วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2566

Anime No.14 : The Journey of Elaina 魔女の旅々

 สวัสดีครับ ผมพึ่งกลับมาจากการเดินทางไกล ว่าถึงเรื่องการเดินทางก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลยครับ The Journey of Elaina 魔女の旅々การเดินทางของคุณแม่มด เรื่องราวจะน่าสนใจแค่ไหน มาดูกันเลยครับ

    

 

Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวในโลกแฟนตาซีที่มีแม่มดขี่ไม้กวาดบินได้และมีเวทมนต์คาถาต่างๆนาๆ สาวน้อย อิเลน่า ผู้อยากเป็นแม่มดและออกเดินทางไปสัมผัสโลกกว้างเช่นเดียวกับเรื่องราวเมื่อสมัยยังเป็นเด็กๆเธอเคยอ่านในหนังสือขายดีที่แม่มดชื่อดังได้เขียนไว้ เธอได้พบกับ ฟราน แม่มดแห่งละอองดาวผู้มีนิสัยแปลกประหลาดที่ได้มาเป็นครูผู้ฝึกฝนให้อิเลน่ากลายเป็นแม่มดที่สมบูรณ์แบบ หลังจากที่เธอสอบผ่านได้เป็นแม่มดที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เธอจึงได้ออกเดินทางไปผจญภัยเรื่องราวต่างๆในโลกอันกว้างใหญ่


ความคิดเห็น :

    ดูตอนแรกผมนึกว่าเป็นแนวแฟนตาซีพ่อมดน้อยแม่มดน้อยแบบแฮรี่พอตเตอร์ยิงคาถาสู้ใส่กันหรือเปล่า แต่ดูๆไปแล้วกลับไม่ใช่ มันเป็นอนิเมะแนวปรัชญามากกว่าครับ ในการเดินทางของอิเลน่าเธอจะได้เจอกับผู้คนต่างๆนาๆพร้อมกับเรื่องราวมากมายให้ต้องได้เรียนรู้ บางเรื่องก็ตลกขบขัน บางเรื่องก็ชวนเศร้าน่าหดหู่ บางเรื่องก็โหดร้ายไปเลยก็มี แต่มันก็สะท้อนเรื่องราวในโลกได้เป็นอย่างดีว่าใดๆในโลกล้วนอนิจจัง สุขบ้างเศร้าบ้างสมหวังบ้างผิดหวังบ้างจึงเป็นเรื่องธรรมดา

ข้อด้อย :

    มันก็มีบางตอนที่เนื้อเรื่องที่ออกจะขมเกินไปหน่อยสำหรับเด็กๆละครับ แนะนำว่าให้ผู้ใหญ่ดูคงจะดีกว่า อีกอย่างตัวของอิเลน่าเองก็เป็นประเภทที่ไม่ยุ่งกับเรื่องของคนอื่น คือจะไม่ทำตัวเป็นฮีโร่คอยช่วยใครหรือตัดสินว่าอะไรถูกอะไรผิด เธอแค่เรียนรู้และทำความเข้าใจในผู้คนที่ได้พบเจอระหว่างเดินทาง เรื่องบางเรื่องเลยเหมือนปล่อยให้มันเป็นไปเช่นนั้นแล 

    อย่างไรก็ดี โดยรวมแล้วถือว่าเรื่องนี้ดูได้สนุกได้ข้อคิดหลายๆอย่าง เพลงเปิดปิดก็ไพเราะดี เข้าใจว่าน่าจะมีภาคต่อด้วยละนะครับ แนะนำให้รับชมได้อีกเรื่องละนะครับ 

 

ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์คำพูดของเฟย์จังครับ ->


 

วันศุกร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2566

Anime No.13 : Macross Zero マクロス ゼロ

 สวัสดีครับ ได้ดูข่าวโชว์ซากมนุษย์ต่างดาว(ดูมันเหลี่ยมๆยังไงชอบกล)ในรัฐสภาของแม็กซิโกก็ทำให้นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา Macross Zero マクロス ゼロ มาครอสซีโร่ เพราะมันมีการกล่าวถึงทั้งเรื่องมนุษย์ต่างดาวและชนเผ่ามายัน(ซึ่งชนเผ่ามายาหรือชาวมายันนี่ก็จริงๆอยู่แถวแม็กซิโกนี่แหละครับ) เรื่องราวจะเป็นยังไงนั้น มาลองดูกันเลย

     

