วันศุกร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Anime No.9 : Mobile Suit Gundam: The Witch from Mercury 機動戦士ガンダム 水星の魔女

 สวัสดีครับ หลังจากที่รีวิวมาครอสไปสองภาคแล้วก็เลยคิดว่าจะรีวิวกันดัมดูบ้าง บอกก่อนเลยครับว่าผมเป็นแฟนมาครอสมากกว่าก็เลยอาจจะไม่ได้อินกับกันดัมสักเท่าไร เรื่องกันดัมที่เคยดูแรกสุดเลยก็คงเป็นภาคแรกอามุโร่ตอนที่เขามาฉายช่องเจ็ด สมัยนั้นเด็กมากเลยดูไม่รู้เรื่องเท่าไร เลยวัยนั้นมาหน่อยก็เป็นกันดัมวิงที่มาฉายทางช่องเก้า ก็สนุกดีนะรู้สึกเหมือนดูสามก๊กเวอร์ชันโมบิลสูท(ผมว่ามันเป็นกันดัมเวอร์ชันบอยแบนด์ละนะ) หลังจากนั้นมากันดัมเรื่องล่าสุดที่ได้ดูก็คือภาค Mobile Suit Gundam: The Witch from Mercury 機動戦士ガンダム 水星の魔女 แม่มดจากดาวพุธนี่แหละครับ เรื่องราวจะเป็นยังไงมาดูกัน

source : https://gundam.fandom.com/wiki/Mobile_Suit_Gundam_the_Witch_from_Mercury

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

     ในปีอวกาศที่ AS101 มีการคิดค้นระบบGUNDซึ่งเป็นระบบเชื่อมต่อระหว่างสมองมนุษย์กับเครื่องจักรทำให้สามารถควบคุมโมบิลสุทได้มีประสิทธิภาพราวกับว่าเป็นอวัยวะของตัวเอง แต่ระบบนี้ทำให้ร่างกายนักบินได้รับภาระหนักส่งผลให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ เลยมีการแบนและล่าสังหารกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองนี้อย่างโหดเหี้ยม

    ต่อมาในปีอวกาศที่ AS122 นักเรียนใหม่ ซูเล็ทต้า เมอร์คิวรี่ ก็ได้เดินทางมาจากดาวพุธพร้อมกันกันดัม Aerial(ซึ่งเธอก็บอกว่าไม่ใช่กันดัมนะจ๊ะ)เพื่อเข้าเรียนในโรงเรียนเทคนิคอวกาศแอสติคาสเซีย ที่นั้นเองเธอได้พบกับ มิโอริเน่ เรมบราน ลูกสาวประธานเบเนริทกรุ๊ป กลุ่มบริษัทเทคโนโลยี่อวกาศที่ผูกขาดการค้าแบบเบ็ดเสร็จ มิโอริเน่พยายามจะหนีจากกฎที่พ่อของเธอให้มีการดวลโมบิลสูทกัน ผู้ชนะคนสุดท้ายจะได้เป็นเจ้าบ่าวของมิโอริเน่ จับพลัดจับผลูซูเล็ตต้าก็สามารถชนะ กูเอล เจ๊ตเติร์ก แชมป์คนก่อนไปได้เลยทำให้ซูเล็ตต้าได้ตำแหน่งว่าที่เจ้าบ่าวของมิโอริเนไปครอง ซูเล็ตต้าจึงต้องพยายามรักษาแชมป์เอาไว้ให้ได้  

 



ความคิดเห็น:  

