วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Anime No.97 : Witch Watch ウィッチウォッチ

 สวัสดีครับ อีกไม่นานก็จะรีวิวอนิมะครบ 100 เรื่องแล้ว จะว่าเร็วก็เร็วอยู่เหมือนกันนะครับ ว่าแล้วก็มารีวิวอนิเมะกันดีกว่า สำหรับเรื่องในวันนี้คือเรื่อง Witch Watch ウィッチウォッチ เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

         เรื่องราวของแม่มดฝึกหัด นิโกะ วาคะซึคิ ผู้ซึ่งพึ่งจะสำเร็จการฝึกเป็นแม่มดแล้วกำลังจะย้ายมาอยู่กับ โมริฮิโตะ โอโตกิ เด็กหนุ่มผู้สืบทอดสายเลือดของยักษ์ เนื่องจากความสัมพันธ์ในวัยเด็กของทั้งคู่และโมริฮิโตะก็เป็นอสูรรับใช้ส่วนตัวของนิโกะด้วย ทั้งคู่จึงได้อยู่อาศัยในบ้านของตระกูลโอโตกิ แต่แม่ของนิโกะก็ได้ให้คำทำนายกับโมริฮิโตะว่าจะมีภัยร้ายเกิดขึ้นกับนิโกะภายในปีนี้ โมริฮิโตะจึงต้องดูแลและปกป้องความปลอดภัยของแม่มดนิโกะให้จงได้


 

ความคิดเห็น:

        เรื่องนี้ก็เป็นแนวโรแมนติกคอมแมดี้ผสมกับความเป็นแฟนตาซีละนะครับ เนื้อเรื่องลื่นไหลดีแล้วมุกตลกก็มีความกวนๆ (คงเพราะอาจารย์ เคนตะ ชิโนฮาร่า คนวาดเรื่องนี้เคยเป็นผู้ช่วยของอาจารย์ ฮิเดอากิ โซราจิ (อาจารย์กอลิล่า)ที่วาดเรื่องกินทามะนะแหละครับ ก็เลยคงได้วิธีใส่มุกกวนๆแบบเรื่องกินทามะมาด้วยนะแหละ) นอกจากจะได้ความสนุกสนานแล้วยังมีการใส่การหักมุมและข้อคิดเตือนใจเอาไว้อีกด้วย เรื่องจากภาพก็ต้องบอกว่าสวยงามสดใสดีมาก เพลงเปิดปิดก็ไพเราะเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับเนื้อเรื่องละนะ



ข้อด้อย:

     ข้อด้อยไม่ค่อยมีเท่าไรหรอก อาจจะมีตอนที่จู่ๆก็เอาเรื่องที่ไม่เกี่ยวมาเนื้อเรื่องหลักมาฉาย(ซึ่งก็อาจจะเป็นมุกนะแหละแต่ดูไปแล้วก็รู้สึกอีหยังวะอยู่เหมือนกัน) นอกนั้นก็คงเป็นเรื่องที่พระเอกนางเอกดูจะเป็นแพทเทิร์นละครญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมอยู่สักหน่อย ประเภทที่นางเอกสดใสพระเอกเงียบๆละนะ (น้องเนมุจังขวัญใจผมดูจะบทน้อยไปหน่อยด้วยละนะ เฮอๆ)

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวโรแมนติกแฟนตาซีคอมแมดี้ซึ่งก็ดูได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีปัญหาอะไรครับ ใครที่ชอบแนวๆนี้ก็ลองหามาดูได้นะครับ (ตอนที่เขียนบล็อกนี่ออกมาหนึ่งซีซันแล้วก็ประกาศทำซีซันสองออกมาแล้วด้วย) สำหรับผลงานของอาจาร์ยเคนตะอีกเรื่องหนึ่งก็คือเรื่อง Astra Lost In Space นะครับ

ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบจ้า ->


วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Anime No.96 : Aharen-san Is Indecipherable 阿波連さんははかれない

 สวัสดีครับ ในฐานะผู้ชายส่วนตัวผมก็ว่าผู้หญิงนี่เป็นอะไรที่เข้าใจยากเสียจริงๆ พูดถึงผู้หญิงที่เข้าใจได้ยากนี้ก็เลยคิดถึงอนิเมะเรื่องหนึ่งขึ้นมานั่นก็คือเรื่อง Aharen-san Is Indecipherable 阿波連さんははかれない (ชื่อภาษาไทยคือ คุณอาฮาเรนนี่เข้าใจยากจริง ๆ นะ) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรไปดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★☆☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ โชตะ เรโด หนุ่มที่พึ่งขึ้นม.ปลายแต่เนื่องจากเขาเป็นคนที่น่าตาน่ากลัวและไม่ค่อยจะแสดงอารมณ์ผ่ายสีหน้าก็เลยไม่ค่อยจะมีเพื่อนตอนม.ต้นสักเท่าไร พอขึ้นม.ปลายเขาเลยพยายามจะทำความรู้จักกับสาวน้อยตัวเล็กๆที่นั่งข้างๆ เรนะ อาฮาเรน แต่เธอกลับเหมือนจะไม่ตอบสนองเขาเท่าไร เรโดเลยคิดว่าเธอคงจะไม่สนใจเขาละมั้ง แต่แท้ที่จริงคุณอาฮาเรนเป็นสาวน้อยที่ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเองแถมยังพูดเบาจนคนอื่นไม่ได้ยิน เมื่อรู้เช่นนั้นไรโดคุงกับอาฮาเรนซังก็เลยเริ่มเปิดใจให้กันและกันนั้นเอง



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวรอมคอมที่ค่อนข้างจะมีเนื้อหาสมัยใหม่หน่อยเพราะมีอ้างอิงถึงของเล่นหรือเกมที่เด็กๆสมัยนี้ฮิตกัน เช่น สปินเนอร์ เกมตู้ปั้นไอดอล เป็นต้น (น่าจะประมาณเด็กเจนแซดละนะ) ส่วนมุกที่เล่นส่วนใหญ่ก็จะเป็นมุกล้อเลียน การตบมุกแบบตลกญี่ปุ่นหรือความคิดที่ไปไกลเกินไปของไรโดคุง ก็ว่าพอขำๆละนะครับ งานภาพก็ถือว่าสวยงามพอสมควร ตัวเนื้อเรื่องดูได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีพิษภัยอะไรครับ

ข้อด้อย:

    สำหรับข้อด้อยก็อาจจะเป็นเรื่องที่การเดินเรื่องมันก็เหมือนแนวๆรอมคอมทั่วๆไปไม่ได้มีอะไรที่แปลกใหม่ขนาดนั้น เนื่อเรื่องพอจะเดาได้ละว่าจะไปทางไหน แต่สำหรับคนที่อยากจะดูอะไรขำๆมีความโรแมนติกหน่อยๆ พอได้ผ่อนคลายก็อาจจะถือเป็นเรื่องดีก็ได้นะครับ

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวรอมคอมพอขำๆใช้ได้ ดูได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีดราม่าอะไรมากมาย ใครสนใจก็ลองหามารับชมได้ครับ (ณ.ตอนที่เขียนบล็อกนี่ก็ออกมาสองซีซันจบบริบูรณ์ครับผม)

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อยครับ มังงะ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

วันศุกร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Anime No.95 : บ้าน bâan - 大人の彊界 -

 สวัสดีครับ หลังจากที่ได้มีการพูดถึงโปรเจ็คอนิเมะของคุณ Gigguk ไปแล้ว ในที่สุดผมก็มีโอกาสได้ดูผ่านทางยูทูปเมื่อไม่กี่วันก่อน วันนี้ก็เลยจะมารีวิวตัวอนิเมะเรื่องสั้่นเรื่องนี้  bâan - 大人の彊界 - (ชื่อภาษาไทย บ้าน ) กันก็แล้วกันนะครับ


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ ไดอิจิ อาไรอิ ชายหนุ่มที่ไม่ค่อยจะถูกกับแม่ที่คอยเป็นห่วงเขาตลอดเวลา เขาจึงตัดสินใจเดินทางข้ามมิติไปยังดินแดนยูทาเนียเพียงลำพัง อีกด้านหนึ่ง รินรดา รัชมณี สาวน้อยผู้มีพลังเวทมนต์ก็ตัดสินใจออกเดินทางจากดินแดนยูทาเนียข้ามไปยังญี่ปุ่นเช่นกัน ทั้งคู่ต่างก็ออกเดินทางเพื่อแสวงหาคำตอบอะไรบางอย่างอยู่เหมือนกัน



ความคิดเห็น:

    หลังจากได้ดูแล้วก็คงต้องบอกว่าสนุกพอสมควรละนะครับ โทนอารมณ์ของเรื่องออกจะดูเหงาๆหน่อย ตัวอนิเมะเป็นแนวแฟนตาซีแล้วก็เล่าเรื่องแบบซ่อนปมไว้เฉลยภายหลัง ดูแรกๆก็จะงงๆนิดหน่อยแหละแต่พอเฉลยก็พอจะปะติดปะต่อได้ละนะ งานภาพก็สวยงามดีครับ ส่วนดนตรีประกอบก็จัดว่าไพเราะกินใจดีมาก

ข้อด้อย:

    ส่วนตัวผมว่าความเป็นไทยในเรื่องดูจะน้อยไปนิด นอกจากชื่อนางเอกแล้วองค์ประกอบอื่นถ้าไม่บอกว่ามาจากเมืองไทยก็อาจจะไม่รู้อะนะ (เข้าใจว่านางเอกเป็นกินรีแหละ) ดนตรีประกอบแม้จะไพเราะดีมากแต่ก็ไม่ค่อยมีโทนเป็นไทยเท่าไร แต่ก็พอจะเข้าใจได้แหละ เพราะพวกดีไซน์อะไรต่างๆนาๆก็คงให้คนญี่ปุ่นทำละนะครับ

    กล่าวโดยสรุป สำหรับอนิเมะเรื่องสั้นเรื่องนี้ผมว่าทำออกมาได้ดีระดับหนึ่งละครับ ภาพสวยงามดนตรีก็ไพเราะ แล้วก็เป็นตัวอย่างสำหรับคนที่อยากทำอนิเมะเป็นของตัวเองสักเรื่อง สมัยนี้ก็กำเงินกับเอาไอเดียเดินเข้าไปคุยกับบริษัทที่รับทำอนิเมะได้เลยละนะ(ไว้ถูกหวยเมื่อไรคงได้จัดสักเรื่องละนะ เฮอๆ)

สำหรับผลงานเรื่องนี้สามารถรับชมได้ที่นี่เลยครับ -> https://www.youtube.com/watch?v=V-P3HWXGYm4

 
ส่งท้ายขายของ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

 

วันศุกร์ที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2568

Anime No.94 : Blend S ブレンド・S

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ผมก็มีเรื่องวุ่นๆก็เลยเหนื่อยๆหน่อยละครับ ว่าแล้ววันนี้ก็เลยกลับมารีวิวอนิเมะกันต่อเลยดีกว่า สำหรับเรื่องที่จะว่ากันในวันนี้ก็คือเรื่อง Blend S ブレンド・S (ชื่อภาษาไทยคือ เบลนด์ เอส น่ะแหละครับ) มาลองดูกันเลยครับ