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวย้อนกลับไปในปี 1999 เมื่อยานอวกาศขนาดใหญ่ลึกลับ(ซึ่งก็คือมาครอสน่ะแหละ)ได้ตกลงมายังโลก มนุษย์จึงได้รับรู้ว่าเราไม่ใช่อารยธรรมนึ่งเดียวในห้วงอวกาศอีกต่อไป จากนั้นมนุษย์จึงมีการแตกแยกกันแย่งชิงเทคโนโลยี่ของมนุษย์ต่างดาว จนเกิดเป็นฝั่งสหประชาชาติ UN.Spacy และฝั่งแอนตี้UN ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามจะแยกชิงซากมนุษย์ต่างดาว(หรืออาจจะเป็นอาวุธที่มนุษย์ต่างดาวโปรโตคัลเจอร์ทิ้งไว้) เวลาล่วงไปถึงปี 2008 (หนึ่งปีก่อนที่มนุษย์ยักษ์เซนทราดี้จะบุกโลก) ชิน คุโด นักบินเครื่องบินรบได้ถูกเครื่องบินที่แปลงร่างเป็นรูปร่างหุ่นยนต์ได้ยิงตกกลางทะเล เขาลอยไปติดเกาะแห่งหนึ่งและได้ไปพบกับ ซาร่า โนม หมอผีประจำเผ่ามายัน ผู้ไม่ชอบวัฒธรรมภายนอกเอาซะเลย และ มาโอะ โนม น้องสาวของซาร่าผู้หลงรักชินและอยากจะออกจากเกาะไปสัมผัสวัฒธรรมภายนอกซะเต็มแก่ เรื่องราวความขัดแย้งและการแย่งชิงซากมนุษย์ต่างดาวจึงเริ่มลุกเข้ามายังเกาะอันแสนสงบแห่งนี้อย่างหลีกเหลี่ยงไม่ได้


 

ความคิดเห็น :

    ถ้าดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าโลเคชันมันดูคุ้นๆก็ไม่ต้องแปลกใจไปหรอกครับ เพราะเขามาเก็บข้อมูลจากเกาะพีพีบ้านเราไปเป็นต้นแบบ ชนเผ่ามายันนี่ก็คือคนไทยนี่แหละครับ สำหรับเนื้อเรื่องก็ค่อนข้างเข้มข้น มีข้อคิดหลายอย่างที่ได้นอกจากการต่อสู้กลางอากาศ Dog Fight ที่จัดได้ว่าดีที่สุดในซีรี่ย์มาครอส สำหรับผมแล้วยังประทับใจกับคำพูดของซาร่าที่ว่า"เรามีทะเลมีภูเขา เราได้อาหารได้ที่อยู่จากธรรมชาติอยู่แล้ว ชีวิตยังจะต้องการอะไรมากกว่านี้อีกละ" บางทีความว้าวุ้นวุ่นวายทั้งหลายในโลกคงอาจจะเป็นเพราะมนุษย์เราไม่รู้จักคำว่า"พอ"นี่แหละกระมัง 

ข้อด้อย :

    เนื่องจากมันเป็น OVA สั้นๆ แค่5ตอนจบก็เลยอาจจะเดินเรื่องเร็วไปนิด ความสัมพันธ์ของตัวละครก็ดูจะพัฒนาเร็วไปหน่อย(ประมาณว่ามันไปรักกันตอนไหนเนี่ย) เพลงประกอบก็ไม่ได้เด่นเหมือนภาคอื่นๆเท่าไหร่ แต่โดยรวมก็ยังสนุกมากครับ 

    ภาคนี้จริงๆเป็นภาคปฐมบทของภาคต่างๆที่จะมาในภายหลัง โดยเฉพาะภาคฟรอนเทียร์จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับภาคเซโร่อยู่พอสมควร ส่วนของเพลงในภาคนี้จะเป็นแนวโอเปร่ากับเพลงชนเผ่ามากกว่าแนวป๊อบในภาคอื่นๆ (สังเกตุว่าเพลงของนักร้องแห่งสายลมจะร้องเป็นแนวโอเปร่านี่แหละ ทั้งในภาคเซโร่และภาคเดลต้า)  นอกจากนี้คุณจะได้ทราบเหตุผลว่าทำไม รอย ฟอกเกอร์ ถึงกลายเป็นคนขี้เหล้าแล้วก็สอนฮิคารุพระเอกภาคแรกให้รีบสารภาพรักกับคนที่ชอบซะอย่ามัวแต่เก็บความรู้สึกของตัวเองไว้ กล่าวโดยสรุปผมว่าภาคนี้ทำออกมาได้ดีมากถ้าคุณเป็นแฟนมาครอสแล้วก็จะพลาดไม่ได้ละครับ

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ

วันศุกร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2566

Anime No.12 : Are You Lost ? ソウナンですか?