    ต้องบอกว่าตอนดูซีซันแรก ผมว่าเนื้อเรื่องสนุกมาก มีการใส่ความเป็นยูริ(จนได้รับฉายาว่า Space Yuriด้วยซ้ำไป) ภาพสวยเนื้อเรื่องก็เดินได้ไหลลื่นดี เพลงประกอบก็อลังการ แม้ตอนท้ายซีซันจะมีดราม่าตบมะเขือเทศแตกแดงฉานอยู่บ้างผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะผมรู้อยู่แล้วว่ากันดัมมันไม่ใช่การ์ตูนสำหรับเด็ก แต่พอดูซีซันสอง ผมรู้สึกว่ามันเหมือนหนังคนละม้วน เหมือนเปลี่ยนเป็นแนวดาร์กไปเลย แถมดูแล้วก็ยังงงๆกับเหตุผลของตัวละครว่าจะทำยังงั้นไปทำไมหว่า(หรือต้องทำขนาดนั้นเลยรึ) โดยเฉพาะ"คุณแม่(ลากเสียงยาว)"ที่ไม่รู้จะวางแผนให้มันซับซ้อนไปอะไรกันนักหนา ตกลงจะเป็นศัตรูกับใครกันแน่ละหว่า ? (ถ้าให้ดาวเฉพาะซีซันแรกผมคงให้สักสี่ห้าดาวแหละครับ แต่พอรวมกับซีซันสองที่มันมีจุดที่รู้สึก"อีหยังหว่า"เยอะไปหน่อยก็เลยขอลดดาวลงมาเหลือสามดวงละกันครับ)

ข้อด้อย : 

    ก็อย่างที่บอกว่าผมเป็นแฟนมาครอสมากกว่า ที่ผมไม่ค่อยชอบกันดัมเพราะเนื่อเรื่องมันไม่ค่อยมีอะไร ส่วนใหญ่พล็อตก็จะเป็นสงคราม การแก้แค้น คอรัปชัน ความเลื่อมล้ำ การหักหลัง(วัยรุ่นบ้าการเมืองสมัยนี้น่าจะชอบกันก็ได้นะ)แล้วก็เน้นที่ตัวกันดัมหรือโมบิลสูทมากกว่าเนื้อเรื่องด้วยซ้ำไป (ผมว่าเขาคงอยากจะขาย Gunpla ซะมากกว่าละนะ เลยออกภาคใหม่มาบ่อยเหลือเกิน) ภาคนี้ก็เหมือนกัน แม้จะใส่ความเป็นยูริ(หญิงรักหญิง)เข้ามาแต่ก็ไปไม่สุด เหมือนจะทำเป็นรักสามเศร้า(แบบมาครอส)ระหว่างมิโอริเน่ ซูเล็ตต้า แล้วก็กูเอล แต่ดูแล้วก็เดาออกแหละว่าเจ้าสาวจะเลือกใคร แถมโมบิลสูทที่ประทับใจก็มีแค่แอเรียลของซูเลทต้าตัวเดียวด้วย(ตัวอื่นๆเหมือนมาให้แอเรียลเชือดทิ้งเท่านั้นแหละ)จะให้นึกชื่อตัวอื่นๆให้ออกตอนนี้ยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ(พลาโมเดลของตัวอื่นนี่จะขายได้หรือเปล่าหว่า?) ตอนท้ายๆก็ดันให้มีกัมดัมโพล่มาจากไหนไม่รู้อีกสองตัว ประมาณว่าบังเอิญบริษัททำเอาไว้ประดับสวนน่ะ เฮอๆ

    แน่นอนว่าสำหรับแฟนๆกันดัมยังไงก็คงจะชอบเรื่องนี้ละครับ เอาเป็นว่านี่เป็นความเห็นส่วนตัวของผมแล้วกัน อย่าโกรธอย่าดราม่ากันนะครับ สำหรับตัวละครที่ผมชอบกลับเป็นว่าผมชอบ กูเอล เจ๊ตเติร์ก มากกว่าครับ เพราะเรื่องที่เขาเจอนี่ก็โหดๆทั้งนั้น แต่เขากับลุกขึ้นสู้ได้อีกครั้งด้วยตัวของเขาเอง แถมยังเป็นคนที่เสียสละตอนท้ายๆเรื่องด้วย ผมว่าเขาเป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่น่านับถือเลยทีเดียว (เทียบกับเรื่องที่สองสาวยูริเจอมันก็เลยเบเบ้ไปเลย ถ้าจะชอบอีกอย่างก็คงจะเป็นปรัชญานับนิ้ว"ถ้าหนีก็จะได้อย่างเดียว แต่ถ้าเดินหน้าก็จะได้สองอย่าง"ของคุณแม่ละนะ คงคิดได้ตอนที่ไปของเซลล์แหงๆ ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ซื้อสองได้สี่ อะไรประมาณนั้น เฮอๆ )  

 

ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์คำพูดของเฟย์ครับ ->


      

วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Anime No.8 : How Heavy Are the Dumbbells You Lift? ダンベル何キロ持てる?