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของสาวน้อยม.ปลาย ไมกะ ซากุระโนมิยะ ผู้มีความฝันอยากจะไปเรียนต่อต่างประเทศ ก็เลยพยายามทำงานพิเศษเก็บตังค์ แต่เพราะเธอมีสายตาที่ดูน่ากลัวก็เลยหางานทำได้ยาก จนกระทั้งด้วยเหตุบังเอิญทำให้เธอได้พบกับ ดีโน่ ผู้จัดการร้านคาเฟ่สตีเลย์ชาวอิตาลี เขาได้ทาบทามเธอให้มาเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้าน โดนคาเฟ่สตีเลย์จะเป็นร้านที่พนักงานจะสวมบทบาทเป็นสาวนิสัยต่างๆ โดยไมกะจะต้องสวมบทเป็นสาวซาดิสม์ ส่วนคนอื่นๆก็จะเป็นสาวซึนเดเระบ้าง สาวสไตล์น้องสาวบ้าง เมื่อเธอได้งานที่เหมาะสมกับตัวเองแล้วเธอจึงตั้งใจจะทำงานนี้ให้เต็มที่ไปเลยนั่นเอง


ความคิดเห็น:

    สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ก็เป็นแนวสนุกสนานเฮฮาละนะครับ  เรื่องราวก็จะดำเนินไปในคาเฟ่สตีเลย์นี่แหละ สำหรับการสวมบทบาทเป็นสาวนิสัยต่างๆก็จะคล้ายๆกับเรื่อง Hensuki แต่เรื่องนั้นอาจจะเน้นด้านรสนิยมทางเพศที่ไม่ตรงกับฉากหน้ามากกว่า แต่เรื่องเบลนด์เอสนี่ก็จะเน้นเรื่องการสวมบทบาทลักษณะนิสัยของสาวๆที่ชายหนุ่มมักจะชื่นชอบกันละนะ สำหรับเนื้อหาก็ฮาๆดี มุกไม่ได้ทะลึ่งตึงตังอะไรมากมายก็น่าจะพอดูได้ทุกเพศทุกวัยแหละ งานภาพสวยงามพอสมควร ตัวละครโมเอะน่ารักมีเสน่ห์ดีครับ

ข้อด้อย:

    สำหรับข้อด้อยก็อาจจะมีที่บางครั้งดูๆไปก็สับสนว่าสาวคนนี้จริงๆแล้วนิสัยแบบไหนกันแน่ เพราะพอเล่นสวมบทบาทแล้วก็เลยเหมือนจะงงๆ ยิ่งพอตัวละครเริ่มเพิ่มมาทีหลังก็ยิ่งไปกันใหญ่ นอกจากนั้นก็คงเป็นเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครที่ดูจะหลวมๆไปสักนิด เรื่องความรักที่ใส่เข้ามาก็ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนั้นละนะ

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็จัดเป็นแนวคอมเมดี้เลยละกัน เนื้อหาก็สนุกสนานดีครับ ดูได้ทุกเพศทุกวัยได้เลยครับ ใครสนใจยังไงก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ    

ส่งท้ายขอขายของหน่อยครับ สติกเกอร์ไลน์ของเฟย์จัง ->


วันศุกร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568

Anime No.93 : Super Cub スーパーカブ

 สวัสดีครับ ผมพึ่งกลับมาจากการท่องเที่ยวทะเลแถวๆเกาะสมุย เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างเหนื่อยเลยทีเดียว พูดถึงการเดินทางก็ต้องมีพาหนะ พูดถึงพาหนะที่เป็นที่นิยมก็คงหนีไม่พ้นมอเตอร์ไซค์ ก็เลยนึกถึงอนิเมะเรื่องนี้ขึ้นมานั่นก็คือเรื่อง Super Cub スーパーカブ (ชื่อภาษาไทยก็ซุปเปอร์คับน่ะแหละครับ) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันเลย


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองโฮคุโตะจังหวัดยามานาชิ โคกุมะ เด็กสาวม.ปลายผู้ที่มีชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีผู้ปกครองและไม่มีเพื่อนหรืองานอดิเรกใดๆ วันหนึ่งเมื่อเธอปั่นจักรยานไปกลับโรงเรียนด้วยความเหน็ดเหนื่อย เธอก็เลยอยากได้มอเตอร์ไซค์ไว้สักคัน ระหว่างทางเธอได้พบกับร้านขายมอเตอร์ไซค์แห่งหนึ่งแต่เพราะไม่มีตังค์มากมายขนาดนั้นก็เลยซื้อไม่ได้ คุณลุงเจ้าของร้านเลยแนะนำมอเตอร์ไซค์รุ่น Super Cub มือสองมือสามให้ในราคาแค่1หมื่นเยน แต่ก็บอกว่ามันทำเจ้าของเก่าตายไปสองสามคนแล้วนะ แต่ด้วยความถูกจนเหมือนได้มาเปล่าๆเธอเลยตัดสินใจไปสอบใบขับขี่และได้เจ้าซูเปอร์คับมาจนได้ เรื่องราวของสาวน้อยกับมอเตอร์ไซค์รุ่นยอดนิยมจึงเรื่องขึ้นเช่นนี้นี่เอง



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวชีวิตประจำวันที่ดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆไม่ได้มีเนื้อหาฉากแอ็คชันอะไรมากมายนัก ตัวมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าซุปเปอร์คับก็เป็นรุ่นยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นนะแหละ(เทียบกับบ้านเราก็ประมาณรุ่นฮอนด้าเวฟอะไรประมาณนั้น) คนญี่ปุ่นก็ใช้งานหลายๆอย่าง ที่เป็นภาพจำก็คงเอาเป็นรถมอไซค์ส่งราเม็งละนะ ตัวอนิเมะจะนำเสนอเรื่องราวของคนญี่ปุ่นที่ต้องการขับมอเตอร์ไซค์จะต้องทำอย่างไรบ้าง การบำรุงรักษา และอุปกรณ์เสริมต่างๆต้องติดต้้งอย่างไร สำหรับงานภาพต้องบอกว่าฉากแบ็คกราวด์ทำได้สวยมาก ตัวมอเตอร์ไซค์ก็ทำออกมาได้สมจริง เนื้อหาก็ดูได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีปัญหาแต่อย่างใดครับ

ข้อด้อย:

    อย่างแรกเลยคือมันเป็นอนิเมะที่ทำมาไว้ขายซุปเปอร์คับโดยตรง ก็เลยเหมือนดูหนังขายยาขายของละนะ (ซึ่งก็รู้สึกแปลกๆดีที่มีอนิเมะสำหรับขายของตรงๆอะไรอย่างงี้ด้วย) และเนื้อหาก็ไม่ได้หวือหวาอะไรมากมาย เรียกได้ว่าออกจะน่าเบื่อไปสักนิดสำหรับคนที่ชอบอะไรที่ตื้นเต้นเร้าใจละก็นะ(เด็กแว้นสก๊อยก็คงไม่ชอบแหละ)

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นอนิเมะแนวชีวิตประจำวันที่นำเสนอผ่านเรื่องราวของเด็กสาวกับมอเตอร์ไซค์คู่ใจ เนื้อหาไปเรื่อยๆดูได้สบายๆไม่ได้มีดราม่าอะไร ใครสนใจก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ (ณ.ตอนที่เขียนออกมาหนึ่งซีซันครับผม)

ส่งท้ายขายของครับ สติกเกอร์ไลน์บัวคำแม่หญิงล้านนา(จากเรื่อง ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับนวนิยาย) ->

วันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568

Anime No.92 : Aho-Girl アホガール

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ข่าวพระสงฆ์กำลังมาแรง ดูๆแล้วคนไทยนี่ก็ทำบุญกันแบบงมงายโง่งมไม่คิดหน้าคิดหลังกันเหมือนกันละนะ พูดถึงความโง่นี่ในภาษาญี่ปุ่นก็ต้องใช้คำว่า アホ Aho ก็เลยผาลไปนึกถึงเรื่อง Aho-Girl アホガール (ชื่อภาษาไทย ยัยโง่บริสุทธิ์) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


 

Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ โยชิโกะ ฮานะบาทาเกะ สาวน้อยม.ปลายที่มีมันสมองน้อยไปหน่อย แถมนิสัยก็ยังเพี้ยนๆ ชอบกินกล้วยเป็นอาจิณ เธอคอยตามติด อาคุรุ อาคุซึ ชายหนุ่มผู้รักการเรียนแต่ไม่มีเพื่อนสักคนนอกจากโยชิโกะ เขาเป็นเพื่อนวัยเด็กของโยชิโกะแต่ไม่ค่อยชอบความบ้าๆบอๆของโยชิโกะสักเท่าไร ทว่าแม่ของโยชิโกะผู้ไม่อยากจะดูแลโยชิโกะจอมเพี้ยนไปจนแก่ ก็เลยพยายามจะจับคู่ให้ทั้งสองคนได้แต่งงานกันจะได้พลักภาระเลี้ยงดูไปให้อาคุรุแทน เรื่องราวความวายป่วงจึงเริ่มขึ้นเช่นนี้นี่เอง 


ความคิดเห็น:

    จริงๆคำว่า アホ Aho นี่นอกจากจะแปลว่าโง่แล้วก็ยังมีนัยยะว่าบ้าติงต๊องเพี้ยนด้วยก็ได้ สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ก็เป็นแนวตลกโป๊กฮาชนิดที่ว่าไม่ได้มีสาระอะไรนอกจากมุขตลกเรียกเสียงหัวเราะละนะ ดูแล้วก็ขำขันสนุกสนานดี เล่นมุกได้โปะเปะลื่นไหลดีมาก ดูแล้วจะว่าไปตัวเนื้อเรื่องก็คล้ายๆกับชินจังจอมแก่นที่กลับเพศกันละนะ (โยชิโกะ = ชินจัง , อาคุรุ = คาซามะคุง) 

ข้อด้อย:

    พอคาแร็คเตอร์ตัวเอกเป็นผู้หญิงที่โง่ๆเพี้ยนๆหน่อยนี่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นปัญหาหรือเปล่าสำหรับเหล่าสตรีนิยมเฟมินิสต์ทั้งหลาย แถมพระเอกเรื่องนี้ก็ทั้งต่อยทั้งอัดนางเอกแบบไม่ยั้งด้วยละนะ แต่ถ้าคุณเป็นคนชอบความเท่าเทียมทางเพศก็คงไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ เฮอๆ 

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวตลกขบขันยิงมุกกันกระจาย เหมาะสำหรับดูคลายเครียดขำๆ เนื่องจากมีฉากวับๆแวมๆแถมพระเอกยังชอบใช้ความรุนแรงก็เลยอาจจะไม่เหมาะให้เด็กดูเท่าไรนะครับ ใครสนใจก็ลองหามารับชมได้ครับ (ณ.ตอนที่เขียนนี่มีออกมาหนึ่งซีซันครับผม) 

 สุดท้ายก็ขอขายของหน่อยครับ มังงะ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->


วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2568

Anime No.91 : Uma Musume Pretty Derby ウマ娘 プリティーダービー

 สวัสดีครับ ช่วงนี้คนไทยติดม้ากันจริงๆจังๆ ไม่ใช่ยาบ้ายาขยันอะไรหรอก แต่เป็นสาวม้าจากเกมอุมะมุซึเมะที่เขาพึ่งจะปล่อยเวอร์ชันภาษาอังกฤษออกมา ว่าแล้วผมก็ลองหาอนิเมะที่สร้างจากเกมเรื่องเดียวกัน Uma Musume Pretty Derby ウマ娘 プリティーダービー (ชื่อภาษาไทย สาวม้าโมเอะ) มาดูสักหน่อย จะเป็นอย่างไรบ้างมาลองดูกันครับ

