วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime No.87 : Tomo-chan Is a Girl! トモちゃんは女の子!

 สวัสดีครับ ช่วงนี้เปิดทีวีก็มีแต่ข่าวเครียดๆ ว่าแล้วก็ลองหาอนิเมะแนวรอมคอมตลกๆมาคลายเครียดกันบ้างดีกว่า ว่าแล้วผมก็ลองนั่งคิดดูว่ามีเรื่องไหนที่ยังไม่ได้รีวิวบ้าง ก็นึกออกมาเรื่องนึงนั่นคือเรื่อง Tomo-chan Is a Girl! トモちゃんは女の子!(ชื่อภาษาไทยก็แปลตรงๆ โทโมะจังเป็นเด็กผู้หญิงนะ!) เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★☆☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของสาวทอมบอยม.ปลาย โทโมะ ไอซาว่า เธอเป็นนักคาราเต้ที่มีฝีมือฉกาจแถมรูปร่างหน้าตาก็ดูเท่กว่าผู้ชายแท้ๆซะอีก แต่ทว่าเธอเองก็เป็นเด็กผู้หญิงที่มีความรักหญฺิงชายธรรมดาๆทั่วๆไปคนหนึ่ง โดยเธอเองก็หลงรัก จุนอิจิโร่ คุโบตะ เพื่อนชายสมัยเด็กที่เรียนคาราเต้ที่โรงฝึกบ้านของโทโมะมาพร้อมๆกันกับเธอ เพียงแต่ว่าจุนอิจิโร่ไม่เคยเห็นโทโมะเป็นเด็กผู้หญิงเลยแม้แต่นิดเดียว กลับเห็นเธอเป็นเพื่อนผู้ชายซะงั้น เธอจึงต้องพยายามทุกวิธีทางที่จะให้จุนอิจิโร่หันมามองเธอเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งให้จงได้



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวรอมคอมแนววัยรุ่นวุ่นรักน่ะแหละ ตัวนางเอกโทโมะก็จะเป็นนางเอกแนวๆเจ้าฮะ(หนูๆถ้าไม่รู้คืออะไรให้ลองถามคุณพ่อคุณแม่ดูนะ เฮอๆ) ที่พยายามจะพิชิตใจพระเอกให้จงได้ ก็ดูจะกลับๆกับความเป็นจริงหน่อย เรื่องนี้ก็ให้บรรยากาศเหมือนมังงะอนิเมะยุค 90  อยู่เหมือนกัน(ตรงที่นางเอกกับพระเอกมักจะเพื่อนซี้เป็นคู่หูกันมาก่อนนี่แหละ) งานภาพสวยงามโอเค ตัวละครก็ไม่ได้เยอะเกินไปดูแล้วเข้าใจง่ายดี มุกก็ขำๆทำได้ดีเลย เรื่องนี้ก็ไม่ได้เป็นแนวฮาเร็มก็เลยน่าจะดูได้ทุกเพศทุกวัยแหละนะ

ข้อด้อย:

    ดูๆไปมันก็มีประเด็นที่สับสนอยู่เหมือนกัน เรื่องที่จุนอิจิโร่ไม่รู้ว่าโทโมะเป็นเด็กผู้หญิงจริงๆหรือแค่แกล้งทำเป็นไม่รู้ อันนี้ดูแล้วไม่ค่อยเครียร์เท่าไร อีกเรื่องก็คงจะที่เป็นแนวรอมคอมแต่มีส่วนของคอมเมดี้มากกว่าโรแมนติกละนะ ตัวเนื้อเรื่องไม่มีอะไรมากดูๆแล้วก็พอๆจะเดาพล็อตออกแหละ 

    กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวรอมคอมสาวทอมบอยกับหนุ่มซื่อบื้อ เนื้อเรื่องดูง่ายดูได้ทุกเพศทุกวัยเหมาะสำหรับดูคลายเครียดแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก ณ.ตอนที่เขียนนี่ออกมาหนึ่งซีซัน(ก็น่าจะจบแล้วละนะ) ใครสนใจก็ลองหามารับชมกันได้นะครับ

ส่งท้ายขายของครับ สติกเกอร์ไลน์บัวคำแม่หญิงล้านนา(จากเรื่อง ตำนานแมงสี่หูห้าตาฉบับนวนิยาย) ->

วันศุกร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime No.86 : 86 エイティシックス

 สวัสดีครับ สำหรับเรื่องที่จะรีวิวเป็นเรื่องที่ 86 นี่ก็จะเป็นเรื่องไหนไม่ได้เลยนั่นก็คือเรื่อง 86 (ไม่ได้กวนอะไรนะครับ มันชื่อ 86 エイティシックス จริงๆ) ซึ่งแท้ๆแล้วผมก็ล็อกเอาไว้รีวิวเป็นเรื่องที่ 86  นี่แหละ เฮอๆ ว่าแล้วก็มาลองดูกันเลยครับ