 สวัสดีครับ วันนี้เปลี่ยนบรรยากาศมาออกกำลังกายกับสาวๆดูบ้างดีกว่า สำหรับเรืื่องที่จะรีวิวในวันนี้ก็คือเรื่อง  How Heavy Are the Dumbbells You Lift? ダンベル何キロ持てる? แปลเป็นไทยได้ว่าคุณยกดับเบลหนักเท่าไร(อนิเมะสมัยนี้ก็นิยมตั้งชื่อยาวๆกันละนะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน) มาลองดูกันครับ

source : https://dumbbell-nan-kilo-moteru.fandom.com/wiki/Danberu_Nan-Kiro_Moteru%3F

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

     เรื่องราวของสาวน้อยมัธยม ฮิบิคิ ซากุระ ผู้ที่โดนเพื่อนทักว่าหมู่นี้ชักจะพองๆขึ้นนะ เธอจึงตัดสินใจจะไดเอ็ทแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดเพราะนิสัยกินแหลกนี่แหละ สุดท้ายเธอจึงตัดสินใจไปเข้ายิม Silverman Gym ดูเผื่อว่าจะสามารถลดน้ำหนักได้ ซึ่งที่นั่นเธอก็ได้พบกับ อาเคมิ โซริวอิน ประธานนักเรียนและนักเรียนดีเด่นที่แสนจะเลิศเลอเพอเฟคค์(แต่ดันเป็นสาวคลั่งนักกล้าม)ที่ก็มาลองออกกำลังกายด้วย ซึ่งทั้งคู่ก็โดนหนุ่มนักกล้ามสุดหล่อเทรนเนอร์ประจำยิม มาจิโอะ นารุโซะ ตกไปเป็นสมาชิกของยิมจนได้ พวกเธอจึงได้เริ่มออกกำลังกายกันแบบจริงๆจังๆกันซะที

 



ความคิดเห็น:  

    เรื่องนี้จะพาคุณเขาสู่โลกแห่งการออกกำลังกาย ทั้งในยิมและอะไรที่ทำเองได้ที่บ้านด้วย เรียกได้ว่าดูแล้วคุณจะอยากออกกำลังกายเพาะกล้ามกันขึ้นมาเลยทีเดียว ในเรื่องมีการให้ความรู้เกี่ยวกับท่าต่างๆที่จะเพิ่มความแข็งแรงของร่างกายส่วนนั้นส่วนนี้ ซึ่งก็เป็นความรู้ที่ค่อนข้างจะทันสมัยเลยทีเดียว เช่น เรื่องการที่ไม่ควรจะยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นการวอร์มอัพร่างกายก่อนการออกกำลังกาย เรื่องนี้เองก็พึ่งมีผลวิจัยออกมาเมื่อไม่นานมานี้ด้วย ถือได้ว่าดูไว้ก็ได้ความรู้ดีทีเดียวครับ

ข้อด้อย : 

    เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีสาวๆเป็นตัวเอก เวลาออกกำลังกายกันมันก็จะมีเสียงหายใจกันหนักหน่วงชวนสยิวไปหน่อย ฟังแล้วชวนจะให้เข้าใจผิดอยู่เหมือนกัน(เวลาดูถ้าเปิดเสียงดังระวังคนข้างห้องจะเข้าใจว่าเราดูอย่างอื่นอยู่อะนะ) มีการอธิบายการใช้งานเครื่องออกกำลังกายซึ่งก็เหมือนจะเป็นการขายของชวนให้เข้ายิมอยู่เหมือนกัน(จนๆอย่างผมชกลมอยู่บ้านนิแหละ เฮอๆ) 

     นอกจากนี้โดยรวมก็ต้องถือว่าเรื่องนี้เป็นอนิเมะที่ดูสนุกดีมีความรู้แถมให้ด้วย มุกตลกก็ฮาดีมีการล้อเลียนหนังอนิเมะเก่าๆในตำนานอยู่บ้าง คิดว่าคนที่อยากจะหาแรงบันดาลใจในการออกกำลังกายน่าจะลองดูเรื่องนี้ดูนะครับ คุณอาจจะลุกขึ้นเปลี่ยนตัวเองเหมือนกับฮิบิคิจังบ้างก็ได้