 

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

         เรื่องราวในโลกที่มีสาวม้าซึ่งก็คือเด็กสาวที่มีจิตวิญญาณม้าแข่งจากโลกอื่นมาเกิด สาวม้าไม่มีจุดประสงค์อื่นใดในชีวิตนอกจากการวิ่งแข่งกันในสนามแข่ง วันหนึ่ง สเปเชียลวีค สาวม้าจากฮอกไกโดได้มีโอกาสเข้าเรียนโรงเรียนเทรเซ็นโรงเรียนชื่อดังในโตเกียวที่เป็นที่รวมสาวม้าชื่อดังเอาไว้ ระหว่างที่เธอเดินทางไปโรงเรียนในวันแรก เธอได้แวะที่สนามแข่งม้าและได้พบกับ ไซเลนซ์ซึซึกะ สาวม้าที่วิ่งได้อย่างรวดเร็วและสง่างาม จนสเปเชียลวีครู้สึกหลงไหลในตัวไซเลนซ์ซึซึกะเป็นอย่างมาก และคาดหวังว่าจะสามารถพัฒนาตัวเองและเก่งขึ้นได้เหมือนกับเธอนั่นเอง



ความคิดเห็น:

    ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมไม่ได้เล่นเกมนี้(จริงๆลองโหลดมาแล้วแหละ แต่มันใช้พื่นที่มือถือเยอะมากก็เลยเล่นไม่ได้) ก็จะขอพูดถึงในส่วนอนิเมะก็แล้วกัน จริงๆแล้วในเกมนี่น่าจะเป็นเกมปั้นไอดอลที่เอาสาวๆมาวิ่งแข่งกันเสียมากกว่า แต่ในอนิเมะจะเน้นที่ส่วนที่เป็นกีฬาวิ่งแข่งเป็นหลัก ตัวเนื้อหาเลยเหมือนอนิเมะกีฬามากกว่าอนิเมะไอดอลละนะ ยิ่งดูก็ยิ่งสนุก คุณจะได้รับพลังบวกในการไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ การลุกขึ้นสู้ไม่ว่าจะต้องล้มต้องแพ้สักกี่ครั้ง ยิ่งถ้าคุณลองหาประวัติม้าแข่งที่เป็นต้นแบบสาวม้ามาดู(แนะนำให้ดูหลังจากดูอนิเมะจบแล้วนะ) คุณจะยิ่งประทับใจเข้าไปใหญ่เพราะทีมสร้างเขาก็เอาประวัติม้าจริงๆมาใส่ไว้นะแหละ รวมถึงผลแพ้ชนะจริงในการแข่งขันต่างๆด้วย งานภาพก็ถือว่าสวยงามใช้ได้ เพลงประกอบก็ไพเราะตามสไตล์ไอดอลญี่ปุ่นละนะ 

ข้อด้อย:

    หนึ่งเลยคือตัวสาวม้าในเรื่องนี่เยอะมาก จนจำได้ไม่หมดแหละ อีกเรื่องคือพอเปลี่ยนซีซันใหม่ ตัวหลักในภาคก่อนก็จะกลายไปเป็นตัวประกอบในซีซันใหม่ บางคนแทบจะไม่มีบทพูดเลยด้วยซ้ำอะนะ ใครที่ติดใจนางเอกภาคก่อนก็อาจจะรู้สึกเหงาๆหน่อยก็ได้ 

    กล่าวโดยสรุป สาวม้าโมเอะนี่ผมก็ขอจัดให้อยู่ในหมวดอนิเมะกีฬาก็แล้วกัน เนื้อหาให้พลังบวกประทับใจมากๆ มุกก็ฮาๆดี ดูได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีปัญหาครับ ยกเว้นระวังจะติดม้าอะนะ เฮอๆ (ตอนนี้ดูอยู่แค่สามซีซันแรกยังไม่ได้ดูภาคแยกอื่นๆนะครับ สำหรับซีซันแรกผมให้คะแนนความฮามากกว่า ดูแล้วให้อารมณ์เหมือนกับงานเก่าๆของ P.A Works อย่างเรื่อง Sakura Quest ซีซันสองผมให้คะแนนดราม่าน้ำตาแตก ส่วนซีซันสามผมก็ให้โอเคๆละนะ บวกๆแล้วก็5ดาวแล้วกันครับสำหรับเรื่องนี้) ปล. ซีซันแรกมีตอนพิเศษ 3 ตอนด้วยนะครับ ต้องดูตอนพิเศษด้วยเพราะจะมีเหตุการณ์ 12 หมื่นล้านเยนของเจ้าโกลด์ชิบจอมป่วนอยู่ด้วยครับ

ส่งท้ายขายของครับ สติกเกอร์ไลน์บัวคำแม่หญิงล้านนา(จากเรื่อง ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับนวนิยาย) ->

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2568

Anime No.90 : The Saint's Magic Power Is Omnipotent 聖女の魔力は万能です

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ฝนตกสลับกับแดดออก อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยระวังจะป่วยไข้ไม่สบายกันนะครับ ว่าถึงโรคภัยก็อยากจะได้ยาวิเศษที่กินแล้วรักษาได้ทุกอย่างอยู่เหมือนกันละนะ ว่าแล้วก็นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา The Saint's Magic Power Is Omnipotent 聖女の魔力は万能です (ชื่อภาษาไทย สตรีศักดิ์สิทธิ์อิทธิฤทธิ์สารพัดอย่าง) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ



Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ เซย์ ทากานาชิ สาวออฟฟิตธรรมดาๆที่จู่ๆวันหนึ่งหลังจากกลับมาถึงห้อง เธอก็ถูกวงแหวนเวทมนต์บางอย่างอัญเชิญไปยังต่างโลก ที่นั่นเธอได้พบว่าตัวเองกับ ไอระ มิโซโนะ สาวน้อยวัย 16 ถูกอัญเชิญมาในฐานะ"สตรีศักดิ์สิทธิ์"ในโลกที่ชื่อว่าซาลูตาเนีย แต่เพราะเจ้าชาย  เคล ซาลูตาเนีย ตัวตั้งตัวตีในการทำพิธีอัญเชิญได้เลือกไอระให้เป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์(เพราะสาวกว่าสวยกว่าละนะ) เซย์ก็เลยอยู่ในฐานะที่ไม่มีใครใส่ใจซะเท่าไร วันหนึ่งระหว่างที่เดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยเธอได้พบกับสถาบันวิจัยยาสมุนไพร ด้วยความสนใจในสมุนไพรเธอจึงตัดสินใจจะใช้ชีวิตและทำงานอยู่ในสถาบันวิจัยแห่งนี้นี่เอง

 


ความคิดเห็น:

     เรื่องนี้ก็เป็นแนวไปต่างโลกที่ฮิตๆกันช่วงนีี้แหละนะ แต่จะเป็นอนิเมะที่เหมือนเป็นการ์ตูนผู้หญฺิง (ถ้าจะให้พูดตรงๆเนื้อเรื่องก็เหมือนเป็นซินเดอเรล่าที่ไปต่างโลกละนะ) การเดินเรื่องก็ไปแบบเรื่อยๆสบายๆไม่มีดราม่าหนักหนาอะไรนักหนา งานภาพก็สวยดีครับตามสไตล์การ์ตูนผู้หญิง เพลงเปิดปิดก็ไพเราะใช้ได้ แล้วก็น่าจะดูกันได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีปัญหาอะไรครับ 

ข้อด้อย :

     สำหรับข้อด้อยก็คงจะแล้วแต่คนดูละนะ ถ้าชอบฉากแอ๊คชันใช้เวทมนต์อลังการอะไรแบบนี้เรื่องนี้ก็ไม่ค่อยมีเท่าไรนักหรอก สำหรับผมเองคิดว่าพระเอกเรื่องนี้มันขี้เก๊กไปหน่อยก็คงเท่านั้นแหละ เฮอๆ 

    กล่าวโดยสรุป สำหรับใครที่ชอบแนวรักโรแมนติดแนวนิยายแฟรี่เทล เรื่องนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ละนะ ออกมาสองซีซันแล้วก็จบบริบูรณ์ละนะ สนใจยังไงก็ลองมารับชมกันได้นะครับ

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อยครับ มังงะ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568

Anime No.89 : The Noble Farmer 百姓貴族

 สวัสดีครับ หลังจากคราวก่อนที่นำเสนออนิเมะสั้นๆแนวตลกขบขันอย่างเรื่องผมกับโรโบโกะไปแล้ว วันนี้ก็เลยจะของนำเสนออนิเมะสั้นๆอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเรื่อง The Noble Farmer 百姓貴族 (ชื่อภาษาไทย รากหญ้าบรรดาศักดิ์) เรื่องราวจะเป็นเช่นไร มาลองรับชมกันครับ


 

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของคุณ ฮิโรมุ อารากาว่า นักเขียนมังงะที่เคยอยู่ในฟาร์มของครอบครัวที่ฮอกไกโด เธอจะมาเล่าประสบการณ์ทำงานการเกษตรและชีวิตประจำวันของเหล่าเกษตรกรให้คุณ อิชิอิ บรรณาธิการสาวที่คุณฮิโรมุุทำงานด้วยได้ฟังและเรียนรู้ความยากลำบากและสนุกสนานไปพร้อมๆกับคนดูด้วยนั่นเอง

 


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวสบายๆเล่าเรื่องราวการทำการเกษตรของชาวนาชาวไร่ของเกษตรกรในฮอกไกโด คนดูจะได้รับความรู้เกี่ยวการทำเกษตรหลายๆอย่าง เช่น เรื่องการดูแลพืชผล การกำจัดศัตรูพืช การเลี้ยงวัวและผลิตนมวัว เรียกได้ว่าดูเรื่องนี้แล้วก็ได้รับความรู้ด้านการเกษตรแบบเต็มๆซึ่งเราก็อาจจะเอามาประยุกต์ใช้ในเมืองไทยได้ด้วยก็ได้ (ดูเรื่องนี้แล้วก็อดคิดถึงเรื่อง Silver Spoon ไม่ได้เพราะก็เป็นเรื่องการทำการเกษตรและปศุสัตว์ในฮอกไกโดเหมือนกันละนะ) งานภาพเป็นแนวตัวการ์ตูนน่ารักลายเส้นง่ายๆคล้ายๆคิดตี้ มุกตลกก็โอเคพอขำๆอะนะ 

ข้อด้อย:

    ตัวอนิเมะเองเป็นตอนสั้นๆประมาณ 4 นาที รวมเพลงปิดแล้วด้วย บางทีก็รู้สึกว่าไปเร็วไปสักหน่อย ดูแล้วเหมือนฟังอาจารย์ที่บรรยายเร็วเกินไปจนจดเล็คเชอร์ไม่ทันเอาละนะ  (ให้ดูพากย์ไทยน่าจะดีกว่าละครับ ถ้าอ่านซับน่าจะไม่ทัน) 

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นอนิเมะสั้นแนวให้ความรู้เกี่ยวกับการเกษตรในฮอกไกโด เนื้อเรื่องก็ฮาๆดี ดูได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีปัญหาครับ ดูเหมือนจะออกมา 2 ซีซัน + OVA ด้วยแต่ผมหาดูได้แค่ซีซันหนึ่งละนะ สนใจยังไงก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ 

ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบจ้า ->


วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2568

Anime No. 88 : Me & Roboco 僕とロボコ

 สวัสดีครับ วันนี้ก็ลองหาอนิเมะแนวตลกๆมาให้ทุกท่านได้รับชมกันซะหน่อยก็คงจะดี(คนไทยคงจะเครียดๆกันละนะช่วงนี้) สำหรับเรื่องที่จะนำเสนอวันนี้ก็คือเรื่อง  Me & Roboco 僕とロボコ (ชื่อภาษาไทย ผมกับโรโบโกะ หุ่นเมดพันธุ์ซ่า ) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ บอนโดะ ไทระ เด็กประถมที่อยากได้หุ่นยนต์แม่บ้านออเดอร์เมทที่กำลังเป็นที่นิยมกับเขาบ้าง เลยขอร้องให้คุณแม่ซื้อให้ จนในที่สุดคุณแม่ก็ใจอ่อนยอมซื้อมาให้หนึ่งตัวชื่อ โรโบโกะ แต่หุ่นโรโบโกะกลับเป็นหุ่นที่เพี้ยนๆผิดปรกติแถมยังมีพลังทำลายล้างสูงด้วย ชีวิตประจำวันของบอนโดะเลยเต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวายชวนขำเช่นนี้นี่เอง


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นอนิเมะแนวตลกแบบสั้นๆ ตอนหนึ่งแค่สัก 3-4 นาทีแค่นั้นเองแต่ก็็อัดแน่นด้วยมุกตลกกวนๆล้อเลียนอนิเมะเรื่องอื่นๆเอาไว้แบบจุกๆ (แค่ตัวละครก็ดูแล้วก็รู้เลยว่าล้อเลียนโดราเอม่อนมาเต็มๆละนะ) มุกตลกก็โป๊ะเป๊ะเฮฮาขำกลิ้งกันเลยทีเดียว ใครเครียดๆอะไรมาก็ลองหาเรื่องนี้มาดูกันได้ครับ งานภาพสวยงามคมชัดดูรู้เรื่องดีไม่มีปัญหาครับ

ข้อด้อย:

    เนื่องจากมันเป็นอนิเมะตอนสั้นๆ เรื่องราวก็เลยอาจจะไปเร็วสักหน่อย บางทีก็เหมือนเร็วเกินไปจนฟังไม่ทันบ้างก็มี อีกเรื่องก็คือถ้าคนดูไม่เคยดูอนิเมะเรื่องที่ล้อเลียนก็อาจจะไม่รู้ว่ากำลังเล่นมุกล้อเรื่องอะไรอยู่(อย่างมีฉากที่ล้อเรื่องสแลมดังก์อย่างงี้ ถ้าคนดูไม่เคยดูสแลมด์ดังก์ก็คงไม่รู้ว่านี่คือฉากจากสแลมดังก์ละนะ) 

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวตลกโป๊กฮาแบบไม่มีสาระอะไร เหมาะสำหรับคนที่อยากหาอะไรดูคลายเครียดละนะ (แต่ก็ต้องเคยดูอนิเมะดังๆมาบ้างเหมือนกันจะได้เข้าใจมุก) ตอนที่เขียนนี่ก็ออกมาหนึ่งซีซันแล้วก็กำลังจะมีหนังใหญ่ออกฉายด้วยละนะครับ สนใจก็ลองหามารับชมกันได้ 


Official Website -> https://boku-to-roboco.com/

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ สติกเกอร์ไลน์ "นางสาว C" จากมังงะเรื่อง Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime No.87 : Tomo-chan Is a Girl! トモちゃんは女の子!

 สวัสดีครับ ช่วงนี้เปิดทีวีก็มีแต่ข่าวเครียดๆ ว่าแล้วก็ลองหาอนิเมะแนวรอมคอมตลกๆมาคลายเครียดกันบ้างดีกว่า ว่าแล้วผมก็ลองนั่งคิดดูว่ามีเรื่องไหนที่ยังไม่ได้รีวิวบ้าง ก็นึกออกมาเรื่องนึงนั่นคือเรื่อง Tomo-chan Is a Girl! トモちゃんは女の子!(ชื่อภาษาไทยก็แปลตรงๆ โทโมะจังเป็นเด็กผู้หญิงนะ!) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★☆☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของสาวทอมบอยม.ปลาย โทโมะ ไอซาว่า เธอเป็นนักคาราเต้ที่มีฝีมือฉกาจแถมรูปร่างหน้าตาก็ดูเท่กว่าผู้ชายแท้ๆซะอีก แต่ทว่าเธอเองก็เป็นเด็กผู้หญิงที่มีความรักหญฺิงชายธรรมดาๆทั่วๆไปคนหนึ่ง โดยเธอเองก็หลงรัก จุนอิจิโร่ คุโบตะ เพื่อนชายสมัยเด็กที่เรียนคาราเต้ที่โรงฝึกบ้านของโทโมะมาพร้อมๆกันกับเธอ เพียงแต่ว่าจุนอิจิโร่ไม่เคยเห็นโทโมะเป็นเด็กผู้หญิงเลยแม้แต่นิดเดียว กลับเห็นเธอเป็นเพื่อนผู้ชายซะงั้น เธอจึงต้องพยายามทุกวิธีทางที่จะให้จุนอิจิโร่หันมามองเธอเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้จงได้



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวรอมคอมแนววัยรุ่นวุ่นรักน่ะแหละ ตัวนางเอกโทโมะก็จะเป็นนางเอกแนวๆเจ้าฮะ(หนูๆถ้าไม่รู้คืออะไรให้ลองถามคุณพ่อคุณแม่ดูนะ เฮอๆ) ที่พยายามจะพิชิตใจพระเอกให้จงได้ ก็ดูจะกลับๆกับความเป็นจริงหน่อย เรื่องนี้ก็ให้บรรยากาศเหมือนมังงะอนิเมะยุค 90  อยู่เหมือนกัน(ตรงที่นางเอกกับพระเอกมักจะเพื่อนซี้เป็นคู่หูกันมาก่อนนี่แหละ) งานภาพสวยงามโอเค ตัวละครก็ไม่ได้เยอะเกินไปดูแล้วเข้าใจง่ายดี มุกก็ขำๆทำได้ดีเลย เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นแนวฮาเร็มก็เลยน่าจะดูได้ทุกเพศทุกวัยแหละนะ

ข้อด้อย:

    ดูๆไปมันก็มีประเด็นที่สับสนอยู่เหมือนกัน เรื่องที่จุนอิจิโร่ไม่รู้ว่าโทโมะเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆหรือแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้ อันนี้ดูแล้วไม่ค่อยเครียร์เท่าไร อีกเรื่องก็คงจะที่เป็นแนวรอมคอมแต่มีส่วนของคอมเมดี้มากกว่าโรแมนติกละนะ ตัวเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากดูๆแล้วก็พอๆจะเดาพล็อตออกแหละ 

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวรอมคอมสาวทอมบอยกับหนุ่มซื่อบื้อ เนื้อเรื่องดูง่ายดูได้ทุกเพศทุกวัยเหมาะสำหรับดูคลายเครียดแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ณ.ตอนที่เขียนนี่ออกมาหนึ่งซีซัน(ก็น่าจะจบแล้วละนะ) ใครสนใจก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ

ส่งท้ายขายของครับ สติกเกอร์ไลน์บัวคำแม่หญิงล้านนา(จากเรื่อง ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับนวนิยาย) ->

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime No.86 : 86 エイティシックス

 สวัสดีครับ สำหรับเรื่องที่จะรีวิวเป็นเรื่องที่ 86 นี่ก็จะเป็นเรื่องไหนไม่ได้เลยนั่นก็คือเรื่อง 86 (ไม่ได้กวนอะไรนะครับ มันชื่อ 86 エイティシックス จริงๆ) ซึ่งแท้ๆแล้วผมก็ล็อกเอาไว้รีวิวเป็นเรื่องที่ 86  นี่แหละ เฮอๆ ว่าแล้วก็มาลองดูกันเลยครับ

 


Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวสงครามระหว่างสาธารณรัฐซานแม็กโนเลียกับอานาจักรไกแอด โดยไกแอดได้ใช้จักรกลหุ่นยนต์ที่เรียกว่า"ลีเจี้่ยน"ในการรุกรานสาธารณรัฐซานแม็กโนเลีย แม้ตอนแรกทางซานแม็กโนเลียจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แต่ก็มีการสร้างยานขับจักรกลของตัวเองเรียกว่า"จากาน๊อต"โดยมีการบังคับคนกลุ่มน้อยจากเขต 86 ให้มาเป็นคนขับ และบอกกับประชาชนว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างมาจากหมู!! จึงไม่ต้องสนใจว่าพวก86จะเป็นจะตายอย่างไร พันตรี วลาดีเลน่า มิลเลเซ่ (ชื่อเล่นเลน่า) ผู้ที่ทำหน้าที่เป็น"แฮนด์เดอร์ล"ผู้ควบคุมสื่อสารผ่านทางเสียงกับผู้บังคับจากาน๊อต แม้จะรู้สึกขัดแย้งที่รู้ว่ายังไงๆคนพวกนี้ก็เป็นมนุษย์แต่ยังคงต้องทำหน้าที่แฮนด์เดอร์ลต่อไป จนเธอได้มาเป็นแฮนด์เดอร์ลของหน่วย"สเปียร์เฮด" หน่วยที่เก่งที่สุดของพวก 86 และได้ทำความรู้จักกับ ชิเน โนเซ็น หัวหน้าหน่วยผู้เก่งเกจฉายา"อันเดอร์เทคเกอร์=สัปเร่อ" แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเห็นหน้าตากันจริงๆแต่ก็ได้พูดคุยกันผ่านทางวิทยุสื่อสารจนเริ่มเกิดความสัมพันธ์กันในสงครามอันโหดร้ายนี้นี่เอง



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวไซไฟสงครามจักรกล ตัวเซ็ตติ้งของโลกของโลกก็ทำออกมาได้ดีมาก ความลึกซึ่้งของเนื้อหาก็กินใจและสะท้อนถึงพิษภัยของสงครามด้วย ผมคิดว่าเขาน่าจะเอาเรื่องราวจากสงครามโลกครั้งที่สองมาเป็นแนวในการเขียนบทอยู่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องการยกชนชาติตนเหนือกว่าคนอื่นและด้อยค่าชนชาติอื่นให้ต่ำกว่าตน (ก็เหมือนพวกนาซีเยอรมันที่ทำกับคนยิวนั่นแหละ หรือก็อาจจะเป็นประเทศเจ้าอาณานิคมที่ตอนนั้นเกณฑ์คนจากประเทศใต้อาณัติมารบแทนด้วย)  เรื่องราวระหว่างเลน่ากับอันเดอร์เทคเกอร์นี่ก็เป็นเรื่องราวที่งดงามและตราตรึงใจมากๆ(เพราะทั้งคู่ไม่ได้เจอกันเลยได้ยินแต่เสียงละนะ) ด้านงานภาพสวยงาม ฉากแอ๊คชันก็ทำได้ดี ดนตรีก็เร้าอารมณ์ได้ดีทีเดียว คนชอบแนวไซไฟสงครามจักรกลก็น่าชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยากละครับ


ข้อด้อย:

      เนื่องจากเนื้อเรื่องเป็นแนวสงครามจึงมีเนื้อหาที่ค่อนข้างจะโหดร้ายและหดหู่อยู่พอสมควร ก็เลยจะไม่เหมาะกับคนดูที่เป็นเด็กๆละนะ อีกอย่างคือดูๆไปมักจะมีตอนรีแคป(เล่าย้อน)อยู่สองสามตอน คงเป็นเพราะตอนออกฉายคงมีเหตุให้หยุดออกอากาศอยู่บ่อยๆ เลยต้องมีตอนเล่าย้อนอยู่เรื่อยๆ (จะข้ามไปก็ได้อะครับ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาหลักเท่าไรหรอก) พอดูจบดูเหมือนในไลท์โนเวลจะมีต่อ แต่อนิเมะดูเหมือนจะจบอยู่เท่านี้แหละครับ 

     กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้เป็นแนวไซไฟสงครามจักรกล เนื้อหาลึกซึ้งกินใจเตือนภัยสงคราม ใครชอบแนวนี้ก็ลองหามารับชมได้ครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime Special 22 : บ้าน bâan - 大人の彊界 -

 สวัสดีครับ หลังจากที่ผมเขียนบล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับว่าทำไมเราถึงยังไม่มีอนิเมะไทยสักทีไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ช่วงนี้ก็มีข่าวดีที่คุณ Garnt Maneetapho เจ้าของช่องยูทูป Gigguk ประกาศสร้างอนิเมะ  Baan (บ้านนะแหละ เชื่อเต็มๆก็ Bâan -The Boundaries of Adulthood-)  ซึ่งจะมีความเป็นไทยผสมอยู่เป็นหลักเลยด้วย ผมเลยไปหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรเจ็คนี้มาดูครับ


สำหรับคุณ Garnt Maneetapho ก็เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษที่ทำช่องยูทูบ Gigguk เป็นช่องที่ทำเกี่ยวกับการรีวิวและวิเคราะห์อนิเมะ ซึ่งช่องนี่ก็มีผู้ติดตามหลักล้านเลยทีเดียว(แต่คุณ Garnt แกพูดภาษาอังกฤษอะนะก็เลยไม่แปลกที่คนไทยทั่วไปจะไม่รู้จัก รวมถึงผมด้วย แฮะๆ) สำหรับโปรเจ็ค Baan นี่ผมลองเข้าไปดูที่คลิปที่คุณ Garnt พูดถึงก็พอจะแปลได้ว่า (ภาษาอังกฤษผมก็สเน็คๆฟิชๆอาจจะพิดพลาดไปประการใดก็ขออภัยด้วย) แกเคยได้ยินเรื่องที่ว่ามีคนอยากจะทำ MV เป็นอนิเมะก็เลยหอบเงินกับไอเดียไปญี่ปุ่นแล้วก็คุยกับสตูดิโอที่นั่นเลย เสร็จแล้ว MV นั่นก็สร้างออกมาได้สำเร็จจนได้ ผมว่าแกก็เลยเอาบ้างละนะ คงจะไปคุยกับสตูดิโอเรื่องโปรเจ็ค Baan นี่แหละ โดยเรื่องนี้ได้ผู้กำกับ โอฮาชิ โยชิมิซึ ผู้กำกับ Code Geass: Rozé of the Recapture และคุณ Kevin Penkin เป็นผู้ประพันธ์เพลง (มีผลงานจากเรื่อง Made in Abyss) สร้างโดย Daisy Studio (แฝนสาว 100 คน เชนซอว์แมน) โดยเนื้อเรื่องจะเป็นแนวต่างโลก ความยาวประมาณ 14 นาที ซึ่งจะฉายวันที่ 24 สิงหาคมนี่ที่โรงภาพยนต์ที่โตเกียว(เข้าใจว่าคงฉายแค่โรงเดียวสำหรับให้แฟนๆดูละนะ) หลังจากนั้นจะเอามาลงยูทูป Gigguk ให้ได้ดูกันครับ
    สำหรับเนื้อเรื่องก็พอจะทราบคร่าวๆแต่ผมยังไม่พูดมากไว้รอดูกันเองดีกว่า อย่างไรก็ดีผมว่ามันก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่ความเป็นไทยจะเริ่มเข้าไปในอนิเมะของญี่ปุ่นเรื่อยๆ ถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่มักจะมีแต่ตัวละครไทยที่เป็นตัวร้ายตัวประกอบแล้ว สมัยนี้บทของคนไทยในอนิเมะญี่ปุ่นก็เริ่มจะโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆแล้ว อย่างล่าสุดก็เนี้ยง(ยัยเมี้ยวข้าวมันไก่)ในกันดัมจีควักซ์น่ะแหละนะ นี่ก็เป็นระดับบทนางเอกB=นางรองแล้ว แต่แน่นอนว่าถ้าเป็นอนิเมะญี่ปุ่นยังไงๆบทตัวเอกก็คงจะสงวนไว้ให้เป็นคนญี่ปุ่นอยู่ดีนะแหละ ผมเองก็ยังเฝ้ารออนิเมะที่คนไทยสร้างแบบ 100 % อยู่นะครับ หวังว่าจะได้เห็นก่อนจะไปเฝ้าพระอินทร์ละนะ เฮอๆ 
 

ส่งท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ยัยจอมตื้อ จากมังงะเรื่อง Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->


วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime No.85 : Full Metal Panic ! フルメタル・パニック!

 สวัสดีครับ สำหรับเรื่องที่จะรีวิวในวันนี้เป็นเรื่องที่เพื่อนชาวต่างชาติเคยแนะนำให้ดูเมื่อนานมาแล้ว มันแปลกตรงที่ว่าไอ้เพื่อนคนนี้นี่ไม่รู้จักการ์ตูนดังๆหลักๆอย่างดราก้อนบอล คนเก่งฟ้าประทาน โดราเอม่อน แต่ดันรู้จักเรื่องนี้ซะงั้น(อาจจะเพราะต่างประเทศไม่ได้ฉายการ์ตูนเหมือนไทยละนะ) ผมเองพึ่งนึกออกก็เลยลองหามาดูช่วงนี้แหละ เรื่องที่ว่าก็คือ Full Metal Panic ! フルメタル・パニック! มาลองรีวิวกันนะครับ


 

Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ จิโดริ คานาเมะ  สาวน้อยมัธยมโรงเรียนจินไดที่ถูกผู้ก่อการร้ายหวังจะลักพาตัว หน่วยมิทริลผู้พิทักษ์ความสงบของโลกจึงส่งทหารรับจ้าง เมลิซ่า เมา  หัวหน้าหน่วย ครูซ เวบเบอร์ มือแม่นปืน และ โซซุเกะ ซาฮาระ หน่วยกล้าตายซึ่งอายุใกล้ๆกับจิโดริ จึงทำหน้าที่แฝงตัวเข้าไปคอยอารักขาเธอโดยไม่ให้รู้ตัว แต่เพราะโซซุเกะไม่เคยใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาเลยมักจะทำอะไรที่เกินเลยไปหน่อยจนทำให้จิโดริต้องปวดหัวอยู่เป็นประจำ

 


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวแอ็คชันไซไฟผสมกับแนวรอมคอม มีการใช้ AS (Arm Slave) หุ่นยนต์ที่ขับมาสู้กันได้อารมณ์เหมือนกันดัม บรรยากาศในเรื่องก็จะคล้ายกับโลกปัจจุบันที่สงครามเย็นยังคงดำเนินอยู่ ในเรื่องมีผู้ก่อการร้าย องค์กรทางทหารและการเมืองระหว่างประเทศอะไรหลายๆอย่างที่ให้ความสมจริงและมีมิติ ส่วนของมุกรอมคอมก็ว่าขำๆดีละนะ เขาคงจะใส่มาให้ตัดอารมณ์ไม่ให้เครียดเกินไปนะแหละ ส่วนตัวผมให้คะแนนของส่วนไซไฟส่วนของแม็คคานิกส์เยอะกว่าละนะ ถือว่าทำได้ดีทีเดียว 


 

ข้อด้อย:

    ต้องบอกก่อนว่าภาคแรกเนี่ยเป็นแนวแอ็คชัน แต่พอภาคสองกลายเป็นแนวรอมคอมตลกโป๊กฮาล้วนๆเลย ภาคสามภาคสี่ถึงกลับเป็นแอ็คชันดร่ามา(สปอลย์นิดหน่อย ภาคสี่นี่มีมาไทยด้วยนะ แถมยังเอาเรื่องจริงของตำรวจไทยไปเล่นซะอีก เฮอๆ) ตัวเนื้อเรื่องอาจจะเป็นประเภทเจ้าหญิงโดนลักพาตัวแล้วเจ้าชายต้องตามไปช่วยอยู่มากเกินไปซะหน่อย ฉากแอ็คชันทำได้ดีแต่ก็อาจจะโหดไปสำหรับเด็กๆด้วยละนะ

    กล่าวโดยสรุป ใครที่ชอบแนวไซไฟหุ่นยนต์รบแบบสมจริงหน่อย หรืออนิเมะแนวแอ็คชันยุค 90 ที่สมจริงสมจังหน่อยเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอีกเรื่องที่คุณน่าจะชอบได้ไม่ยาก ลองหามารับชมได้นะครับ แถมท้ายอีกนิดหนึ่ง มันจะตัวมาสคอตโมฟุ(モッフル)ที่อยู่ในเรื่องนี้แล้วมันก็ไปโผล่ในเรื่อง Amagi Brilliant Park ด้วย เพราะว่าสตูดิโอที่ทำอนิเมะนี่คือเกียวอนิ Kyoto Animation Studio เจ้าเดียวกันนั่นแหละครับ (ณ.วันที่เขียนบล็อกนี่เรื่องนี้ออกมาสี่ภาค ภาคห้าไม่ทราบว่ามาเมื่อไรแต่ดูเหมือนจะมีภาคสปินออฟมาก่อนนะครับ)

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ

วันศุกร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Anime No.84 : Иногда Аля внезапно кокетничает по-русски 時々ボソッとロシア語でデレる隣のアーリャさん

 สวัสดีครับ จริงๆผมก็ไม่อยากจะพูดถึงเรื่องการเมืองสักเท่าไร แต่บางทีมันก็มีเหลืออดเหลือทนจนต้องมาระบายกันบ้างละนะครับ ถ้าพูดถึงการเมืองในโรงเรียนดูบ้างก็เหมือนจะมีอนิเมะเรื่องหนึ่งที่นำเสนอออกมาได้น่าสนใจทีเดียว นั่นก็คือเรื่องที่รีวิวกันในวันนี้ Иногда Аля внезапно кокетничает по-русски 時々ボソッとロシア語でデレる隣のアーリャさん (ชื่อภาษาไทย คุณอาเรียโต๊ะข้างๆ พูดรัสเซียหวานใส่ซะหัวใจจะวาย) ชื่อยาวเป็นหางว่างเช่นเคยตามตำรับไลท์โนเวลญี่ปุ่นสมัยนี้ละครับ ว่าแล้วก็มาลองดูกัน

Source : https://roshidere.com/special/present_wp.html

Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ อาริสะ มิฮาอิลลอฟนา คุโจ (ชื่อเล่นอาเรีย) สาวม.ปลายลูกครึ่งญี่ปุ่นรัสเซียผู้จริงจังอยู่เสมอ เธอนั้นทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกให้กับสภานักเรียนด้วย กลับกันชายที่นั่งเรียนอยู่ข้างๆเธอ  มาซาจิกะ คุเซะ เด็กติดเกมติดอนิเมะที่ดูเหมือนจะทำตัวไร้สาระไปวันๆ แต่ดูเหมือนเจ้าหญิงผู้โดดเดี่ยวอย่างอาเรียจะสนใจเขาอยู่ไม่น้อยแถมยังหลุดพูดจาหวานๆเลี้ยนๆเป็นภาษารัสเซียให้เจ้าตัวฟังอยู่บ่อยๆโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าแท้จริงแล้วมาซาจิกะเขาฟังภาษารัสเซียออกทั้งหมดนั่นแหละ 