 สวัสดีครับ วันนี้ก็นึกๆอยู่ว่าจะรีวิวอนิเมะเรื่องอะไรดี จู่ๆก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา Are You Lost ? ソウナンですか?(ชื่อภาษาไทยรู้สึกจะชื่อ"ช่วยทีSheติดเกาะ"อะนะ เฮอ) มันเป็นแนวเอาตัวรอดที่มีตัวเอกเป็นสาวๆนักเรียนมัธยม เรื่องราวจะเป็นยังไงมาดูกันเลยครับ

Source : https://sounandesuka.jp/
Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

     เรื่องราวสี่สาวมัธยมที่เครื่องบินตกระหว่างทางไปทัศนศึกษาต่างประเทศจนต้องมาติดอยู่บนเกาะร้างแห่งหนึ่ง ทั้งสี่สาวประกอบไปด้วย โฮมาเระ โอนิชิมะ ลูกสาวทหารผู้มีความรู้ด้านการเอาตัวรอดในธรรมชาติ(เพราะพ่อพาไปผจญภัยมาตั้งแต่ตอนเด็กๆ)  อาซูกะ สุซุโมริ สาวนักกีฬาผู้ปราดเปรียวและแข็งแรง มุซึ อามาตานิ สาวน้อยเด็กเรียนผู้รักในการอ่านและการเรียนรู้ สุดท้ายคือ ชิออน คุโจ ลูกคุณหนูผู้ไม่เคยพบความยากลำบากใดๆในชีวิต  ทั้งสี่คนจะต้องช่วยเหลือกันและหาทางเอาตัวรอดบนเกาะร้างแห่งนี้ให้ได้นั่นเอง


ความคิดเห็น :

    บอกก่อนว่าเขาจัดเรื่องนี้อยู่ในแนว18+เพราะสาวๆแทบจะแก้ผ้าใส่แต่ชุดชั้นในจับปลากันทั้งเรื่อง แต่ก็ไม่ได้เลยลิมิตอะไรไปมากกว่านั้นแหละ เอาเป็นว่าถ้าดูสาวน้อยแก้ผ้าจนชินแล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอก ดูเรื่องนี้แล้วผมนึกถึงการ์ตูนเก่าเรื่อง"ผู้รอดตาย" Survival อารมณ์ก็จะประมาณนั้นแหละ ตัวเอกต้องเอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆเพียงแต่ในเรื่องนี้จะเปลี่ยนเป็นสาวๆสี่คนมาติดเกาะร้างแทน (เนื้อเรื่องก็จะเบากว่าออกแนวตลกโปกฮาละนะ) แต่คนที่มีประโยชน์สุดในเรื่องก็คือโฮมาเระน่ะแหละก็เพราะเป็นลูกสาวทหารละนะ(ถ้าไม่มีโฮมาเระอยู่คนอื่นคงไม่น่าจะรอดได้) ในเรื่องนี้คุณจะได้รับความรู้ที่มีประโยชน์ในกรณีที่คุณเกิดไปติดเกาะหรือหลงป่า เช่น การสร้างเชลเตอร์ การทำกับดัก การหาอาหาร ข้อควรระวังต่างๆในการเอาชีวิตรอด เรียกได้ว่ารู้ไว้ใช้ว่าใส่บ่าแบกหามละครับ

ข้อด้อย :

    ผมว่าจำนวนตอนมันน้อยไปหน่อย ดูไปเพลินๆแป๊บๆก็จบซะแล้ว ตอนจบดูแล้วก็ยังไม่รู้ว่าจบจริงหรือเปล่า(หรือจะมีภาคต่อหรือเปล่าหว่า?) แต่โดยรวมก็สนุกดีครับ มุกตลกก็โป๊ะแป๊ะฮาดี ดูแล้วก็ได้ความรู้ดีด้วยละนะ (มันไปพีคตอนจบละนะ ไม่รู้เหมือนกันว่าในการทำแบบนั้นแล้วมันจะได้ผลทำให้ร่างกายได้รับน้ำโดยไม่ติดเชื้อโรคทำท้องเสียได้จริงหรือเปล่า คงต้องรบกวนคุณหมอช่วยยืนยันด้วยละนะครับ เฮอๆ) 