 ปิดท้ายขอขายของละครับ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบขอรับ ->


 

วันพฤหัสบดีที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Anime No.7 : Macross 7 マクロス7

 สวัสดีครับ พูดถึงเลข7ก็นึกถึงเรื่องนี้เลย Macross 7 ซึ่งเป็นอนิเมะที่ผมดูตอนเป็นวัยรุ่น(น่าจะสักม.4ม.5) พากษ์ไืทยฉายทางช่อง 7 สมัยนั้นก็เรียกได้ว่าดังในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เนื่องจากช่วงนั้นติดธุระบ้างติดสอบบ้างก็เลยดูไม่ค่อยจะได้ดูต่อเนื่องเท่าไร พอดีช่วงนี้ว่างๆหลังจากดู Macross Frontier เสร็จแล้วก็เกิดอยากย้อนไปดู Macross 7 ขึ้นมาก็เลยลองไปหามาดูจนจบครบทุกตอน มันทำให้ผมยิ่งประทับใจมากขึ้น เรื่องราวจะเป็นยังไงมาลองดูกันครับ

source : https://macross.jp/series-detail/macross7/

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

     เรื่องราวของกองยานสำรวจที่ 37 ชื่อกองยานมาครอสเซเว่น ในปีค.ศ 2045 กองยานก็ได้เผชิญหน้ากับศัตรูลึกลับโปรโตเดวิลที่มาดูดพลังชีวิตของประชาชนในกองยาน ในระหว่างการต่อสู้นั้นก็ได้มียานวัลคีรี่สีแดงมาก่อกวนด้วยการร้องเพลง ทำให้ร้อยโท แกมลิน คิซากิ ไม่พบใจอย่างมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ ต่อมาจึงรู้ว่าคนขับวัลคีรี่สีแดงนั้นก็คือ บาซ่าร่า เน็คคิ นักร้องนำเพลงร็อคแห่งวง Fire Bomber ซึ่งมีสมาชิกสี่คน ได้แก่ มิเลน แฟร์ จีเนียส มือเบส เรย์ เลิฟร็อค มือคีย์บอร์ด และ วีฮีด้า มือกลอง การใช้เสียงเพลงเพื่อสยบสงครามจึงเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งหนึ่ง


 

ความคิดเห็น:  

    ตอนดูสมัยก่อนตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรมาก คิดว่าเป็นอนิเมะแนวสงครามไซไฟอวกาศหุ่นยนต์แปลงร่างทั่วๆไปแหละ พระเอกเท่ดีเพลงก็มันส์สะใจสไตล์ชาวร็อค แต่พอมาย้อนดูอีกทีตอนเป็นผู้ใหญ่ผมถึงรู้สึกว่าเรื่องนี้มันลึกซึ้งกว่าที่คิดไว้เยอะ เพราะพระเอกบาซาร่าเนี่ยเป็นพระเอกในอนิเมะแนวสงครามที่ไม่ฆ่าใครเลยสักคนเลย !! ซึ่งหาไม่ได้แล้วสำหรับพระเอกในยุคนี้(พระเอกสมัยนี้ฟันคออสูรขาดแล้วค่อยมานั่งสงสารอะนะ) เรียกได้ว่าบาซ่าร่าเป็นพระเอกแห่งสันติภาพในอุดมคติเลยทีเดียว คำพูดของเขาที่ว่า 戦争なんてくだらねぇぜ!俺の歌をきけぇ = "สงครามอะไรนั่นมันไร้สาระ จงฟังเพลงของฉันซะ"มันยังคงก้องอยู่ในหัวใจของผมอยู่เลยบอกตง  

    นอกจากเพลงของวง Fire Bomber จะมันส์มากแล้ว ยังเป็นภาคที่มีเพลงของศิลปินคนอื่นๆอยู่ด้วยเช่นเพลง Galaxy ของอลิซฮอลิเดย์ เพลงจากมาครอสภาคแรกและ macross II ตัวละครต่างๆก็มีมิติมีเรื่องราวของตัวเอง มุกตลกดูอีกรอบก็ยังฮาอยู่ดี เรียกได้ว่าเขาอัพเกรดจากมาครอสภาคแรกขึ้นมาเยอะเลยทีเดียว

