วันพฤหัสบดีที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

Anime No.5 : Girls' Last Tour 少女終末旅行

 สวัสดีครับ ณ.ขณะนี้ถ้าพูดถึงสงครามความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังไม่รู้ว่าจะไปจบลงตรงไหน มันก็ทำให้นึกถึงอนิเมะที่ว่าด้วยพิษภัยของสงคราม ให้คิดเร็วๆเลยตอนนี้ก็นึกออกสองเรื่อง เรื่องแรกก็หมัดเทพเจ้าดาวเหนือ 北斗の拳 ว่าด้วยโลกหลังจากสงครามนิวเครียร์ที่คนเราต้องใช้หมัดเท้าเข่าศอกกับกำลังภายในต่อสู้กันถึงจะเอาตัวรอดได้ แต่เรื่องนี้มันก็เก่ามากแล้ว เด็กรุ่นใหม่คงเกิดไม่ทันเคนชิโร่แน่แท้ ก็เลยนึกถึงอีกเรื่องนึงที่พึ่งดูไปไม่นานนี้นั้นก็คือ Girls' last tour  少女終末旅行 เรื่องราวจะเป็นยังไงมาลองดูกันครับ ...

source : https://www.primevideo.com/detail/0IIF7GQDM1HC30FTC5POJF3MUH/ref=atv_dp_season_select_s1?language=th_TH

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

    ในโลกหลังสงครามครั้งใหญ่ที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ผู้คนล้มหายตายจากไปมีแต่ซากปรักหักพังและวัฒนธรรมมนุษยชาติที่สูญสลายไปแล้ว สองสาวชิโตะและยูริยังคงเดินทางด้วยแครดเทนคราด(รถมอเตอร์ไซต์บวกกับรถตีนตะขาบ)ไปเรื่อยๆ หาเสบียงและเชื้อเพลิงเพื่อเอาชีวิตรอดให้ได้ไปวันๆ ระหว่างนั้นพวกเธอก็จะได้ประสบเรื่องราวต่างๆมากมายในโลกหลังสงครามอันน่าหดหู่นี่เอง



ความคิดเห็น :

    เรื่องนี้บอกได้เลยว่าให้บรรยากาศของความเหงามากๆ เพราะโลกทั้งใบเหลือคนอยู่ไม่กี่คน สองสาวต้องเดินทางไปเรื่อยๆโดยที่ก็ไม่รู้ว่ามันเกิดสงครามอะไรขึ้นกันแน่เพราะตอนออกเดินทางหนีสงครามมาพวกเธอก็เหมือนจะยังเด็กมาก รู้เพียงว่าต้องเดินทางไปเรื่อยๆและเอาชีวิตรอดให้ได้ ตัวเนื้อเรื่องเองก็มีปรัชญาความคิดและคำถามที่ลึกซึ้งมาก ถ้าคนดูเพียงแค่คิดตามสักหน่อยก็จะได้อะไรจากเรื่องนี้มากอยู่เหมือนกันครับ


ข้อด้อย :

    ด้วยความที่มันเป็นอนิเมะแนวปรัชญาสักหน่อยแล้วก็ไม่มีแอ็คชันอะไรมากมาย ถ้าเด็กๆดูก็อาจจะเบื่อได้ละมั้งครับ แต่แน่นอนสำหรับผู้ใหญ่แล้วต้องถือว่าเป็นอนิเมะชั้นดีอีกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยความลึกของเนื้อหาและก็บทสนทนาของสองสาวที่ดำเนินเรื่องไปอย่างแนบเนียนและลึกซึ้ง เพียงแต่บรรยากาศเอยเนื่้อเรื่องเอยมันจะเหงาๆเศร้าๆบ้าง คนเป็นซึมเศร้าดูแล้วก็อาจจะอาการกำเริบก็เป็นได้นะ

    สำหรับตัวอาวุธยุทโธปกรณ์เสื้อผ้าและพาหนะต่างๆในเรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะได้ต้นแบบมาจากสมัยสงครามโลกครั้งที่2ละนะครับ ผมเองก็ประทับใจกับแครดเทนคราดที่สองสาวขี่มากถึงขนาดลองเอากระดาษกล่องมาทำโมเดลดู ภาพการทำก็ตามลิงก์เลยครับผม 