 


Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวสงครามระหว่างสาธารณรัฐซานแม็กโนเลียกับอานาจักรไกแอด โดยไกแอดได้ใช้จักรกลหุ่นยนต์ที่เรียกว่า"ลีเจี้่ยน"ในการรุกรานสาธารณรัฐซานแม็กโนเลีย แม้ตอนแรกทางซานแม็กโนเลียจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้แต่ก็มีการสร้างยานขับจักรกลของตัวเองเรียกว่า"จากาน๊อต"โดยมีการบังคับคนกลุ่มน้อยจากเขต 86 ให้มาเป็นคนขับ และบอกกับประชาชนว่าคนพวกนี้ไม่ใช่คนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่สร้างมาจากหมู!! จึงไม่ต้องสนใจว่าพวก86จะเป็นจะตายอย่างไร พันตรี วลาดีเลน่า มิลเลเซ่ (ชื่อเล่นเลน่า) ผู้ที่ทำหน้าที่เป็น"แฮนด์เดอร์ล"ผู้ควบคุมสื่อสารผ่านทางเสียงกับผู้บังคับจากาน๊อต แม้จะรู้สึกขัดแย้งที่รู้ว่ายังไงๆคนพวกนี้ก็เป็นมนุษย์แต่ยังคงต้องทำหน้าที่แฮนด์เดอร์ลต่อไป จนเธอได้มาเป็นแฮนด์เดอร์ลของหน่วย"สเปียร์เฮด" หน่วยที่เก่งที่สุดของพวก 86 และได้ทำความรู้จักกับ ชิเน โนเซ็น หัวหน้าหน่วยผู้เก่งเกจฉายา"อันเดอร์เทคเกอร์=สัปเร่อ" แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเห็นหน้าตากันจริงๆแต่ก็ได้พูดคุยกันผ่านทางวิทยุสื่อสารจนเริ่มเกิดความสัมพันธ์กันในสงครามอันโหดร้ายนี้นี่เอง



ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวไซไฟสงครามจักรกล ตัวเซ็ตติ้งของโลกของโลกก็ทำออกมาได้ดีมาก ความลึกซึ่้งของเนื้อหาก็กินใจและสะท้อนถึงพิษภัยของสงครามด้วย ผมคิดว่าเขาน่าจะเอาเรื่องราวจากสงครามโลกครั้งที่สองมาเป็นแนวในการเขียนบทอยู่เหมือนกัน ทั้งในเรื่องการยกชนชาติตนเหนือกว่าคนอื่นและด้อยค่าชนชาติอื่นให้ต่ำกว่าตน (ก็เหมือนพวกนาซีเยอรมันที่ทำกับคนยิวนั่นแหละ หรือก็อาจจะเป็นประเทศเจ้าอาณานิคมที่ตอนนั้นเกณฑ์คนจากประเทศใต้อาณัติมารบแทนด้วย)  เรื่องราวระหว่างเลน่ากับอันเดอร์เทคเกอร์นี่ก็เป็นเรื่องราวที่งดงามและตราตรึงใจมากๆ(เพราะทั้งคู่ไม่ได้เจอกันเลยได้ยินแต่เสียงละนะ) ด้านงานภาพสวยงาม ฉากแอ๊คชันก็ทำได้ดี ดนตรีก็เร้าอารมณ์ได้ดีทีเดียว คนชอบแนวไซไฟสงครามจักรกลก็น่าชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยากละครับ


ข้อด้อย:

      เนื่องจากเนื้อเรื่องเป็นแนวสงครามจึงมีเนื้อหาที่ค่อนข้างจะโหดร้ายและหดหู่อยู่พอสมควร ก็เลยจะไม่เหมาะกับคนดูที่เป็นเด็กๆละนะ อีกอย่างคือดูๆไปมักจะมีตอนรีแคป(เล่าย้อน)อยู่สองสามตอน คงเป็นเพราะตอนออกฉายคงมีเหตุให้หยุดออกอากาศอยู่บ่อยๆ เลยต้องมีตอนเล่าย้อนอยู่เรื่อยๆ (จะข้ามไปก็ได้อะครับ ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาหลักเท่าไรหรอก) พอดูจบดูเหมือนในไลท์โนเวลจะมีต่อ แต่อนิเมะดูเหมือนจะจบอยู่เท่านี้แหละครับ 

     กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้เป็นแนวไซไฟสงครามจักรกล เนื้อหาลึกซึ้งกินใจเตือนภัยสงคราม ใครชอบแนวนี้ก็ลองหามารับชมได้ครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime Special 22 : บ้าน bâan - 大人の彊界 -