ข้อด้อย : 

    สำหรับข้อด้อยก็แน่นอนว่ามันเป็นการ์ตูนเก่าสมัยก่อนปี2000 ภาพยังเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสสำหรับทีวีสมัยนั้น แถมยังใช้ภาพซ้ำๆอย่างฉากรบกันฉากแปลงร่างอะไรแบบนั้น ตัวเนื้อเรื่องมีการแบ่งตอนเยอะจนอาจจะเดินเรื่องช้าไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับอนิเมะสมัยนี้ แล้วก็คิดว่าเขาลดความเข้มข้นเนื้อหาลงเพื่อให้เด็กๆดูได้ด้วยละนะ แต่โดยรวมก็ยังถือว่าดูได้สนุกอยู่ดีละครับ (จริงๆอยากให้เขาใช้ AI มาลองวาดภาพใหม่ให้มันทันสมัยขึ้นก็น่าจะดีนะ)

*** Spoiler Alert *** ต่อไปผมจะเขียนเกี่ยวกับเนื้อเรื่องที่ดูมา ถ้าใครยังไม่ได้ดูแล้วไม่อยากถูกสปอยล์ก่อนก็ไม่ต้องอ่านต่อก็ได้นะครับ

    1. ส่วนตัวผมว่าบาซ่าร่านี่เหมือนกับเป็นพระหรือนักบวชเลยทีเดียว เพราะนอกจากเขาจะไม่ฆ่าใครแล้ว เขายังเกลียดความรุนแรงทุกรูปแบบ(มีหลุดๆบ้างสองสามครั้งก็เหอะ) เป็นคนรักเด็กเมตตาสัตว์แถมไม่สนใจผู้หญิง(ในเชิงชู้สาว)อีกต่างหาก การที่ตอนเด็กๆเขาร้องเพลงหน้าภูเขาท่ามกลางพายุ(หวังว่าซักวันเสียงเพลงของเขาจะขยับภูเขาได้)มันก็เหมือนกับการฝึกตนของพระเซนหรือเซียนอีกต่างหาก(นั่นอาจจะเป็นสาเหตุที่เขาเข้าถึงสภาวะ Anima Spiritia ได้ก็เป็นได้)

    2. ผมดูๆไปแล้วก็เกิดสงสัยว่าจริงๆแล้วบาซาร่าเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันแน่? มีอยู่ตอนนึงที่แกมลินบอกกับมิเลนว่าบาซาร่าเขาบังคับวัลคีรี่ไปร้องเพลงไปได้แถมหลบกระสูนได้คล่องแคล่วอีกต่างหาก ในฐานะนักบินคงต้องยอมรับว่าบาซาร่าเก่งกว่าเขามาก แถมอาจจะเก่งกว่าแม็กซ์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักบินอัจฉริยะเสียอีก มันก็เลยอดสงสัยไม่ได้ว่าแล้วใครเป็นคนฝึกให้บาซ่าร่า จะว่าเป็นเรย์ก็คงไม่ใช่เพราะเรย์ก็ไม่ได้เก่งกาจอะไรขนาดนั้น ในอีกตอนต่อมาที่มีข่าวลือว่าบาซ่าร่าเป็นลูกลับๆของฮิคารุ(พระเอกภาคแรก)กับลินมินเมย์ (ได้พ่อแม่มาเขาถึงร้องเพลงเก่งแถมขับวัลคีรี่ได้ดีอีกไง) ซึ่งบาซ่าร่าก็เหมือนจะบอกว่าไร้สาระ แต่ผมก็เอะใจเลยย้อนกลับไปดูตอนที่เขาถ่ายหนังเรื่องเกี่ยวกับลินมินเมย์ ในตอนนั้นมิเลนต้องเล่นเป็นมินเมย์ส่วนบาซ่าร่าต้องเล่นเป็นฮิคารุ ผมสังเกตุว่าบาซาร่าเหมือนจะอารมณ์เสียตั้งแต่ต้นเรื่อง(จริงๆแกก็อารมณ์เสียตลอดเรื่องแหละ)แต่ดูเหมือนจะมีเหตุผลอะไรบ้างอย่างลึกๆที่บอกไม่ได้เหมือนกัน แถมพอพูดถึงลินมินเมย์บาซ่าร่าก็เหมือนจะทำหน้าเหม่อๆเศร้าๆยังไงบอกไม่ถูก หรือไอ้ข่าวลือที่ว่ามันจะจริงซะละมั้ง ?? (ตอนแรกผู้สร้างอาจจะเขียนบทให้บาซ่าร่าเป็นลูกลับๆของลินมินเมย์กับฮิคารุก็เป็นได้แต่ตอนหลังคงเปลี่ยนใจให้แค่ว่าเป็นเด็กกำพร้าคนนึงมีที่มาที่ไปเป็นปริศนาแทนก็เป็นได้นะ ผมคิดเอาเองน่ะ)