    

https://lemongrass-figure.blogspot.com/2021/11/girls-last-tour-homemade-cardboard.html

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ

วันศุกร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

Anime No.4 : Macross Frontier マクロスフロンティア

 สวัสดีครับ สำหรับวันนี้ต้องออกตัวก่อนว่าผมเป็นแฟนตัวยงของมาซีรี่มาครอสมาตลอด ฉนั้นเรื่องที่รีวิวในวันนี้อาจจะให้คะแนนเอียงๆไปบ้างก็ขอโปรดให้อภัยด้วยนะครับ มาลองดูกันเลย ...

source : https://en.wikipedia.org/wiki/Macross_Frontier

 

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของกองยานที่25ในชื่อ Macross Frontier ที่กำลังมุ่งหน้าสู่ใจกลางกาแล็คซี่ในภาระกิจค้นหาโลกใหม่ที่สามารถอยู่อาศัยได้ ในตอนที่เชอริลโนมนักร้องไอด้อลยอดนิยมกำลังจัดคอนเสิร์ทอยู่นั่นเอง วาจูล่าสัตว์ประหลาดต่างดาวก็ได้เข้าโจมตี ทำให้สาวน้อยลังกะลีต้องตกอยู่ในอันตราย หนุ่มน้อยหน้าหวานซาโอโตเมะ อัลโตจึงตัดสินใจขับVF25(เครื่องบินรบที่เปลี่ยนร่างเป็นหุ่นยนต์ได้)ที่นักบินตายไปแล้วเข้าช่วยเหลือลังกะเอาไว้ เรื่องราวของความรัก สงครามและเสียงเพลงจึงได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง


 

ความคิดเห็น:

  ความสุดยอดของมาครอสคือมันเป็นเรื่องที่รวมเอาทุกอย่างที่คนดูชื่นชอบ(โดยเฉพาะเด็กผู้ชาย)เอาไว้เหมือนกับต้มยำกุ้งแล้วก็ปรุงออกมาอร่อยมากด้วย มัมมีทั้งหุ่นยนต์ยักษ์ เครื่องบินแปลงร่างได้ สัตว์ประหลาดเอเลี่ยน มีนักบินสุดเท่อย่างเรื่องTopgun มีสงคราม การเมือง มีไอดอล มีเพลงเพราะๆ แล้วก็ที่ขาดไม่ได้ก็คือมีรักสามเศร้า ความสนุกอย่างนึงของการดูเรื่องมาครอสก็คือการลุ้นไปกับความรักสามเศร้าว่ามันจะดำเนินไปทางไหนนี่แหละ พระเอกต้องมีฉากใจเต้นมาเรื่อยๆ ทำให้เราต้องคิดว่าสุดท้ายแล้วเขาจะเลือกใครกันแน่นะ

  สำหรับมาครอสฟรอนเทียร์ภาคนี้ทำได้ดีมากๆๆ ทั้งเรื่องของเนื้อหาและการดำเนินเรื่อง ทำให้แฟนๆอดนึกไปถึงบรรยากาศมาครอสภาคแรกไม่ได้ มีมุกตลกแทรกๆมาได้ดี(ถ้าคุณเข้าใจเนื้อเรื่องดีพอจะอดขำไม่ได้แหละ)มีการอ้างอิงมาครอสภาคอื่นๆเข้ามาให้คิดถึงด้วย ส่วนในเรื่องของเพลงประกอบก็เรียกได้ว่าไพเราะทุกเพลง เป็นอีกภาคนึงที่คนรักมาครอสจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด

ข้อด้อย : 

    อาจจะมีบางช่วงที่ดูเหมือนจะเผางานภาพไปหน่อยแต่ผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะผมสนใจเนื้อเรื่องมากกว่า นอกจากนี้คงเป็นเรื่องที่มีการอ้างอิงตัวละครจากมาครอสภาคก่อนหน้าซึ่งถ้าคนดูไม่ได้ดูมาก่อนก็อาจจะไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงใคร แต่ถ้าเป็นแฟนมาครอสอยู่แล้วก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ

ทิ้งท้าย ผมเองรู้สึกว่าภาคนี้ทำออกมาได้ดีมากเรียกได้ว่าน่าประทับใจเกือบทุกอย่างแหละ(ก็ไม่ใช่ว่าทุกภาคจะดีไปหมดหรอกนะ อย่างสมัยผมเป็นวัยรุ่นก็ดู Macross 7 พากย์ไทยฉายทางช่อง7 สมัยนั้นก็เรียกได้ว่าติดงอมแงมแต่พอมาคิดดูตอนนี้รู้สึกว่าเขาลดความเข้มข้นของเนื้อหาลง แล้วก็อาจจะเน้นไปที่หุ่นยนต์แปลงร่างมากไปหน่อยแหละ อาจจะต้องการขยายฐานแฟนไปทางเด็กๆด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้) นอกจากนี้ถ้าคุณสังเกตุดีๆจะรู้ว่าเพลงในมาครอสแต่ละภาคก็จะเปลี่ยนไปตามยุคสมัยที่เขาสร้างในเวลานั้นด้วย เช่นในมาครอสรุ่นแรกเนี่ยส่วนตัวผมตั้งสมมุติฐานว่าLynn Minmayนี่น่าจะได้อิทธผลมาจากเติ่งลี่จวินแน่ๆเพราะเขาดังมากๆในช่วงนั้น(คนญี่ปุ่นจะรู้จักชื่อ Telesa Teng มากกว่า) มาครอสเซเว่นนี่ก็ไม่ต้องสงสัยผมว่าBasaraนี่คือจอนเลน่อนกลับชาติมาเกิดแน่ๆประกอบกับช่วงปี199xนี่ก็เป็นกระแสเพลงเจร็อคกำลังมาด้วยละนะ สำหรับภาคฟรอนเทียร์เนี่ยถ้าให้เดาเชอริลนี่ก็น่าจะเป็นมาดอนน่าผสมบียอนเซ่หรือไม่ก็เทเลอร์สวิฟละมั้ง (มี Macross Deltaด้วยผมยังไม่ได้ดูแต่คราวๆน่าจะเป็นแนวIDOL Groupแหละ)  ฉนั้นแล้วมีข่าวใกล้ๆว่าจะมีการสร้างมาครอสภาคใหม่มาเร็วๆนี้ด้วย ถ้าให้ผมเดาก็คงว่าอาจจะมีเพลงเป็นแนวKPOPไม่ก็Rap battleก็เป็นได้นะ (จริงๆอยากเห็นมาครอสแนวEnka(ลูกทุ่งญี่ปุ่น)มากกว่าแต่คงยากแหละ เฮอๆ) 

 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ สติกเกอร์ไลน์ของเฟย์จัง ->


    

วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

Anime No.3 : Siver Spoon 銀の匙

 สวัสดีครับ สำหรับอนิเมะที่อยากแนะนำวันนี้ก็มาในบรรยากาศบ้านทุ่งกับเรื่อง Silver Spoon 銀の匙 เรื่องนี่จะเป็นยังไงมาลองดูกันครับ

source : https://en.wikipedia.org/wiki/Silver_Spoon_(manga)

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

        เรื่องของ ยูโก ฮาจิเคน เด็กนักเรียนผู้ที่อุทิศชีวิตให้กับการเรียนอย่างเดียว จนถึงจุดหนึ่งที่ชีวิตพลิกผันเมื่อเขาไม่สามารถสอบเรียนต่อม.ปลายในโรงเรียนที่คาดหวังและเลือกที่จะเรียนต่อในโรงเรียนด้านเกษตรและปศุสัตว์ในฮอกไกโดตามที่คุณครูแนะแนวได้แนะนำ ที่นั้นเขาต้องพบกับชีวิตอันยากลำบากของเกษตรกร ตั้งแต่การตื่นแต่เช้ามืด การใช้แรงงานและการดูแลสัตว์ต่างๆ ซึ่งมันตรงกันข้ามกับชีวิตนักเรียนที่เรียนที่อยู่แต่กับหนังสือตำราและการแข่งขันอย่างสิ้นเชิง 


