรับซี่รี่ย์มาครอสไปเลย คือจะต้องเอาภาพจริงๆเข้ามาประกอบ อาจจะเป็นฉากหลังในชีวิตจริง สิ่งของจริงๆหรือภาพนักร้องตัวจริงมาใส่ มาครอสภาคหลังๆก็จะทำเพลงปิดตามแนวนี่ละนะ

 


 

2. Macross 7 : Galaxy

    มาครอสเซเว่นเป็นภาคที่มีเพลงประกอบหลากหลายมากที่สุด ไม่เฉพาะเพลงของวง Fire Bomber  แต่มีเพลงของนักร้องอื่นๆที่อาจจะไม่ได้มีบทอะไรเท่าไรก็มี สำหรับเพลงที่ผมประทับใจก็คือเพลง Galaxy ของ Alice Holiday (ผมไม่ทราบว่านักร้องตัวจริงชื่ออะไรอะนะ) ซึ่งในเนื้อหาของมาครอสเซเว่นอลิสจะเป็นนักร้องที่มิเลนชื่นชอบและเป็นแรงบันดาลใจให้เธออยากจะเป็นนักร้องนักดนตรีด้วย ในอนิเมะจะเห็นอลิสร้องอยุ่แค่ประโยคท้ายๆ "Hmm~ Again~" น่ะแหละนะ แต่พอไปหาฟังทั้งเพลงดูปรากฎว่าเป็นเพลงที่ไพเราะมาก เนื้อหาประมาณว่าคิดถึงคนรักที่ห่างไกลจากกันและหวังว่าเราจะได้มาเจอกันอีกครั้ง มาลองฟังกันดูนะครับ


 3. Macross Frontier : Ninjin Love You Yeah !

        มาครอสฟรอนเทียร์นี่มีไอดอลอยู่สองคนคือเชอริลกับรันกะ เรียกได้ว่าสองคนนี้ก็เหมาร้องเพลงประกอบหมดทั้งเรื่องแหละ ไม่มีนักร้องคนอื่นโพล่มาในเรื่องเลย (จะมีเพลงของบาซาร่ามาเปิดประกอบบ้างนิดหน่อย เพราะฮอสม่าชอบวง Fire Bomber อะนะ)  ผมเลยเลือกเพลงที่ไม่ใช่เพลงหลักมาให้เพลงหนึ่งนั่นก็คือเพลง Ninjin Love You Yeah ! (人参 Ninjin = แครอท ร้องโดยคุณเมกุมิ นากาจิมะ คนพากษ์คนร้องเป็นรันกะนะแหละครับ) เป็นเพลงที่รันกะร้องตอนเป็นไอดอลฝึกหัดแล้วต้องมาขายแครอทเจ็ดสีแต่ก็ไม่มีใครอยากจะกินแครอทเลยสักคน เนื้อหาเป็นเหมือนเพลงเด็กว่าแครอทดียังงั้นยังงี้กินแล้วจะมีพลัง ผมก็ว่ามันก็น่ารักดีละนะ ว่าแล้วก็มาลองฟังกันดูนะครับ


4. Macross Delta : AXIA

    สำหรับมาครอสเดลต้าก็มีนักร้องอยู่แค่วงเดียวนั่นก็คือวงวัลคิวเร่(ถ้าไม่นับองค์ชายที่เป็นนักร้องแห่งสายลมอะนะ) ดังนั้นถ้าให้เฟรย่ากับมิกุโมะเป็นนักร้องหลักแล้วละก็ผมจะขอเลือกเพลงที่ไม่ใช่นักร้องหลักเป็นคนร้อง นั่นก็คือเพลง AXIA ของคานาเมะสมาชิกชุดสีเหลืองผู้อาวุโสสุดในวง(ขับร้องโดยคุณคิโยโนะ ยาสุโนะ) เนื้อหาเป็นการคิดถึงคนรักที่ทำให้ทั้งรักทั้งเกลียด เป็นเพลงโซโล่ของคานาเมะและเพลงโปรดของเมเซอร์ด้วย ยิ่งมาร้องประกอบตอนที่เมเซอร์ตายด้วยแล้วยิ่งมีความหมายกินใจเข้าไปใหญ่ ลองฟังกันดูนะครับ 