 

    3. เท่าที่ดูซีรีย์มาครอสมาผมว่าสาวๆสะพานเดินเรือของเรื่องมาครอสเซเว่นนี่แหละแจ่มที่สุดแล้ว แม้แต่ภาคหลังๆทำมาก็ยังออกแบบมาสวยสู้ไม่ได้อยู่ดี ก็ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน (เฮียแม็กซ์แกน่าจะคัดแต่คนสวยๆระดับมิสมาครอสมาแหละ เฮอๆ)  

       


source : https://macross.fandom.com/wiki/Macross_Operators

    4. ถ้าถามว่าชอบตัวละครหญิงคนไหนมากที่สุด ถ้าเป็นตอนที่ดูครั้งแรกก็ต้องบอกว่าชอบมิเลนมากที่สุดละครับ เพราะเธอเป็นนางเอกประเภทแก่นแก้วแสนซนเอาแต่ใจตัวเอง(แนวลูกสาวกำนันว่างั้น)ซึ่งก็ว่าน่ารักดีแหละ แต่พอดูอีกรอบ ผมว่าแก่ๆไปแนวโน้มมิเลนน่าจะขี้บ่นขี้ยัวะเหมือนแม่เขาก็ได้นะ(นิสัยตอนโกรธก็เหมือนกันเปี๊ยบด้วย) ผมก็เลยสนใจตัวละครอีกคนที่ไม่มีบทพูดอะไรเท่าไร ไม่ ไม่ใช่วีฮีด้าหรอกครับ แต่เป็นสาวน้อยช่อดอกไม้(花束少女)ต่างหากละ ผมว่าเธอเป็นสาวน้อยที่มีความอดทนและรักแท้ในตัวบาซ่าร่ามากๆ ไม่ว่าบาซ่าร่าจะไปไหนเธอก็จะตามไปให้กำลังใจเสมอ(สมัยนี้อาจจะเรียกได้ว่าอีกนิดนึงก็เข้าขั้นเป็นสโตรกเกอร์แล้วก็เฮอะ) จริงๆผมก็อยากให้เขาสร้างตอนพิเศษให้สาวน้อยช่อดอกไม้สักหน่อยก็ยังดีนะ ความพยายามเยอะซะขนาดนั้น (เฉลยปริศนา เสียงพากษ์ของสาวน้อยช่อดอกไม้กับซิวิลเนี่ย... เป็นคนเดียวกันครับ)



 

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ

วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566

Anime No.6 : Taisho Otome Fairy Tale 大正処女御伽話

 สวัสดีครับ สัปดาห์ที่แล้วแนะนำเรื่องสำหรับสายดาร์คไปแล้ววันนี้ก็ขอแนะนำเรื่องสำหรับสายหวานหน่อยละกัน คิดว่าคุณผู้หญิงคงจะชอบกัน สำหรับเรื่องที่จะแนะนำในวันนี้นั้นก็คือ Taisho Otome Fairy Tale 大正処女御伽話 (รู้สึกชื่อไทยจะชื่อเรื่องเล่าของสาวน้อยยุคไทโช) เรื่องราวจะเป็นอย่างไรลองมาดูกันครับ

Source : https://taisho-otome-fairy-tale.fandom.com/wiki/Taisho_Otome_Fairy_Tale_(Anime)