 


ความคิดเห็น:

     ตอนแรกที่ดูผมก็นึกว่ามันเป็นแนวรอมคอมรักวัยรุ่นในรั่วโรงเรียนทั่วๆไป แต่พอดูๆไปแล้ว ผมว่ามันเป็นแนวการเมืองคมเฉือนคมกันมากกว่า คนดูจะได้เทคนิคการบริหารจัดการข้อขัดแย้ง การเจรจาแบ่งผลประโยชน์ และเทคนิคการพูดจูงใจผู้คน (ซึ่งเป็นสิ่งที่นักการเมืองถนัดกันละนะ เฮอๆ) เรียกได้ว่าถ้าคนดูลองเอาเทคนิคต่างๆไปใช้ก็อาจจะจัดการสถานการณ์ข้อขัดแย้งอะไรได้หลายๆอย่างเลยทีเดียว สำหรับงานภาพก็จัดได้ว่าสวยมาก เพลงเปิดปิดก็ทำได้ดีไม่มีปัญหาครับ (คุณซูมิเระนักพากย์ก็ร้องเพลงปิดได้ไม่ซ้ำกันทุกตอนละนะ) ผมบวกคะแนนเพิ่มจากการที่คุณซูมิเระแกต้องไปเรียนภาษารัสเซียเพิ่มเพื่อพากย์เรื่องนี้ด้วยละนะ(ถึงคนรัสเซียจะบอกว่าฟังไม่ค่อยออกก็เหอะ)

Source : https://roshidere.com/special/present_wp.html

ข้อด้อย:

    ก่อนอื่นก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเซ็ทติ้งให้นางเอกเป็นลูกครึ่งรัสเซียด้วย ยิ่งมีเหตุสงครามรัสเซียยูเครนกันอยู่ก็รู้สึกแปลกๆอยู่เหมือนกัน(จังหวะนรกไปหน่อยหรือเปล่า) อีกอย่างก็มีตอนที่เหมือนมีสาระแล้วก็ตัดกับตอนที่ดูแล้วอิหยังวะ(ฉากเซอร์วิสที่อาจจะไม่ค่อยจำเป็น)อยู่ด้วย มุกตลกที่ใช้ในเรื่องก็พอขำแฮะๆละไม่ถึงกับขำก๊ากอะไร แต่โดยรวมแล้วก็เป็นอนิเมะที่สนุกดีถ้าไม่คิดอะไรมากละนะ    

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวโรแมนติกคอมเมดี้ที่จริงๆแล้วเป็นแนวการเมืองในโรงเรียน สำหรับ"ท่านผู้นำ"บางประเทศที่พูดต่อหน้าผู้คนไม่ค่อยเก่ง ต้องอ่านโพยอ่านไอแพดไปด้วยนี่ก็ลองหาอนิเมะเรื่องนี้มาดูได้ เพราะมาซาจิกะเขาจะสอนเทคนิคการพูด public  speaking แบบมืออาชีพให้ละนะ เฮอๆ (ณ.ตอนที่เขียนบล๊อกตอนนี้ออกมาหนึ่งซีซัน และคาดว่าซีซันสองคงจะตามมาในไม่ช้านี้ครับ)

Official Anime Website -> https://roshidere.com/

ส่งท้ายขายของ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

 

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Anime No.83 : Bakemonogatari 化物語

 สวัสดีครับ ช่วงนี้เข้าหน้าฝนเต็มตัวแล้ว แถวบ้านผมนอกจากยุงจะเยอะแล้ว หอยทากก็เริ่มอาละวาดกันแล้ว พูดถึงหอยทากแล้วก็นึกถึงตัวละครตัวหนึ่งในอนิเมะที่เคยดู นั่นก็คือ ฮาจุคุจิ มาโยอิ หอยทากโลลิจอมหลงทางจากเรื่อง Bakemonogatari 化物語 (ชื่อภาษาไทย ปกรณัมของเหล่าภูต)ซึ่งก็จะเป็นเรื่องที่จะรีวิวกันในวันนี้ครับ


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ โคโยมิ อารารากิ เด็กหนุ่มม.ปลายที่บังเอิญไปรับตัวของสาวน้อย ฮิตากิ เซ็นโจวกาฮาระ ที่ลื่นตกบันไดเวียนลงมา ที่แปลกคือโคโยมิไม่รูัสึกถึงน้ำหนักตัวของเธอเลย เมื่อถูกฮิตากิข่มขู่ไม่ให้มายุ่งกับเรื่องของเธออีก โคโยมิก็บอกกับเธอว่าจริงๆแล้วเขาเคยเป็นแวมไพร์มาก่อนเลยและเข้าใจถึงเรื่องราวแปลกประหลาดเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับเธอ เขาจึงพาเธอไปหา โอชิโนะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการปราบไคอิ( 怪異 สิ่งแปลกประหลาด)เพื่อช่วยจัดการกับปัญหาเหนือธรรมชาติของเธอให้นั่นเอง


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวเรื่องเหนือธรรมชาติที่พระเอกโคโยมิของเราต้องมาเจอกับปัญหาต่างๆนาๆที่เกิดจากไคอิ ตัวเซ็ทติ้งบรรยากาศของเรื่องดูจะแปลกๆเหมือนโลกที่ดูบิดเบี้ยวไม่ได้อยู่ในโลกความเป็นจริง เนื้อหาเหมือนจะว่าเป็นแนวจิตวิทยาจริงจังก็ได้ จะว่าเป็นข้อความไร้สาระก็ไม่เชิง ว่าจริงๆเป็นอนิเมะที่ดูยากอีกเรื่องหนึ่งละนะ (อารมณ์เหมือนอีวานแกเลียนฉบับทีวีซีรี่ย์ดังเดิมตอนสุดท้ายที่ดูไม่รู้เรื่องนะแหละ แต่เรื่องนี้มันเป็นแบบนั้นแทบจะทุกตอนก็ว่าได้)  ผมว่าคนดูแล้วชอบก็มี ดูแล้วเกลียดไปเลยก็คงจะมีแหละ

ข้อด้อย:

     นอกจากเนื้อหาที่ลึกซึ้งจนเข้าใจยากแล้ว ตัวอนิเมะที่ทำออกมาหลายภาคก็ยังไม่ได้เรียงไทม์ไลน์ กระโดดไปเล่นตรงนู้นกลับไปพูดถึงตอนนี้บ้าง ถ้าคนดูไม่เรียงลำดับให้ดีก็คงจะสับสนไปกันใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเนื้อหาล่อแหลมลามกอยู่หลายตอนก็เลยไม่เหมาะสำหรับเด็กด้วยประการทั้งปวงละนะครับ 

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวเหนือธรรมชาติอิงจิตวิทยา ด้านงานภาพก็สวยเป็นเอกลักษณ์ดี เพลงเปิดเพลงปิดเยอะมากแทบจะเปลี่ยนไปตามตัวละครหญิงที่โพล่มาในเรื่องก็ว่าได้ เนื้อเรื่องเข้าใจยากไปนิด ส่วนใหญ่เป็นบทสนทนากันซะมากกว่าแอ็คชันมีอยู่นิดหน่อยละนะ ยังไงลองหามาดูกันสักตอนสองตอนแล้วกันครับ ถ้าชอบก็คงดูกันยาวเลย (ผมเองดูได้ไม่หมดทุกภาคละนะครับ หมดแรงซะก่อน เฮอๆ)

ส่งท้ายขายของครับ สติกเกอร์ไลน์บัวคำแม่หญิงล้านนา(จากเรื่อง ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับนวนิยาย) ->

วันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Anime Special 21 : ทำไมถึงไม่มีอนิเมะไทยสักที ? どうしてタイのアニメがないの?

 สวัสดีครับ หลังจากดูอนิเมะจากญี่ปุ่นมาน่าจะเป็นหลักหลายร้อยเรื่องแล้ว มันก็อดคิดไม่ได้ว่าแล้วทำไมไทยเราถึงไม่มีอนิเมะแบบทางญี่ปุ่นเขาบ้าง? ว่าแล้วก็ลองมารวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับอนิเมะแบบไทยๆกันดูว่ามีบ้างหรือเปล่า

    เริ่มจากอนิเมชันเรื่องแรกของไทย ถ้าถามกูเกิลดูจะได้คำตอบว่าคือเรื่อง"เหตุมหัศจรรย์"ของท่าน ปยุต เงากระจ่าง เป็นอนิเมชันสั้นๆ ฉายเมื่อปีพ.ศ 2498 (ค.ศ 1955)


แต่ถ้าเป็นอนิเมชันเรื่องยาว ในความเข้าใจของผมก็คงจะต้องเป็นเรื่อง"สุดสาคร" ออกฉายเมื่อปี ๒๕๒๒ (ค.ศ 1979) กำกับโดยท่าน ปยุต เงากระจ่าง เช่นเคย (ซึ่งท่านก็ได้รับฉายาว่าเป็น"วอลท์ ดิสนีย์ เมืองไทย"เลยทีเดียว)

 


อย่างไรก็ดี สองเรื่องนี้ก็เก่ามากขนาดว่าผมเองยังเกิดไม่ทันได้ดูเลย ถ้าถามว่าอนิเมะไทยที่ผมเคยดูตอนเด็กๆคือเรื่องอะไร มานึกดูตอนนี้น่าจะเป็นเรื่อง"ม้าเหล็ก"เป็น MV ของพี่หนุ่ยอำพลลำพูน เป็นอนิเมะแบบไทยๆแท้ๆที่แม้แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังจำเนื้อร้องท่อนฮุกได้อยู่เลยอะนะ

หลังจากผ่านช่วงวัยเด็กมาแล้ว ช่วงวัยรุ่นของผมก็จะประมาณปีค.ศ 2000 ช่วงนั้นจริงๆเป็นช่วงที่มังงะไทย(เขาก็เรียกหนังสือการ์ตูนไทยน่ะแหละ)กำลังบูม ในความทรงจำของผม ก็จะมีพวก Thai comics ของสำนักพิมพ์วิบูลย์กิจ หรือมังงะที่เขียนโดยคนไทยที่แทรกอยู่ในนิตยสารการ์ตูนพวก Boom หรือ C-kids ก็มี แต่อย่างไรก็ตามมันก็ไม่มีเรื่องไหนที่ได้ทำออกมาเป็นอนิเมะ(หรือมีทำแล้วผมไม่ทราบก็ไม่รู้เหมือนกัน)  หลังจากนั้นมาด้วยกระแสอะไรต่างๆที่เข้ามาในไทยทั้ง J-pop,K-pop สุดท้ายมังงะแบบไทยๆก็ดูเหมือนจะไม่ได้รับความนิยมเหมือนเช่นเคย 

ในเวลาต่อมามันก็มีคนที่ทำอนิเมชันออกมาให้ชมอย่าง สุดสาคร(ถ้าใครจำเพลงจ๋ามะทะจิงจาได้ก็นั่นแหละ) ก้านกล้วย ปังปอนด์ นาค ซึ่งส่วนตัวผมก็ว่ามันหนักไปทางเป็นการ์ตูนเด็กหรือให้ความรู้สึกเหมือนอนิเมชัน 3D ฝั่งฮอลี่วูดเสียมากกว่าจะเรียกได้ว่าเป็นอนิเมะละนะ 