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ดำเนินเรื่องได้อย่างลื่นไหล มุกตลกก็ฮาใช้ได้ เรียกได้ว่าคุณจะได้หัวเราะพร้อมสนุกกับเรื่องราวที่ดำเนินไปอย่างแน่นอน ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้มีหลากหลาย ทั้งเรื่องการตั้งคำถามของคุณค่าชีวิตของสัตว์เศรษฐกิจว่าถ้าเราเลี้ยงมันแล้วเราจะกินมันลงหรือ? เรื่องของการทำปศุสัตว์แบบอุตสกรรมที่ไม่สนว่าสวัสดิภาพสัตว์จะเป็นอย่างไรแต่ได้กำไรตลอด กับการทำปศุสัตว์แบบดั้งเดิมที่ยังเลี้ยงสัตว์ไว้แม้จะปลดระวางไปแล้วซึ่งก็ทำให้ขาดทุนจนล้มละลาย เรียกได้ว่าถ้าคุณคิดตามจะได้ข้อคิดหรือไม่ก็จะตั้งคำถามกับสิ่งที่เป็นอยู่เช่นกัน

ข้อด้อย : 

    องค์ประกอบทุกอย่างดีมากละครับ แต่ติดอยู่ที่ว่าเรื่องนี้มีแค่สองซีซันแล้วก็ตัดจบไปซะดื้อๆ ทั้งๆที่ยังมีประเด็นที่ยังไม่เครียร์อีกหลายเรื่องแต่ก็เข้าใจเพราะว่ามันไม่ใช่อนิเมะตลาด(ประเภทฆ่าอสูรปล่อยพลังเวทอะไรแบบนั้น)ก็คงจะได้งบมาไม่มากทำได้จำกัดตอนละครับ เรื่องที่ดำเนินต่อไปคงต้องอ่านจากมังงะเอาเองละนะ

    นอกจากนี้ เขายังสร้างเป็นหนังคนแสดง ผมยังไม่เคยดูแต่คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องจากในอนิเมะน่ะแหละ ชอบแบบไหนก็เลือกดูได้นะครับ 

   


 
ปิดท้ายขอขายของหน่อยครับ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบ ->



วันศุกร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2566

Anime No.2 : Cells At Work! はたらく細胞

 สวัสดีครับ ก่อนอื่นต้องบอกว่าหลังๆมานี่ผมชอบดูอนิเมะแนวสั้นๆ12-24ตอนจบ มีสักซีซันสองซีซันมากกว่าอนิเมะยอดฮิตที่ยาวเป็นปีๆ (ประเภทดูตอนแรกตอนอยู่ประถมตอนอวสานอีกทีจบมหาลัยนี่ก็ไม่เอาอะนะ) เพราะถ้ามันยาวไปแล้วต้องรอดูข้ามปีบางทีเราดูแล้วก็ลืมรายละเอียด ลืมตัวละครตัวประกอบไปหมดแล้ว ฉนั้นแล้วพวก OnePieceเอย DragonBalls เอยนี่ก็เลยเลิกดูไปซะกลางทางนะแหละครับ กลับเข้าเรื่อง สำหรับอนิเมะที่จะรีวิววันนี้ก็คือเรื่อง Cell At Work ! はたらく細胞  ครับผม

source : www.imdb.com

 

Ataya's Star :    ★

เรื่องย่อ :

เรื่องราวเกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์ เมื่อเม็ดเลือดแดงเด็กใหม่ AE3803 ที่ยังไม่ชินงานเลยเดินหลงทางในร่างกายเป็นประจำ จนตกเป็นเป้าหมายของแบ็คทีเรียตัวร้ายที่เข้ามาในร่างกาย เธอได้รับการช่วยเหลือจากเม็ดเลือดขาว U-1146 ไว้ จากนั้นมาทั้งคู่ก็ต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆนาๆที่เกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์

 


ความคิดเห็น :