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวเกิดขึ้นในยุคไทโช(เทียบกับบ้านเราก็ประมาณรัชกาลที่ 5-6 แหละ เป็นช่วงที่ญี่ปุ่นรับวัฒธรรมตะวันตกเข้ามาแล้วมีไฟฟ้ามีรถไฟมีห้างสรรพสินค้า ก็เป็นยุคเดียวกับในเรื่องดาบพิฆาตอสูรละนะ) ทามาฮิโกะ ชิมะ ลูกชายคนเล็กของตระกูลชิมะอันร่ำรวยและทรงอิทธิพล วันหนึ่งเขาเจออุบัติเหตุทางรถยนต์ทำให้สูญเสียคุณแม่และก็บาดเจ็บหนักจนแขนขวาพิการจนถึงขั้นขยับไม่ได้ ทางครอบครัวจึงตัดหางปล่อยวัดให้เขาไปอยู่ในบ้านพักต่างจังหวัด(แถวๆชิบะห่างจากกรุงโตเกียวไปหน่อย) ด้วยความสิ้นหวังทามาฮิโกะจึงใช้ชีวิตอยู่แบบซักกะตายไปวันๆ กลายเป็นคนซึมเศร้าและมองโลกในแง่ร้าย  จนวันหนึ่งทางครอบครัวส่ง ยูซึกิ ทาจิบานะ สาวน้อยซึ่งทางตระกูลชิมะใช้เงินซื้อมาให้เป็นเจ้าสาวของทามะฮิโกะได้เข้ามาดูแลเขา ด้วยความสดใสร่าเริงของเธอจึงทำให้ทามะฮิโกะค่อยๆเปิดใจและกลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง ซึ่งทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับเรื่องราวต่างๆนาๆในเวลาต่อมา


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็จะออกแนวย้อนยุคแนวละครพีเรียด ถ้าสมัยก่อนใครชอบนางเอกประเภทโอชินหรือแม่พลอยก็น่าจะพอเข้าใจ เรื่องนี้ก็ประมาณนั้นแหละครับ มันก็แสดงให้เห็นค่านิยมอะไรหลายๆอย่างของคนญี่ปุ่นสมัยก่อนด้วย เช่น เรื่องการใส่กิโมโนที่ถ้าหน้าอกใหญ่ไปจะใส่ได้ไม่สวยต้องเอาผ้ารัดหน้าอกไว้(ใส่แล้วต้องเห็นเป็นทรงกระบอกถึงจะสวย) การที่เด็กๆต้องออกไปทำงานเลี้ยงครอบครัวตั้งแต่ยังเป็นเด็กตัวเล็กๆอยู่เลย การที่ภรรยาต้องเชื่อฟังดูแลสามีอย่างดี หรือเรื่องการซื้อตัวเจ้าสาวมาให้แต่งงานโดยไม่ต้องมีความรักกันก็ตามที ว่าที่จริงตัวยูซึกิเองก็เป็นนางเอกประเภทที่สดใสร่าเริงทั้งๆที่เจอเรื่องเลวร้ายอะไรหลายอย่างเหมือนกัน ก็แสดงให้เห็นถึงผู้หญิงในอุดมคติของคนญี่ปุ่นว่าควรจะเข้มแข็งและอ่อนโยนไปด้วยในตัวละนะ (ซึ่งก็หาได้ยากแล้วละในชีวิตจริง)

ข้อด้อย : 

    พูดถึงข้อด้อยก็คงเป็นเรื่องที่พล็อตเรื่องมันเดาได้ง่ายไปสักหน่อย เพราะมันเป็นอนิเมะเด็กผู้หญิงก็เลยเหมือนละครหลังข่าวบ้านเราจะไม่มีการหักมุมอะไรเท่าไร แต่ถ้าให้ดูเพลินๆสำหรับผู้ชายก็คงดูได้แหละครับ (แค่ระวังน้ำตาลจะขึ้นเอาก็แล้วกัน เฮอะๆ) 

    ว่าที่จริงสมัยนี้อนิเมะแนวย้อนยุคนี่ก็หาดูได้ยากแล้ว (ถ้าไม่นับแนวปราบอสูรหรือซามูไรตีกันละก็นะ)ถ้าอยากจะเปลี่ยนบรรยากาศมาดูอะไรเบาๆหวานๆย้อนไปคิดถึงญี่ปุ่นสมัยโบราณบ้าง ลองมาดูเรื่องนี้ก็ดีเหมือนกันนะครับ เพลงประกอบก็เพราะดีด้วย

 

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อยครับ มังงะ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->