ผมเองก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมถึงไม่มีใครสักคนคิดที่จะทำอนิเมะไทย (เอาแบบ2Dวาดมือเป็นตอนๆมีเพลงเปิดปิดเหมือนของญี่ปุ่นน่ะ) ทั้งที่เมื่อก่อนอนิเมะญี่ปุ่นที่ดังๆอย่าง Dragon Ball เองก็เคยผลิตในประเทศไทยนี่แหละ เรื่องฝีมือคนไทยผมว่าทำได้แน่นอน เท่าที่พอจะคิดออกก็คงจะมีสาเหตุประมาณนี้

1. ขาดต้นฉบับที่ดี ก่อนจะเป็นอนิเมะได้อย่างแรกเลยมันก็ต้องมีต้นฉบับ ซึ่งก็อาจจะเป็นไลท์โนเวลหรือมังงะที่ขายได้ดีในระดับหนึ่งก่อนถึงจะถูกเอามาทำเป็นอนิเมะได้ อย่างไรก็ดีในยุคสมัยนี้ที่หนังสือการ์ตูนไทยแทบจะหาอ่านไม่ได้แล้วเรื่องต้นฉบับที่ดีก็ไม่ต้องพูดถึง ส่วนไลท์โนเวลก็แทบจะเหลือแต่แนววายแนวยูรินะแหละที่ยังขายได้(ครั้นจะเอาแนวนี้มาทำอนิเมะก็คงไม่พ้นกองเซ็นเซอร์จนดูไม่รู้เรื่อง ไม่ก็ได้ฉายรอบดึกละนะ) 

2. ผู้ใหญ่ยังเข้าใจว่าอนิเมะคือการ์ตูนสำหรับเด็ก ผู้หลักผู้ใหญ่ในประเทศเราส่วนใหญ่ยังเข้าใจว่าอนิเมะคือการ์ตูนสำหรับเด็ก ทั้งที่จริงๆแล้วมันก็คือสื่อบันเทิงชนิดหนึ่งที่มีเรทมีเนื้อหาไม่ต่างอะไรกับภาพยนต์เรื่องหนึ่งนะแหละ พอคิดว่ามันเป็นแค่การ์ตูนเด็กก็อาจจะไม่เห็นศักยภาพว่าอนิเมะเรื่องหนึ่งสามารถต่อยอดไปทำอะไรได้หลายอย่างก็เลยไม่ได้ลงทุนลงแรงสร้างอนิเมะไทยก็ได้ ยกตัวอย่างเช่น อนิเมะเรื่อง Yuru Camp ที่เป็นเรื่องของสาวน้อยที่ชอบไปออกแคมปิ้งก็ยังสามารถขายของอุปกรณ์ตั้งแคมป์ของกินของฝากต่างๆเข้ามาในเรื่องได้ด้วย รวมถึงโปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้ ยังไม่นับรวมพวกฟิกเกิยร์ของเล่นเอยอะไรเอยอีกละนะ ส่วนคนที่เถียงว่าใช้ละครไทยบ้านเราโปรโมทเอาก็ได้นิ มันก็จริง แต่ดาราเนี่ยยังไงก็มีวันแก่ อาจจะมีข่าวคาวเรื่องซุบซิบนินทาได้จนเสียภาพพจน์ภายหลังได้ แต่ตัวละครอนิเมะน่ะเป็นอมตะ(ถ้าไม่วาดให้แก่ละก็นะ) ดียังไงก็ยังดียังงั้น ไม่มีทางเสื่อมเสียแน่น่อนแหละ

 3. เงินไม่มางานไม่มี เท่าที่เคยได้ยินมาอนิเมะแบบคุณภาพกลางๆ 12 ตอนแบบที่เราเห็นๆอยู่ทุกวันนี้จะต้องใช้เงินสร้างตกอยู่ประมาณ 1 ล้านกว่าบาท(ใช้เวลาสร้างอีก1-2ปี) ถ้าไม่มีวิธีที่จะขายงานได้แบบอนิเมะญี่ปุ่น จู่ๆจะมีเศรษฐีโอตาคุที่ไหนควักเงินตัวเองออกไปก่อนล้านนึงจะเจ๊งก็ช่างช่วยสร้างอนิเมะไทยให้หน่อย มันก็คงจะไม่มีน่ะแหละนะ (แม้แต่อนิเมะญี่ปุ่นเองที่เห็นออกมาซีซันเดียวแล้วไม่มีภาคต่อเลย มันก็เรื่องเงินนะแหละ ถ้าออกมาแล้วขายไม่ได้ไม่ดังก็ไม่ได้ไปต่อละนะ) สุดท้ายมันก็จะกลับไปที่ต้องมีต้นฉบับที่มันต้องศักยภาพพอที่นักลงทุนจะมั่นใจว่าพอเอามาทำอนิเมะแล้วจะขายได้แน่ๆก่อนละครับ

4.เนื้อเรื่องโบราณเกินไป จริงๆก็มีโปรเจ็คอนิเมชันหลายๆอย่างที่ได้ทุนให้เปล่ามาทำ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแนวอนุรักษ์นิยมจนเกินไปอย่างโขน รามเกียรติ์ หรือแนวสอนธรรมะ ซึ่งมันก็ไม่ได้ไม่ดีอะไรหรอกเพียงแต่คนเขาก็ไม่ค่อยจะดูกันนะแหละ ถ้าอยากจะทำให้ปังจริงๆ ก็ควรจะประยุกต์เนื้อเรื่องให้ดูง่ายสนุกสนานมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น โดราเอม่อน แม้จะเป็นแนวไซไฟชีวิตประจำวัน แต่ผมว่าจริงๆแล้วโดราเอม่อน มันคือการ์ตูนคุณธรรมต่างหาก ทุกครั้งที่โนบิตะทำอะไรไม่ดีก็มักจะได้รับกรรมที่ก่อไว้ตอนจบ อาจารย์ฟูจิโกะฟูจิโอะแกก็ไม่ได้บอกโต้งๆท้ายเรื่องว่า กมฺมุนา วตฺตตีโลโก กรรมใดใครก่อกรรมนั่นย่อมตอบสนอง ใช่มัยละ เนื้อเรื่องมันสอนเป็นนัยอยู่แล้วไม่ต้องมาท่องบาลีให้ฟังหรอก (หรือพอพล็อตมันไม่ธรรมะจ๋าๆแล้วผู้หลักผู้ใหญ่เขาจะไม่ให้ผ่านหรือเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ) หรืออย่างรามเกียรติ์ ถ้าเอามาทำโต้งๆก็ไม่มีใครดูหรอกครับ เนื้อเรื่องมันเอาท์ไม่เข้ายุคเข้าสมัยเสียแล้ว (สมัยนี้ไม่มีใครนิยมเอาลิงมาฆ่าล้างโคตรเพื่อแย่งผู้หญิงคนเดียวกันแล้วเฟ้ย) ถ้าจะให้ดีก็ควรจะเอามาประยุกต์กับแนวชีวิตประจำวันอาจจะดีกว่า เช่น ให้พระรามเป็นนักเรียน ม.ปลาย สีดาเป็นดาวโรงเรียน ทศกัณฐ์เป็นนักเลงประจำโรงเรียน พระลักษณ์เป็นบราคอน อะไรแบบนี้มันคงจะเข้าถึงคนรุ่นใหม่ได้มากกว่าละนะ 

เท่าที่คิดออกก็คงจะประมาณนี้ ช่วงหลังๆนี้ผมเองก็เห็นผลงานอนิเมะแบบไทยๆที่คนไทยสร้างมาเรื่อยๆ(แต่เป็นคลิปสั้นๆอะนะ) คุณภาพก็โอเคเลย เอาเข้าจริงๆถ้าจะทำออกมาเป็นตอนๆก็คงจะได้แหละ ยังไงถ้ามีเศรษฐีโอตาคุที่พร้อมจะเจ๊งมาอ่านบล๊อกนี้ก็รบกวนให้การสนับสนุนอนิเมะไทยให้ได้สร้างกันด้วยละกันนะครับ (รวมถึงรัฐบาลที่เอาแต่พูดซอฟต์พาว์เวอร์ๆด้วยนะ เฮอๆ)

 


สุดท้ายก็ขอขายของหน่อยครับ มังงะ Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

วันศุกร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Anime No.82 : School Babysitters 学園ベビーシッターズ

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็เปิดเทอมกันแล้ว ยังไงก็ระวังโรคติดต่อทางเดินหายใจ ทั้งโควิด ไข้หวัดใหญ่ RSV กันด้วยละนะครับ พูดถึงเด็กๆแล้วก็ทำให้นึกถึงอนิเมะแนวพี่เลี้ยงเด็กขึ้นมาเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือเรื่อง School Babysitters 学園ベビーシッターズ (ชื่อภาษาไทย นักเรียนพี่เลี้ยงเด็ก) มาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของเด็กม.ปลาย ริวอิจิ คาชิมา และน้องชายวัยกระเตาะ โคทาโร่ ที่ประสบกับโศกนาฏกรรมเมื่อพ่อแม่ของพวกเขาประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิตทั้งคู่ ทิ้งให้ริวอิจิต้องอยู่กับน้องชายกันแค่สองคน แต่กระนั้น โยโก โมริโนมิยะ เจ้าของโรงเรียนโมริโนมิยะที่สูญเสียลูกชายและลูกสะใภ้ไปในเหตุการณ์เครื่องบินตกเดียวกันกับพ่อแม่ของริวอิจิ เธอได้ตัดสินใจรับอุปการะพี่น้องทั้งสองคนแต่มีเงื่อนไขให้ริวอิจิจะต้องไปช่วยงานที่รับเลี้ยงเด็กในโรงเรียนที่เอาไว้ฝากเด็กๆของบุคลากรในโรงเรียนในเวลากลางวัน ริวอิจิเลยต้องรับภาระเป็นนักเรียนม.ปลายและเป็นพี่เลี้ยงเหล่าเด็กป่วนไปด้วยนั่นเอง 

 



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวๆการ์ตูนเด็กผู้หญิงที่นำเสนอความน่ารักปั่นๆป่วนๆของเหล่าเด็กน้อยในสถานรับเลี้ยงเด็กนั่นแหละ ตัวเนื้อเรื่องก็ไปเรื่อยๆไม่ได้เครียดมีดราม่าอะไรกันนักกันหนา สำหรับคนที่ได้ดูก็น่าจะแบ่งเป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือชอบเด็กน้อยอยากมีลูกมีน้อง และกลุ่มที่สองคือเลี้ยงเด็กมันลำบากแต้ๆอยู่คนเดียวสบายใจกว่าละนะ เฮอๆ สำหรับงานภาพก็สวยงามพอสมควรตามสไตล์การ์ตูนเด็กผู้หญิง เป็นอีกหนึ่งอนิเมะที่ดูได้ทุกเพศทุกวัยไม่มีปัญหาอะไรครับ

ข้อด้อย:

    เนื้อเรื่องดูจะไปเรื่อยๆเอื่อยๆไม่ได้มีอะไรเร้าใจขนาดนั้น(ก็ตามสไตล์แนว slice of life  ละนะ) ณ.ตอนที่เขียนออกมาแค่ซีซันเดียวแล้วก็ไม่รู้จะมีต่อเหรือเปล่า ก็เลยอาจจะรู้สึกว่ามันจบเร็วไปนิดน่าจะมีต่ออีกหน่อยหรือเปล่านะ