     หลักๆก็คงจะประมาณนี้ ผมไม่ได้รวมเพลงจากภาคพิเศษหรือภาคหนังใหญ่เพราะว่าพอเพลงมันฟังแค่รอบเดียวแล้วเวลาเปิดเพลงมันก็น้อยกว่าภาคซีรี่ย์ก็เลยทำให้ติดหูยากหน่อยละครับ (ถ้าฉากประกอบมันไม่อลังการแล้วเปิดเพลงนานๆเหมือนเพลง 愛おぼえていますか Do you remember love แล้วละก็) ไว้โอกาสหน้าผมจะมาเขียนเกี่ยวกับมาครอสอีกนะครับ หวังว่าจะยังไม่เบื่อกัน

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อยครับ มังงะ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

วันศุกร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.36 : Otaku Elf 江戸前エルフ

 สวัสดีครับ ช่วงนี่มีซีรีย์แนวอิงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นสมัยเอโดะเรื่อง Shogun ออกฉายในเน็ตสตรีมมิ่งชื่อดัง พอพูดถึงสมัยเอโดะก็เลยนึกถึงอนิเมะแนวต่างโลกแบบกลับด้าน(Reverse Isekai)ที่เอาเอลฟ์จากต่างโลกมาอยู่ในญี่ปุ่นแทน เรื่องนั้นคือ Otaku Elf  江戸前エルフ (ชื่อภาษาไทย "คุณเอลฟ์โอตาคุ") เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ

Source : https://edomae-elf.com/

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของสาวน้อย โคอิโตะ โคกาเนะอิ ผู้ได้รับตำแหน่งมิโกะ(ผู้ดูแลศาลเจ้าผู้หญิง)รุ่นที่ 15 แห่งศาลเจ้าทากะมิมิ(ศาลเจ้าหูยาว) ต่อจากคุณแม่ที่เสียชีวิตไป ตำแหน่งมาพร้อมๆกับการที่ต้องดูแล เอลด้า เอลฟ์สาวอายุหกร้อยกว่าปีที่ถูกอัญเชิญมาจากต่างโลกโดย โทกุกาวะ อิเอยาสุ ตั้งแต่สมัยเอโดะเพื่อเป็นตัวแทนของเทพเจ้า เรื่องน่าปวดหัวก็คือเอลด้านั้นพออยู่มานานเข้าก็กลับกลายเป็นพวกฮิคิโคโมริ(พวกเก็บตัวอยู่แต่ในห้อง)แถมยังเป็นโอตาคุตัวแม่ วันๆเอาแต่เล่นเกม ต่อพลาโมเดล กินขนมกรุบกรอบดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเป็นอาจิน โคอิโตะจะสามารถดูแลเอลด้าได้ดีหรือไม่ต้องคอยลุ้นไปด้วยกันครับ

 


ความคิดเห็น:

    สำหรับเรื่องนี้เป็นแนวชีวิตประจำวันบวกกับการให้เกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆจากสมัยเอโดะ โดยเอลด้าจะเล่าเรื่องราวเปรียบเทียบสมัยปัจจุบันกับสมัยเอโดะ เช่น วันฝนตกคนสมัยนี้ใช้ร่ม คนสมัยเอโดะจะใส่เสื้อฟางหมวกฟางกัน อะไรประมาณนี้ เรียกได้ว่านอกจากความฮาแล้วก็จะได้ความรู้ไว้ประดับหัวสมองไปด้วยกันเลยทีเดียว นอกจากนี้เรื่องราวก็จะเน้นความอบอุ่นสายสัมพันธ์ของเพื่อนๆและครอบครัว ดูแล้ววัยรุ่นสมัยนี้ก็คงเรียกว่าใจฟูกันละนะ

ข้อด้อย :

    สำหรับข้อด้อยถ้าจะมีก็คงเป็นที่จำนวนตอนมันน้อยไปนิดจบเร็วไปหน่อย ความรู้สมัยเอโดะถ้าสำหรับคนที่ไม่อินไม่สนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นก็คงเหมือนรู้ไปก็เท่านั้นแหละ แต่โดยรวมถือว่าเป็นอนิเมะน้ำดีที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยละครับ

    คิดๆไปคนเราถ้าผ่านชีวิตไปนานๆเหมือนเอลด้าก็คงจะกลายเป็นพวกเก็บเนื้อเก็บตัวแหงๆ เพราะโลกนี้มันโหดร้ายละนะ ว่าที่จริงคนเขียนเขาก็อาจจะประชดประชันพวกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่เวลาไปขอไปไหว้ทีไรเอาก็เอาแต่อยู่แต่ในห้องอยู่แต่ในศาลนั่นแหละ ไม่ได้ออกมาดูออกมารับรู้ความเดือดร้อนของผู้คนประชาชนประชาชีเท่าไรนักหรอก เฮอๆ 

Official Anime Website -> https://edomae-elf.com/


ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบจ้า ->

วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.35 : Let's Make A Mug Too やくならマグカップも

 สวัสดีครับ หมดเทศกาลสาดน้ำทาแป้งกันไปแล้ว สำหรับคนแก่อย่างผมก็แค่ไปวัดไปพบญาติก็เหนื่อยจะแย่แล้วละครับ วันนี้ก็เลยมานั่งคิดดูว่าจะรีวิวอนิเมะเรื่องอะไรดี จู่ๆก็คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา やくならマグカップも Let's Make A Mug Too (ชื่อภาษาไทย วัยฝันปั้นแก้วมัค) คงเพราะช่วงสงกรานต์นี่มีการรวมญาติกินเลี้ยง พอเห็นพวกถ้วยโถโอชามก็เลยนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก็เป็นได้ เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาดูกันเลยครับ

Source : https://yakumo-project.com

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของสาวน้อย ฮิเมะโนะ โทโยกาวะ ที่ย้ายบ้านกลับมาที่บ้านเกิดของคุณแม่ที่เสียไปซึ่งก็คือเมืองทาจิมิในจังหวัดกิฟุ เมื่อเธอได้เข้าเรียนที่โรงเรียนเก่าของคุณแม่เธอก็ได้พบกับ มิกะ คุคุริ และทั่งคู่ก็ได้ไปที่ชมรมเซรามิกของโรงเรียน ที่ชมรมเธอได้พบกับ นาโอโกะ นารุเสะ สาวน้อยที่ชอบมาเที่ยวเล่นที่ชมรมอยู่บ่อยๆ และ โทโกะ อาโอกิ สาวน้อยผู้ที่มุ่งมั่นจะสร้างผลงานเซรามิกชิ้นเอก ที่ชมรมนี่เองที่ฮิเมะโนะได้รู้ว่าจริงๆแล้วแม่ของเธอเป็นยอดนักปั้นเซรามิกผู้มีชื่อเสียงโด่งดังของเมือง เธอจึงอยากจะลองเจริญรอยตามด้วยการลองปั้นเซรามิกดูนั่นเอง 

 


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้จะนำผู้ชมทุกท่านเข้าสู่โลกแห่งการปั้นเครื่องเคลือบเซรามิก เนื้อหาจะสอนเรื่องการปั้น การเผา การเคลือบน้ำยา การอบ เทคนิคต่างๆนาๆ เรียกได้ว่าสอนรายละเอียดลึกจนถึงขนาดเอาไปทำตามได้กันเลยทีเดียว ตัวละครก็น่ารักสดใส เรื่องราวของสาวๆก็มีแบคกราว์นมีปมต่างๆของตัวเองตามประสาวัยรุ่น เรียกได้ว่าสอดแทรกความรู้ด้านเซรามิกเข้ากับเรื่องราวดราม่าได้ดีพอสมควรทีเดียว

ข้อด้อย :

    เนื่องจากมันเป็นอนิเมะแนวสาวๆทำชมรมอะไรสักอย่าง เรื่องราวเลยไม่ได้มีอะไรมากมายนอกจากการทำเซรามิก คนที่ชอบแนวแอ็คชั้นแฟนตาซีอะไรแบบนั้นก็อาจจะไม่ชอบก็ได้ เนื่อเรื่องก็ดำเนินไปเรื่อยๆเอื่อยๆแบบสโลว์ไลฟนะแหละ ไม่ได้มีดราม่าอะไรมากมาย โดยรวมก็สนุกดีดูได้เพลินๆน่ะ  