    แถมให้อีกนิด ชื่อภาษาญี่ปุ่นนี่เป็นการเล่นคำพ้องเสียงครับ  ソウナンですか? Sounandesuka ? เนี่ยเป็นคำอุทานประมาณ"ยังงั้นเหรอ ?" แต่ก็พ้องเสียงได้ว่า 遭難ですか?Sounandesuka ? ที่หมายความว่า "ประสบภัยงั้นเหรอ ?" ได้ด้วยเหมือนกัน (遭難 Sounan = ประสบภัย,เรือล่ม,หลงป่า) 

Anime Official Website -> https://sounandesuka.jp/


ส่งท้ายขายของครับ ลูกเจี๊ยบสติกเกอร์ไลน์ ->



วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2566

Anime No.11 : I'm Quitting Heroing 勇者、辞めます

 สวัสดีครับ ท่ามกลางกระแสอนิเมะแนวแฟนตาซีผู้กล้าไปต่างโลก(異世界)ที่เรียกได้ว่าออกมาแบบเยอะแยะเต็มไปหมด ก็พอเข้าใจว่าเด็กสมัยนี้คงจะเป็นพวกติดเกมแนวๆนี้แหละก็เลยทำอนิเมะแนวๆนั้นออกมาด้วยเพราะคิดว่าคงขายได้แน่ๆ แต่สำหรับคนรุ่นผมแล้วกลับรู้สึกว่ามันเยอะเกินไปหน่อยนะ หลายเรื่องดูแล้วก็เฉยๆ จะมีบางเรื่องแหละที่ดูเข้าท่าเพราะสอดแทรกอะไรบางอย่างเข้าไป อย่างเรื่องที่จะแนะนำในวันนี้ครับ I'm Quitting Heroing  勇者、辞めます ผมเลิกเป็นผู้กล้าแล้วครับ!! มาลองดูกัน ...

Source : https://yuuyame.com/special.html

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของจอมมารสาวเอชิดน่าผู้หวังจะพิชิตโลกกับเหล่าสี่ขุนพลที่ได้ผ่ายแพ้ให้กับผู้กล้าลีโออย่างหมดรูป ด้วยความที่ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆท่านจอมมารจึงรับสมัครคนเข้ากองทัพอีกครา ปรากฎว่าคนที่มาสมัครกลับกลายเป็นอดีตผู้กล้าลีโอนั่นเอง !! แม้จอมมารสาวเอชิดน่าจะไม่สบอารมณ์อย่างแรงแต่เหล่าสี่ขุนพลก็แอบจ้างงานผู้กล้าลีโอแบบลับๆ โดยให้ลีโอปลอมตัวและทดลองงานไปก่อน เรื่องราวหลังจากนี้จึงเป็นการที่ผู้กล้าลีโอต้องเข้ามาปรับปรุงกองทัพจอมมารที่ไม่เอาไหนเอาซะเลยให้ดีขึ้นให้ได้



ความคิดเห็น :

    ดูตอนแรกๆผมเข้าใจว่าเป็นแนวไปต่างโลกทั่วๆไป มีผู้กล้ามีจอมมารตามท้องเรื่องแต่ดูๆไปถึงจะรู้ว่ามันเป็นพล๊อตเรื่องการทำงานในบริษัทต่างหาก ผู้กล้าจะเป็นคนที่เก่งทั้งเรื่องการรบและเรื่องบริหารจัดการมากๆ (ซึ่งเขาจะเฉลยภายหลังว่าทำไมถึงเก่งขนาดนี้) ส่วนเหล่าสี่ขุนผลของจอมมารนี่ก็เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนของเหล่าหัวหน้างานที่ไม่ได้เรื่อง อันได้แก่ หัวหน้าที่แบกงานเอาไว้เองไม่กระจายงานบ้างละ หัวหน้าที่ใช้ลูกน้องไม่ตรงกับความถนัดบ้างละ หัวหน้าที่ชอบเปรียบเทียบความเก่งกาจของตัวเองกับลูกน้องบ้างละ และหัวหน้าที่มนุษยสัมพันธ์ไม่ได้เรื่องบ้างละ ซึ่งดูไปแล้วก็คิดถึงหน้าที่การงานของตัวเองกับเหล่าบอสเจ้านายทั้งหลายในชีวิตจริงขึ้นมาบ้างอยู่เหมือนกันละนะ เฮอะๆ 