 สวัสดีครับ หลังจากที่ผมเขียนบล็อกเนื้อหาเกี่ยวกับว่าทำไมเราถึงยังไม่มีอนิเมะไทยสักทีไปเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน ช่วงนี้ก็มีข่าวดีที่คุณ Garnt Maneetapho เจ้าของช่องยูทูป Gigguk ประกาศสร้างอนิเมะ  Baan (บ้านนะแหละ เชื่อเต็มๆก็ Bâan -The Boundaries of Adulthood-)  ซึ่งจะมีความเป็นไทยผสมอยู่เป็นหลักเลยด้วย ผมเลยไปหาข้อมูลเกี่ยวกับโปรเจ็คนี้มาดูครับ


สำหรับคุณ Garnt Maneetapho ก็เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษที่ทำช่องยูทูบ Gigguk เป็นช่องที่ทำเกี่ยวกับการรีวิวและวิเคราะห์อนิเมะ ซึ่งช่องนี่ก็มีผู้ติดตามหลักล้านเลยทีเดียว(แต่คุณ Garnt แกพูดภาษาอังกฤษอะนะก็เลยไม่แปลกที่คนไทยทั่วไปจะไม่รู้จัก รวมถึงผมด้วย แฮะๆ) สำหรับโปรเจ็ค Baan นี่ผมลองเข้าไปดูที่คลิปที่คุณ Garnt พูดถึงก็พอจะแปลได้ว่า (ภาษาอังกฤษผมก็สเน็คๆฟิชๆอาจจะพิดพลาดไปประการใดก็ขออภัยด้วย) แกเคยได้ยินเรื่องที่ว่ามีคนอยากจะทำ MV เป็นอนิเมะก็เลยหอบเงินกับไอเดียไปญี่ปุ่นแล้วก็คุยกับสตูดิโอที่นั่นเลย เสร็จแล้ว MV นั่นก็สร้างออกมาได้สำเร็จจนได้ ผมว่าแกก็เลยเอาบ้างละนะ คงจะไปคุยกับสตูดิโอเรื่องโปรเจ็ค Baan นี่แหละ โดยเรื่องนี้ได้ผู้กำกับ โอฮาชิ โยชิมิซึ ผู้กำกับ Code Geass: Rozé of the Recapture และคุณ Kevin Penkin เป็นผู้ประพันธ์เพลง (มีผลงานจากเรื่อง Made in Abyss) สร้างโดย Daisy Studio (แฝนสาว 100 คน เชนซอว์แมน) โดยเนื้อเรื่องจะเป็นแนวต่างโลก ความยาวประมาณ 14 นาที ซึ่งจะฉายวันที่ 24 สิงหาคมนี่ที่โรงภาพยนต์ที่โตเกียว(เข้าใจว่าคงฉายแค่โรงเดียวสำหรับให้แฟนๆดูละนะ) หลังจากนั้นจะเอามาลงยูทูป Gigguk ให้ได้ดูกันครับ
    สำหรับเนื้อเรื่องก็พอจะทราบคร่าวๆแต่ผมยังไม่พูดมากไว้รอดูกันเองดีกว่า อย่างไรก็ดีผมว่ามันก็เป็นแนวโน้มที่ดีที่ความเป็นไทยจะเริ่มเข้าไปในอนิเมะของญี่ปุ่นเรื่อยๆ ถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่มักจะมีแต่ตัวละครไทยที่เป็นตัวร้ายตัวประกอบแล้ว สมัยนี้บทของคนไทยในอนิเมะญี่ปุ่นก็เริ่มจะโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆแล้ว อย่างล่าสุดก็เนี้ยง(ยัยเมี้ยวข้าวมันไก่)ในกันดัมจีควักซ์น่ะแหละนะ นี่ก็เป็นระดับบทนางเอกB=นางรองแล้ว แต่แน่นอนว่าถ้าเป็นอนิเมะญี่ปุ่นยังไงๆบทตัวเอกก็คงจะสงวนไว้ให้เป็นคนญี่ปุ่นอยู่ดีนะแหละ ผมเองก็ยังเฝ้ารออนิเมะที่คนไทยสร้างแบบ 100 % อยู่นะครับ หวังว่าจะได้เห็นก่อนจะไปเฝ้าพระอินทร์ละนะ เฮอๆ 
 

ส่งท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ยัยจอมตื้อ จากมังงะเรื่อง Remember 1999 ประธานใจร้ายกับยัยจอมตื้อ ->


วันศุกร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

Anime No.85 : Full Metal Panic ! フルメタル・パニック!