    สำหรับเมืองทาจิมิก็เป็นเมืองที่ขึ้นชื่อด้านเซรามิกจริงๆนะแหละ หลายๆโลเคชันที่อยู่ในอนิเมะก็มีอยู่จริงด้วย ถ้าใครเห็นแล้วอยากจะตามรอยก็สามารถบินไปเที่ยวกันได้เลยนะครับ สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ก็มีอยู่สองซีซันแล้วก็มีเทปพิเศษที่สาวๆนักพากย์ไปเที่ยวกันที่ทาจิมิกันด้วย สนใจยังไงก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ 

Official Anime Website -> https://yakumo-project.com/

 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->



วันศุกร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.34 : The Hero Is Overpowered but Overly Cautious この勇者が俺TUEEEくせに慎重すぎる

 สวัสดีครับ ช่วงนี้อากาศร้อนๆ เลยอยากจะดูอนิเมะแนวฮาๆเบาสมองดูบ้าง วันนี้ก็เลยนึกถึงเรื่องนี้เลยครับ Cautious Hero: The Hero Is Overpowered but Overly Cautious この勇者が俺TUEEEくせに慎重すぎる (ชื่อภาษาไทยคือ ผู้กล้าสุดแกร่งขี้ระแวงขั้นวิกฤติ) เรื่องราวจะเป็นยังไงมาลองดูกันครับ

 


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของเทพธิดารีสตาเต้ ผู้ถูกเลือกในภารกิจให้กอบกู้โลกกาแบรนจากจอมมาร เธอจึงเลือกเซยะ ริวกุอิง ผู้มีแววจะเป็นผู้กล้ามากที่สุดเพื่อมาจัดการกับจอมมาร แต่เซยะนั่นแทนที่จะเป็นผู้กล้าแบบทั่วไปแต่กลับเป็นคนที่ขี้ระแวงและไม่ไว้วางใจอะไรสักอย่าง ก่อนจะทำอะไรก็ต้องเตรียมพร้อมแบบสุดๆถึงจะค่อยลุย ทำให้เทพธิดาริสตาเต้ปวดหัวเป็นอย่างมาก เรื่องราวจึงดำเนินไปด้วยความป่วนของทั้งเทพธิดาและผู้กล้าขี้ระแวงนั่นเอง



ความคิดเห็น:

    ดูเรื่องนี้เรียกได้ว่าขำตั้งแต่ตอนแรกกันเลยทีเดียว โดยเฉพาะคาแร็กเตอร์ของเทพธิดารีสตาเต้(ริสต้า)ที่เรียกได้ว่าทั้งรั่วทั้งลามกทั้งตบมุกชนิดไม่ห่วงสวยกันเลยเชียว ส่วนพระเอกก็เรียกได้ว่าเป็นตัวตรงข้ามกับเทพธิดาแบบสุดๆ ทั้งปากร้ายทั้งขี้ระแวงไม่ไว้ใจใครเลย มันก็เลยเหมือนกำลังดูคู่ตลกดูโอ้ยิงมุกกันไปตลอดทั้งเรื่องละนะ

ข้อด้อย :

    ข้อด้อยก็อาจจะเป็นเรื่องที่นางเอกที่พูดเร็วเป็นต่อยหอย บางทีก็ฟังไม่ทันเหมือนกัน ส่วนตัวเนื้อเรื่องก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมาก เป็นแนวผู้กล้าไปต่างโลกแบบทั่วๆไปนะแหละ แต่ท้ายๆเรื่องเขาจะเฉลยว่าทำไมพระเอกมันถึงได้ขี้ระแวงซะขนาดนั้นละนะ (ว่าที่จริง พวกผู้กล้าที่โดนอัญเชิญไปต่างโลกก็ควรจะระแวดระวังให้มากๆเหมือนเซยะจะดีกว่าละมั้ง ไม่รู้ทำไปถึงเชื่อใจพวกเทพพระเจ้าเทพธิดาได้ง่ายๆซะเกือบทุกเรื่องสินา)