ข้อด้อย :

    เพราะว่าเนื้อเรื่องแฝงมันเป็นเรื่องราวของคนทำงาน ถ้าให้เด็กๆดูก็อาจจะไม่อินเท่าไหร่ (แต่ถ้าให้วัยทำงานดูนี่อาจมีคนสะท้อนใจจนร้องไห้ออกมาบ้างก็ได้) จำนวนตอนออกจะน้อยไปหน่อย ไม่แน่ใจว่าจะมีภาคต่อหรือเปล่าอะนะ

    สำหรับอนิเมะเรื่องนี้โดยรวมก็สนุกดี ภาพก็สวย เพลงเปิดเพลงปิดก็ไพเราะดี ได้แง่คิดเรื่องการทำงานร่วมกันหลายอย่าง การนำพาองค์กรให้ไปในทิศทางเดียวกันให้ได้ ว่าที่จริงก็อยากจะให้คนที่เป็นหัวหน้างานได้ดูไว้บ้างก็จะดีเพื่อจะรู้จักปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นถูกใจเหล่าลูกน้องได้บ้างละนะครับ 


ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ของเฟย์จังครับ ->




วันศุกร์ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2566

Anime No.10 : Macross Δ マクロスデルタ

 สวัสดีครับ หลังจากดูไล่ดูมาครอสภาคเก่าๆไปเกือบหมดแล้วก็เลยมาดูมาครอสเดลต้าซึ่งเป็นมาครอสภาคล่าสุด(ฉายปี 2016) ซึ่งภาคนี้เท่าที่ดูเสียงของคนที่ดูแล้ว ดูเหมือนว่าเสียงจะแตกเป็นสองส่วนว่ามันไม่ค่อยสนุกหรือไม่ก็บอกว่าสนุกมากไปเลย จริงๆส่วนตัวผมดูแล้วก็คงบอกว่ามันสนุกมากนะ แต่ผมก็เข้าใจคนที่บอกว่าไม่ค่อยสนุกอยู่เหมือนกัน เพราะอะไรกันนั้นเรามาดูกันครับ 

source : https://en.wikipedia.org/wiki/Macross_Delta

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

    ปี2067หลังเหตุการณ์ในมาครอสฟรอนเทียร์สิ้นสุดลง 8 ปี ณ.กลุ่มดาราจักรบริสซิงเกอร์ในทางช้างเผือกอันห่างไกล มีการระบาดของโรค VAR ที่ทำให้คนที่ติดโรคเกิดอาการคลุ้มคลั่งและใช้ความรุนแรงขึ้นมา มีเพียงเสียงเพลงของกลุ่มยุทธการเสียงพิเศษเหล่าไอดอล Vakure เท่านั้นที่จะสยบอาการของโรคลงได้ ณ.ดาวทะเลทรายอัลชาฮาลสาวน้อยชาวดาววินเดอเมียร์ เฟรยา วีออน ได้แอบหนีจากดาวของเธอเพื่อมาสมัครออดิชันเข้าวงวัลคิวเร่ เธอได้พบกับ ฮายาเตะ อิลเมลมัล ที่ทำงานพิเศษขนของอยู่ที่ดาวดวงนี้ ขณะนั้นเองก็เกิดการกำเริบของโรค VAR ขึ้นพร้อมๆกับการโจมตีจากกลุ่มเครื่องวัลคิวรี่ลึกลับ ตอนนั้นเองที่กลุ่มไอดอลวัลคิวเร่และหน่วยเดลต้าโดยร้อยโท มิราจ ฟาริน่า จีนัส ได้เขามาช่วยทั้งคู่ไว้ ทั้งสองจึงตัดสินใจเดินทางไปยังดาวแร็กน่าเพื่อเข้าร่วมกับองค์กรเคออสในการต่อสู้กับศัตรูลึกลับในคราวนี้


 

ความคิดเห็น:  