    กล่าวโดยสรุป อนิเมะเรื่องนี้ก็นำเสนอความน่ารักน่าชังของเหล่าเด็กน้อย มีความสนุกขำๆอยู่ระดับหนึ่งละ เนื้อหาไม่ได้หนักหน่วงอะไรดูได้ทุกคนทุกเพศทุกวัย ใครอยากได้อนิเมะมาดูคลายเครียดก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ สติกเกอร์ไลน์ "นางสาว C" จากมังงะเรื่อง Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

วันศุกร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Anime No.81 : The Rising of the Shield Hero 盾の勇者の成り上がり

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็มีข่าวดังพระเฒ่าโดนหญิงแบล็กเมล์ไถ่ตังค์วัดไปเล่นพนันออนไลน์จนต้องเข้าคุก พูดถึงผู้ชายที่โดนผู้หญิงทรยศหักหลังแล้วก็นึกถึงอนิเมะเรื่องหนึ่งที่ได้ดูไป นั่นก็คือเรื่อง The Rising of the Shield Hero 盾の勇者の成り上がり (ชื่อภาษาไทย ผู้กล้าโล่ผงาด) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ นาโอฟุมิ อิวาตานิ ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นทั่วๆไปที่จู่ๆก็โดนอัญเชิญไปยังต่างโลกในฐานะของผู้กล้าพร้อมกับชายอีกสามคน ทั่งสี่คือสี่ผู้กล้าในตำนาน ผู้กล้าหอก ผู้กล้าดาบ ผู้กล้าธนู และนาโอฟุมิเป็นผู้กล้าโล่ ทั่้งสี่คนได้รับการไหว้วานให้มารับมารับมือกับมหันตภัยที่เรียกว่า"คลื่น" ที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกแห่งนี้ แต่เพราะนาโอฟุมิเป็นผู้กล้าโล่ที่เอาไว้ป้องกันอย่างเดียวไม่สามารถโจมตีใครได้ทำให้ไม่มีใครอยากเข้าร่วมปาร์ตี้ด้วยนอกจากเจ้าหญิงของอาณาจักรเพียงคนเดียว ไมน์ ได้เข้ามาให้คำแนะนำกับนาโอฟุมิเป็นอย่างดี แต่จู่ๆวันหนึ่งหลังจากที่เขาตื่นขึ้นกลับพบว่าอุปกรณ์และเงินทองของเขากลับถูกไมน์ขโมยไป แถมยังถูกใส่ความว่าทำมิดีมิร้ายไมน์อีกต่างหาก นาโอฟุมิจึงถูกอัปเปหิให้ไปใช้ชีวิตเพียงลำพัง ด้วยข่าวคาวที่แพร่สะพัดออกไปทำให้ไม่มีใครอยากคบหากับนาโอฟูมิอีกต่อไป ด้วยความสิ้นหวังนาโอฟูมิจึงต้องไปซื้อทาสเพื่อให้มาเป็นคนในปาร์ตี้ของเขา และนั่นเองที่เขาได้พบกับ ราฟทาเลีย เด็กสาวครึ่งมนุษย์ครึ่งทานุกิที่ถูกจับมาเป็นทาส ทั้งคู่จึงต้องออกเดินทางพจญภัยในโลกอันโหดร้ายเช่นนี้นี่เอง 

 


ความคิดเห็น:

     เรื่องนี้ก็เป็นแนวไปต่างโลกในเกม(คล้ายๆกับเรื่อง SAO แต่เป็นโลกคู่ขนานไม่ใช่เกมซะทีเดียวละนะ) ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นต้นแบบสำหรับแนวไปต่างโลกประเภทที่พระเอกโดนทรยศหรือโดนขับจากปาร์ตี้นี่แหละ ตัวเนื้อเรื่องก็สนุกดีครับ คนที่ชอบแนวพจญภัยไปต่างโลกก็น่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยากนะแหละนะ ตัวผมเองชอบตัวละครราฟทาเลียเป็นพิเศษด้วยละนะครับ เรื่องงานภาพก็สวยงาม ฉากต่อสู้ใช้เวทมนต์ก็อลังการ เพลงปิดเปิดก็ไพเราะเข้ากับเนื้อเรื่องด้วยครับ

ข้อด้อย:

    เนื่องจากมันเป็นแนวไปต่างโลกอาจจะมีพล็อตบางอย่างที่ดูซ้ำๆกับเรื่องอื่นๆอยู่บ้าง แล้วมันก็อิงระบบในเกมออนไลน์ซึ่งสำหรับคนที่ไม่เคยเล่นเกมประเภทนี้พอมาดูแล้วก็จะงงๆ อยู่บ้าง อีกอย่างคือพอเนื้อเรื่องมันดำเนินไป ตัวละครมันก็เยอะขึ้นเรื่องๆ จนพอมาดูภาคหลังๆแล้วก็เกิดอาการลืมว่าไอ้ตัวนี้มันมายังไงแล้วหว่า 

    กล่าวสรุป เรื่องผู้กล้าโล่ผงาดนี้ก็เป็นแนวไปต่างโลกที่ดูได้สนุกสนานดีครับ ได้ข้อคิดอยู่พอสมควร(อย่างน้อยก็เรื่องการอย่าไปไว้ใจใครง่ายๆอะนะ) ณ.ตอนที่เขียนมีสามซีซันแล้วก็จะมีภาคสี่ออกมาในเร็วๆนี้ด้วยครับ (ผมชอบซีซันหนึ่งมากที่สุดนะ ซีซันสองดูจะเรื่องเยอะไปนิด ซีซันสามก็ดูโอเคอยู่) สนใจยังไงก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ 

ส่งท้ายขายของหน่อยครับ สติกเกอร์ไลน์ "นาย A" จากมังงะเรื่อง Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->

 

  

วันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Anime No.80 : Sword Art Online ソードアート・オンライン

 สวัสดีครับ พูดถึงกระแส AI ที่กำลังมาแรง จนใครหลายๆคนก็กังวัลกันว่าสักวันมันจะครองโลกทำคนตกงานกันหรือเปล่า ผมว่ามันก็ไม่แน่หรอกนาย เอาเป็นว่าวันนี้เรามาดูอนิเมะที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี AI และเมตาเวิร์สกันบ้างดีกว่า นั่นก็คือเรื่อง Sword Art Online ソードアート・オンライン (เรียกย่อๆว่า SAO) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวเริ่มขึ้นในปี 2022 เมื่อมีการเปิดตัวเกมสวมบทบาทออนไลน์เสมือนจริง(VRMMORPG)ชื่อ Sword Art Online ซึ่งผู้เล่นจะสวมอุปกรณ์ที่เรียกว่าเนิร์ฟเกียร์ NerveGear และจะสามารถเข้าสู่เกมได้โดยใช้ความรู้สึกนึกคิดในการควบคุมตัวละคร ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ในการเปิดตัวเกมอย่างเป็นทางการ มีผู้เล่นเกือบ 10000 คนล็อกอินเข้าเกม ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ที่ คายาบะ อากิฮิโกะ ผู้สร้างเกมและเนิร์ฟเกียร์จะโพล่ออกมาในเกมและบอกว่าต่อจากนี้ผู้เล่นทุกคนจะล็อกเอ้าท์ออกจากเกมไม่ได้ และจะต้องเอาชนะบอสที่อยู่ชั้นที่100ของหอคอยไอคราดถึงจะออกจากเกมได้และถ้าหากผู้เล่นคนไหนเกิดตายในเกม ในชีวิตจริงก็จะถูกคลื่นไมโครเวฟจากเนิร์ฟเกียร์ทำลายสมองตายไปด้วยเช่นกัน ท่ามกลางความโกลาหล ผู้เล่นคนหนึ่งชื่อ"คิริโตะ"ซึ่งเคยเป็นผู้เล่นทดสอบระบบเกมก็ได้เริ่มเคลื่อนไหวหาทางรอดจากเกมมรณะนี้ไห้ได้นั่นเอง



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นอนิเมะแนวไซไฟแนวพจญภัย(หรือจะว่าเป็นแนวไปต่างโลกในเกมก็ว่าได้) ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างจะดังทีเดียว ผมคิดว่ามาร์คซักเกอร์เบิร์กเองอาจจะได้ดูเรื่องนี้แล้วก็ได้แรงบันดาลใจอยากจะพลักดันเรื่อง Metaverse ให้เป็นจริงก็ได้ (แต่มันก็แป้กละนะ เพราะเทคโนโลยีมันยังไม่ถึงน่ะแหละ) โดนส่วนตัวผมชอบไอเดียเรื่องระบบ VR ในเรื่องรวมถึง AI ที่จะมีการกล่าวถึงในภาค Alicization ซึ่งค่อนข้างจะเป็นไอเดียที่ตรงกับ AI ในโลกความเป็นจริงของเราอยู่พอสมควร ไม่แน่ว่าสักวัน ChatGPT ก็อาจจะกลายเป็นเหมือน AI ในเรื่องก็เป็นได้ สำหรับเรื่องงานภาพก็ถือได้ว่าสวยงามดี ฉากแอ็คชันก็อลังการ เพลงเปิดปิดก็ไพเราะแล้วก็ดังพอๆกับตัวอนิเมะละนะ

ข้อด้อย :

    ปัญหาน่าจะอยู่ที่การเดินเรื่องที่บางทีรู้สึกเหมือนคนเขียนบทขี้เกียจเขียนต่อก็หักมุมให้เรื่องมันคลี่คลายไปอีกทางซะงั้น แถมพอเรื่องดำเนินไปก็กลายเป็นอนิเมะแนวฮาเร็มซะอีก เพราะมีแต่ตัวละครหญิงโผล่มาติดพันคิริโตะเยอะแยะเต็มไปหมด (ในชีวิตจริงมันจะมีผู้หญิงที่ไหนมาเล่นเกมเยอะแยะอะไรขนาดนั่นเชียว) สงสารก็แต่นางเอกที่นอกจากบทบาทจะจางลงๆ ก็ยังมักจะโดนลวนลามเป็นฉากเซอร์วิสคนดูซะงั้น(ซึ่่งก็ไม่เห็นจะจำเป็นขนาดนั้นละนะ) 

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวไซไฟแฟนตาซีที่ผสมเกมออนไลน์ เมตาเวิร์ส และAIเข้าไปได้อย่างลงตัว ส่วนตัวผมคิดว่าด้วยความดังของเรื่องSAOนี่แหละที่ทำให้เกิดกระแสอนิเมะแนว"ต่างโลก" 異世界 มันบูมขึ้นมาในระยะหลังๆ (ก็ว่าเลียนแบบ SAO กันนี่แหละ ถ้าตัวเอกเรื่องไหนใส่ชุดสีดำถือดาบใหญ่ๆนี่มันก็คือโคลนของคิริโตะละนะ เฮอๆ ) ข้อคิดที่ได้จากเรื่องนี้ก็อาจจะมีเรื่องของการติดเกมมากเกินไป หรือการแยกแยะไม่ออกว่าอันไหนคือเกมอันไหนคือโลกจริงๆ ซึ่งก็เป็นปัญหาของเด็กยุคนี้ด้วยละนะ สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ก็ออกมาหลายภาค มีภาคแยกนู้นนั่นนี่เต็มไปหมด ผมเองก็หามาดูได้ไม่หมดหรอกครับ ถ้าสนใจยังไงก็ลองหามาดูกันได้นะครับ

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