    กล่าวโดยสรุป สำหรับท่านที่ชอบแนวต่างโลกแบบตลกๆอยากจะดูอนิเมะเพื่อคลายเครียดคลายร้อนก็ขอแนะนำเรื่องนี้เลยครับ รับประกันความฮาได้เลยจ้า

 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->



วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2567

Anime No.33 : Diary of Our Days at the Breakwater 放課後ていぼう日誌

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมหนีควันทางภาคเหนือมาเที่ยวทะเลภาคใต้ (ฝากแช่งถึงคนที่เผาป่าเผานาขอให้มีอันเป็นไปในสามวันเจ็ดวันเตอะ จะเก็บของป่าจะทำนาไม่ว่าจะเผาทำ*ตุ๊ด*อะไรฟะ) ว่าแล้วก็นึกถึงอนิเมะที่มีเรื่องเกิดขึ้นแถวๆชายทะเลขึ้นมาในบัดดล ซึ่งก็คือเรื่องนี้ 放課後ていぼう日誌 Diary of Our Days at the Breakwater (ชื่อภาษาไทยคือ บันทึกชมรมริมเขื่อนหลังเลิกเรียน) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรลองมาดูกันครับ

Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ : 

    เรื่องราวของ ฮินะ ซึรุกิ สาวน้อยม.ปลายที่พึ่งย้ายบ้านจากโตเกียวกลับมาบ้านเกิดที่เมืองอาชิคิตะจังหวัดคุมะโมโตะในเขตคิวชู ระหว่างที่ไปเดินเล่นริมเขื่อนกันคลื่นทะเล เธอได้พบกับ ยูคิ คุโรอิวะ รุ่นพี่หมวกฟางที่กำลังตกหมึกอยู่ก็เลยได้โอกาสลองตกหมึกด้วย ด้วยเหตุบางอย่างก็เลยโดนชวนเข้าชมรมริมเขื่อนที่กำลังแย่เพราะสมาชิกชมรมไม่พอ แม้ว่าฮินะจังจะเป็นพวกกลัวการสัมผัสกับสิ่งมีชีวิตแต่ก็ไม่อาจจะทนความสนุกของการตกปลาและความอร่อยของอาหารทะเลที่ตกได้มาแบบสดๆได้จนสุดท้ายก็เข้าชมรมจนได้ เรื่องราวการตกปลาของเหล่าสาวน้อยม.ปลายจึงเริ่มขึ้นเช่นนี้เอง

 



ความคิดเห็น :

    เนื้อเรื่องก็เป็นแนวชมรมที่กำลังจะโดนยุบเพราะคนไม่พอซึ่งก็เป็นพล๊อตที่นิยมใช้เวลาตัวเอกจะเข้าชมรมอะไรกันสักอย่างละนะ เนื้อหาก็จะเป็นเทคนิคในการตกปลาต่างๆนาๆรวมไปถึงการทำอาหารจากปลาที่ตกมาได้ด้วย เรียกได้ว่าถ้าเป็นคนชอบทำบาปด้วยการตกปลาก็คงจะชอบเรื่องนี้ด้วยแหละ 

ข้อด้อย :

     ตัวเรื่องไม่ได้มีดราม่าอะไรมากไป การดำเนินเรื่องก็จะเอื่อยๆไปเรื่อยๆตามสไตล์แนวสาวน้อยชมรมอะไรสักอย่างละครับ นอกจากการตกปลาแล้วก็แทบจะไม่มีอะไรเลย นางเอกก็โก๊ะๆเอ๋อๆตามแบบพิมพ์นิยมของชาวญี่ปุ่นเขาละครับ

    นอกจากความรู้ด้านการตกปลาแล้ว ในด้านการออกแบบตัวละครสาวๆก็ว่าน่ารักดี มียิงมุขตลกเฮฮาโป๊ะเป๊ะกันไปตลอดเรื่อง เรียกได้ว่าดูได้สนุกดีไม่มีพิษภัยอะไร คิดว่าเด็กๆเล็กๆก็น่าจะดูได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ แถมดูเหมือนเรื่องนี้จะดังจนเขาไปทำเวอร์ชันคนแสดงด้วย สนใจแบบไหนก็ลองหามารับชมได้นะครับ


Official Anime Website -> https://teibotv.com/


ส่งท้ายขายของ มังงะของกระผมขอรับ  ->