    ต้องบอกว่าคนที่จะดูภาคนี้ได้สนุกจะต้องดูมาครอสภาคก่อนหน้ามาให้ครบทุกภาคก่อนละครับ เพราะเรื่องนี้เหมือนกับว่ารวมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่มาจากภาคอื่นมาไว้เลยทีเดียว ถ้าคุณดูแค่ภาคฟรอนเทียร์แล้วมาดูภาคนี้เลยคุณอาจจะรู้สึกงงๆเกี่ยวกับเนื้อหาว่ากำลังพูดถึงอะไรอยู่ (จริงๆผมว่าภาคเดลต้านี่มันเป็นภาคต่อของมาครอสเซเว่นมากกว่าเป็นภาคต่อของฟรอนเทียร์ละนะ) สำหรับแฟนๆมาครอสแล้วภาคนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นภาครวมของดีของแต่ภาคมาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการสู้กันกลางอากาศ dog fight แบบมาครอสซีโร่ การสู้กันด้วยเสียงเพลงแบบมาครอสทู การที่พระเอกไม่ฆ่าใครและตัวละครที่คิดถึงจากมาครอสเซเว่น เนื้อเรื่องที่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนแบบมาครอสฟรอนเทียร์ รวมถึงมีการกล่าวถึงพวกโปรโตคัลเจอร์มากกว่าภาคอื่นๆทีผ่านมาด้วย

ข้อด้อย : 

    เนื่องจากเขารวมเรื่องราวรายละเอียดไว้ค่อนข้างเยอะมาไว้ในเรื่องเดียว บางทีมันก็อาจจะเยอะเกินไป จนคนที่ไม่ได้ดูมาครอสแบบเก็บรายละเอียดมาก่อนก็อาจจะดูไม่รู้เรื่องได้ ตัวละครหลักภาคนี้ก็เยอะมากแถมโพล่มาทีเดียวแทบจะครบทุกตัว(พระเอกนางเอกAนางเอกBพวกวัลคีเร่อีกสี่คนหน่วยเดลต้าอีกสี่คนพวกภาคีอัศวินอีกหกคน)กว่าจะดูรู้เรื่องว่าใครเป็นใครทำอะไรก็ปาเข้าไปตอนที่ 4ที่ 5 นู้นแหละครับ ภาคนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เน้นรักสามเศร้าเท่าไร(เข้าใจว่าผู้สร้างเขาจงใจให้เป็นแบบนั้นละครับ)ก็เลยไม่ค่อยมีฉากใจเต้น ไม่มีการพลิกโพลอะไร พวกติดพล็อตรักสามเศร้าก็อาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไร ส่วนด้านเพลงประกอบเพราะว่ามันเป็นวงไอดอลเพลงมันก็เลยอาจจะไม่ค่อยเด่นมากเท่าที่ควร แต่พอผมลองไปฟังซ้ำไปซ้ำมามันก็ติดหูดีนะ โดยเฉพาะเสียงร้องของมิกุโมะนี่เรียกได้ว่าเด่นมาก น่าจะร้องเพลงแนวบลูหรือแจ็สได้ดีทีเดียวแหละ

    ส่วนตอนจบค่อนข้างจะจบเร็วไปหน่อย ตัวบอสก็ตายง่ายไปนิดนึง (แต่เขาก็ไปแก้ตัวในภาคหนังใหญ่ละนะ)ผมแนะนำให้ดูภาคหนังใหญ่ทั้งสองเรืื่องต่อละครับ น่าจะเข้าใจอะไรๆมากขึ้น(แต่เตือนไว้ก่อน ระวังดูจบแล้วน้ำตาจะไหลไม่รู้ตัวนะจ๊ะ)

 *** Spoiler Alert ต่อไปผมจะเขียนเกี่ยวกับเนื้อเรื่องของภาคนี้และหนังใหญ่รวมถึงภาคก่อนหน้าด้วย ถ้าใครไม่อยากจะถูกสปอยล์ก่อนก็ไม่ต้องอ่านต่อก็ได้นะครับ 