พอดูเรื่องนี้แล้วก็นึกถึงการ์ตูนเรื่องนึ่ง ถ้าใครอายุพอๆกับผมน่าจะคุ้นๆกับการ์ตูนฝรั่งสมัยก่อนที่ทำเรื่องราวของเซลล์ในร่างกายของมนุษย์เป็นตัวละครเพื่อให้เด็กๆเข้าใจง่ายขึ้น (ลองเซิร์จดูน่าจะชื่อนิทานชีิวิต Once upon a time Life  สมัยนั้นน่าจะฉายช่องเจ็ดอะนะ)  เรื่อง Cells At Work นี่ก็คล้ายๆกับเรื่องนั้นแต่ตัวเอกจะเป็นเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดขาวแทน แล้วก็จะมีความเป็นมนุษย์มีอารมณ์ความรู้สึกเหมือนคนจริงๆ มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมีแบ็คกราวด์ความเป็นมาตามสไตล์อนิเมะญี่ปุ่น เนื้อเรื่องจะอธิบายกลไกลต่างๆในร่างกาย การต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆที่่เข้ามาในร่างกาย ถ้าเป็นคนที่เรียนชีิววิทยามาหรือเป็นคุณหมอดูเรื่องนี้น่าจะอินกว่าคนทั่วๆไปละครับ

ข้อคิดที่ได้นอกเหนือจากความรู้ทางการแพทย์ก็คือ ถ้าเราดูจะรู้ว่าสิ่งหนึ่งที่ผู้แต่งพยายามจะสื่อสารออกมาจากเรื่องก็คือว่าแม้แต่เซลล์เล็กๆในร่างกายของเราก็ยังขยันขันแข็ง ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุดไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แล้วตัวเจ้าของร่างกายละ ? จะมามั่วขี้เกียจท้อแท้ซึมเศร้าอยู่ได้อย่างไร จริงมัย ?

ข้อด้อย :

เนื่องด้วยมันเป็นเรื่องที่อิงวิทยาศาสตร์มา ถ้าเป็นคนธรรมดาจบป.สี่เรียนสายศิลปมาดูก็อาจจะงงๆว่าตัวนี่ตัวนั้นมันคืออะไร แล้วเวลาอธิบายตัวละคร(เช่นแบคทีเรียตัวร้ายเอย เม็ดเลือดขาวชนิดพิเศษเอย) ในอนิเมะก็ดูจะสั้นๆไปหน่อย (น่าจะตัดฉากไปแล้วอธิบายช้าๆละเอียดหน่อยก็น่าจะดีมาก) อย่างไรก็ดี ผมเคยเห็นวิดีโอที่เขาเอาเรื่องนี้ไปให้หมอจริงๆดู หมอคนนั้นเขาบอกว่าความรู้ในเรื่องนี้ตรงตามที่เรียนมาเลย แถมมีบางเรื่องที่พึ่งจะค้นพบและอัพเดทหมาดๆในวงการการแพทย์ด้วย(รู้สึกจะเป็นเรื่องที่พึ่งค้นพบว่าแบคทีเรียตัวร้ายชอบกินน้ำตาลก็เลยเป็นสาเหตุให้เวลามันเข้ามาในร่างกายกายถึงได้ชอบจับเม็ดเลือดแดงกิน เพราะเม็ดเลือดแดงกินกลูโคสเป็นอาหารตัวเม็ดเลือดแดงเองก็คือทองหยอดดีๆนี่แหละนะ) ก็แสดงว่าผู้แต่งเรื่องนี้ก็น่าจะอ่านเอกสารทางการแพทย์มาอย่างดีหรือไม่ก็เป็นระดับอาจารย์หมอเลยละผมว่านะ 

เรื่องนี้มีออกซีซันสองแล้วก็มีภาคแยกCode:Blackซึ่งจะเป็นภาคที่ดาร์คกว่า ถ้าคุณดูภาคแรกแล้วรู้สึกชอบใจก็แนะนำให้ดูต่อละครับ รับประกันความสนุกและได้สาระด้วย

 

ปิดท้ายขอขายของหน่อยครับ สติกเกอร์ไลน์ของเฟย์จัง ->