 สวัสดีครับ สำหรับเรื่องที่จะรีวิวในวันนี้เป็นเรื่องที่เพื่อนชาวต่างชาติเคยแนะนำให้ดูเมื่อนานมาแล้ว มันแปลกตรงที่ว่าไอ้เพื่อนคนนี้นี่ไม่รู้จักการ์ตูนดังๆหลักๆอย่างดราก้อนบอล คนเก่งฟ้าประทาน โดราเอม่อน แต่ดันรู้จักเรื่องนี้ซะงั้น(อาจจะเพราะต่างประเทศไม่ได้ฉายการ์ตูนเหมือนไทยละนะ) ผมเองพึ่งนึกออกก็เลยลองหามาดูช่วงนี้แหละ เรื่องที่ว่าก็คือ Full Metal Panic ! フルメタル・パニック! มาลองรีวิวกันนะครับ


 

Ataya's Star :    ★★★★☆

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ จิโดริ คานาเมะ  สาวน้อยมัธยมโรงเรียนจินไดที่ถูกผู้ก่อการร้ายหวังจะลักพาตัว หน่วยมิทริลผู้พิทักษ์ความสงบของโลกจึงส่งทหารรับจ้าง เมลิซ่า เมา  หัวหน้าหน่วย ครูซ เวบเบอร์ มือแม่นปืน และ โซซุเกะ ซาฮาระ หน่วยกล้าตายซึ่งอายุใกล้ๆกับจิโดริ จึงทำหน้าที่แฝงตัวเข้าไปคอยอารักขาเธอโดยไม่ให้รู้ตัว แต่เพราะโซซุเกะไม่เคยใช้ชีวิตแบบคนธรรมดาเลยมักจะทำอะไรที่เกินเลยไปหน่อยจนทำให้จิโดริต้องปวดหัวอยู่เป็นประจำ

 


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวแอ็คชันไซไฟผสมกับแนวรอมคอม มีการใช้ AS (Arm Slave) หุ่นยนต์ที่ขับมาสู้กันได้อารมณ์เหมือนกันดัม บรรยากาศในเรื่องก็จะคล้ายกับโลกปัจจุบันที่สงครามเย็นยังคงดำเนินอยู่ ในเรื่องมีผู้ก่อการร้าย องค์กรทางทหารและการเมืองระหว่างประเทศอะไรหลายๆอย่างที่ให้ความสมจริงและมีมิติ ส่วนของมุกรอมคอมก็ว่าขำๆดีละนะ เขาคงจะใส่มาให้ตัดอารมณ์ไม่ให้เครียดเกินไปนะแหละ ส่วนตัวผมให้คะแนนของส่วนไซไฟส่วนของแม็คคานิกส์เยอะกว่าละนะ ถือว่าทำได้ดีทีเดียว 


 

ข้อด้อย:

    ต้องบอกก่อนว่าภาคแรกเนี่ยเป็นแนวแอ็คชัน แต่พอภาคสองกลายเป็นแนวรอมคอมตลกโป๊กฮาล้วนๆเลย ภาคสามภาคสี่ถึงกลับเป็นแอ็คชันดร่ามา(สปอลย์นิดหน่อย ภาคสี่นี่มีมาไทยด้วยนะ แถมยังเอาเรื่องจริงของตำรวจไทยไปเล่นซะอีก เฮอๆ) ตัวเนื้อเรื่องอาจจะเป็นประเภทเจ้าหญิงโดนลักพาตัวแล้วเจ้าชายต้องตามไปช่วยอยู่มากเกินไปซะหน่อย ฉากแอ็คชันทำได้ดีแต่ก็อาจจะโหดไปสำหรับเด็กๆด้วยละนะ

    กล่าวโดยสรุป ใครที่ชอบแนวไซไฟหุ่นยนต์รบแบบสมจริงหน่อย หรืออนิเมะแนวแอ็คชันยุค 90 ที่สมจริงสมจังหน่อยเรื่องนี้ก็น่าจะเป็นอีกเรื่องที่คุณน่าจะชอบได้ไม่ยาก ลองหามารับชมได้นะครับ แถมท้ายอีกนิดหนึ่ง มันจะตัวมาสคอตโมฟุ(モッフル)ที่อยู่ในเรื่องนี้แล้วมันก็ไปโผล่ในเรื่อง Amagi Brilliant Park ด้วย เพราะว่าสตูดิโอที่ทำอนิเมะนี่คือเกียวอนิ Kyoto Animation Studio เจ้าเดียวกันนั่นแหละครับ (ณ.วันที่เขียนบล็อกนี่เรื่องนี้ออกมาสี่ภาค ภาคห้าไม่ทราบว่ามาเมื่อไรแต่ดูเหมือนจะมีภาคสปินออฟมาก่อนนะครับ)

สุดท้ายก็ขอขายของหน่อย เป็นนิยายแนววิทยาศาตร์เรื่องสั้นเกี่ยวกับAIและสิ่งแวดล้อมที่พังทลายที่ผมเขียนขึ้นมา ใครสนใจก็ลองซื้อหามาอ่านได้นะครับ 

 

Google Book -> https://play.google.com/store/books/details?id=GmG6EAAAQBAJ