    1. Who is Lady M.? ดูแรกๆผมเดาว่าเลดี้เอ็มนี่น่าจะเป็นมิเลนหรือมิเรียมากกว่า ด้วยที่ว่าถ้าเป็นมินเมย์นี่น่าจะแก่เกินไปแล้วสำหรับภาคนี้(จริงๆก็น่าจะ70-80กว่าๆเหมือนเฮียแม็กซ์นะแหละ มิเรียนี่ว่าเป็นเมลทราดี้อาจจะแก่ช้ากว่าคนธรรมดาก็ได้) แถมดูเหมือนว่าเลดี้เอ็มจะมีอิทธิพลในวงการทหารของกองทัพร่วมด้วย สามารถสั่งหรือขอร้องให้ชะลอคำสั่งให้ระเบิดโบราณสถานได้นี้ก็ต้องเป็นระดับบิ๊กๆแหละ(ซึ่งลินน์มินเมย์ก็คงจะไม่มีบทบาทอะไรแบบนี้)แต่พอเขาเฉลยในภาคหนังใหญ่ Zettai Live !!ว่า M เนี่ยคือ Megaroad-1 น่ะแหละ ซึ่งเมก้าโรดวันนี่คือยานอพยพพลเมืองลำแรกที่ออกเดินออกจากโลก ซึ่งบนนั้นมีมิสะกับฮิคารุและลินน์มินเมย์ไปด้วย(ก็แปลกๆอยู่ว่าสามคนนี่ยังคบกันกันได้อยู่หน่อ)ซึ่งปรากฏว่ายานมันเกิดหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย ฉนั้นแล้วเลดี้เอ็มก็คงหมายถึงทั้งมิสะและมินเมย์นะแหละ(สังเกตุตอนที่ตัวร้ายยิงลำแสงใส่เมก้าโรดวันจะมีเงาคนสองคนอยู่ละนะ)

    2. ในตอนจบซีรี่ย์ทีวีของภาคฟรอนเทียร์ จะมีอยู่ฉากนึ่งที่เจ้าของหน่วย S.M.S ที่เป็นมนุษย์ยักษ์แกเปิดล็อกเก็ตที่มีรูปของมินเมย์อยู่แล้วเหมือนจะเศร้าเสียใจอะไรบางอย่างด้วย ตอนนั้นผมก็รู้สึกว่ามันแปลกๆเพราะเราก็ไม่ทราบเหตุว่าทำไมเขามาร่วมขบวนการที่จะจัดการกับวาจูร่าด้วย แต่ผมก็ติดใจกับประโยคของแคลร์ที่ว่า"ใครที่ควบคุมวาจูร่าได้ก็เหมือนกับได้พลังของพระเจ้า สามารถไปมิติไหนก็ได้ ข้ามผ่านกาลเวลาได้ หรือแม้แต่จะเอาคนที่ตายไปแล้วกลับมาก็ยังได้" ซึ่งมันก็ทำให้คิดไปได้ว่าหรือจริงๆเจ้าของ S.M.S นี่อาจจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ของลินน์มินเมย์ ก็เลยพยายามจะเข้าควบคุมวาจูร่าเพื่อที่จะพาลินน์มินเมย์กลับมาอีกครั้งก็เป็นได้(จริงๆเมก้าโรดวันอาจจะไม่เคยหายไปไหนแต่เพราะเหตุการณ์ที่วาจูร่าถูกมนุษย์ควบคุมได้นี่แหละที่ทำให้เมก้าโรดวันถูกพาข้ามมิติกาลเวลามาอยู่ในยุคของมาครอสเดลต้า มิสะกับมินเมย์ก็เลยอาจจะไม่ได้แก่ลงเลยก็เป็นไปได้นะ)

    3.จากคำพูดของอีตาแขกขายอาวุธนี่ การเคลื่อนไหวของ Lady M เนี่ยดูเหมือนจะเริ่มขึ้นหลังเหตุการณ์ต่อสู้กับวาจูร่า(ซึ่งก็ตรงกับข้อสังเกตุในข้อ2.) เพียงแต่ว่าเมก้าโรดวันนี้อาจจะติดอยู่ในมิติปริภูมิย่อย(เริ่มยากแหละ)ก็เลยออกมาไม่ได้ก็เป็นได้(ใครงงๆว่ามันเป็นยังไงให้ดูเรื่อง Interstellaตอนที่ตัวเอกไปติดอยู่หลังตู้หนังสือน่ะแหละ)ก็เลยอาจจะทำได้แค่ทำการสื่อสารกับคนของเคออสให้ช่วยทำนู้นทำนี่ให้ ซึ่งมิติที่ติดอยู่นี่อาจจะเหมือนหรือคล้ายๆกับวิมานหรือสวรรค์ของเทพเจ้า(โปรโตคัลเจอร์?)ที่สามารถมองเหตุเหตุการณ์ความเป็นไปในจักวาลมาครอสได้ เลดี้เอ็มถึงได้ส่งข้อความเตือนหรือรู้ได้ทันท่วงทีว่าจะเกิดอะไรขึ้นได้ไง

    4.ตอนท้ายๆในมาครอสเซเว่นมีการจัดตั้งหน่วยยุทธการเสียงพิเศษ Jamming Birds ขึ้น(เพราะบาซ่าร่าไม่ยอมทำตามคำสั่งกองทัพ ทางกองทัพก็เลยบอกว่าไม่ง้อก็ได้ตั้งวงใหม่ขึ้นมาเองเลยละกัน)ซึ่งหน่วยนี้ก็ดูเหมือนจะไปไม่รอดในตอนนั้น แต่ผมว่ามันก็กลายเป็นต้นแบบของวงวัลคีเร่นี่แหละ มีการฝึกให้วิ่งไปร้องเพลงไปเหมือนกันด้วย แถมมีข่าวว่ามิเลนเข้าเทคโอเวอร์วงแจมมิ่งเบิร์ดนี่ภายหลังเพื่อจะแก้เผ็ดบาซ่าร่า(ถึงมันจะอยู่แค่การ์ตูนเสริม Mylene Beat ไม่อยู่ในภาคหลักก็เหอะ)ก็เลยทำให้คิดไปไกลว่าเลดี้เอ็มนี่คือมิเลน แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่อะนะ

Source : https://macross.fandom.com/wiki/Jamming_Birds

Source : https://macross.fandom.com/wiki/Jamming_Birds


    5.ในซี่รี่มาครอสนี่จริงๆมีตัวละคร LGBTQ+ อยู่ตลอด แต่ภาคเดลต้านี่น่าจะเป็นภาคแรกที่มีบทที่ดูคล้ายๆว่าจะเป็นความรักแบบ LGBTQ+ อยูู่ ซึ่งก็คือเรนะกับมากินะน่ะแหละ เห็นจับมือกันตลอด ส่วนฝ่ายชายที่ออกจะวายๆนี่ก็เหมือนจะมีอะไรลึกๆระหว่างนายกรอยด์กับท่านอัศวินขาวคีสละนะ แต่มันก็ไม่ได้ชัดเจนอะไรขนาดนั้น อนิเมะสมัยนี้นิดๆหน่อยๆก็ต้องใส่บทแบบนี้เขามาแหละ

    6.สำหรับคนที่ว่าภาคหนังใหญ่นี่ไม่มีอะไร เป็นแค่เอาภาพจากทีวีซีรี่มาตัดต่อเปลี่ยนบทนิดหน่อย มันก็จริงละครับ เพราะภาคหนังใหญ่ของมาครอสเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็นเหมือนเหล้าเดิมในขวดใหม่แต่เขาก็จะตัดบทหรือเพิ่มบทเพิ่มเพลงให้คนดูเข้าใจเนื้อเรื่องได้ง่ายขึ้น(อารมณ์เหมือนละครคู่กรรมฉายทางทีวีเสร็จแล้วเรายังไปทำหนังคู่กรรมฉายทางโรงหนังต่อน่ะแหละนะ) มันก็เลยอาจจะเหมาะกับคนที่ไม่เคยดูซีรี่ทางทีวีมาก่อน คนที่ดูแบบไม่ครบทุกตอน หรืออาจะเป็นแฟนพันธุ์แท้ที่อาจจะอยากเห็นฉากต่อสู้กลางอากาศบนจอใหญ่อีกทีก็ได้ (ถ้าคุณพอใจบทสรุปในทีวีซีรี่แล้วก็ไม่ต้องดูภาคหนังโรงก็ได้อะนะ) จะมีก็แค่หนังใหญ่ของมาครอสเซเว่นเท่านั้นแหละครับที่เป็นตอนพิเศษที่เอาฉายควบกับมาครอสพลัสฉบับโรงภาพยนตร์น่ะ

    กล่าวโดยสรุป จะเห็นได้ว่ามาครอสเนี่ยมันมีความลึกซึ้งในเนื้อหามากๆ ทั้งเรื่องความเป็นไซไฟ เนื้อหาที่อิงมาจากความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ ความสัมพันธ์ของตัวละครในแต่ละภาค ซึ่งถ้าจะดูให้สนุกคุณต้องดูแบบคิดวิเคราะห์แยกแยะไปด้วยละครับ ถ้าดูเอาเพลินๆเฉยๆก็อาจจะคิดไปได้ว่ามันเป็นแค่หนังไซไฟน้ำเน่ารักสามเศร้าที่มีคนร้องเพลงกับหุ่นยนต์ยักษ์แปลงร่างได้ได้นะ ฮึๆ 

 

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