สวัสดีครับ วันนี้ก็กลับมาพูดถึงอนิเมะเรื่องโปรดของผมกันอีกครั้งนั่นคือเรื่องมาครอส วันนี้ก็จะขอรวบรวมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ที่ผมคิดว่าน่าจะมีอิทธผลต่อเนื้อเรื่องของมาครอส เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาดูกันเลยครับ
*** Spoiler Alert !! มีการสปอยล์เนื้อเรื่องด้วยนะครับ ใครยังไม่ได้ดูมาครอสครบทุกภาคก็ไปดูกันก่อนได้เลย อนึ่งเรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ถูกผิดไม่ถูกใจประการใดก็ต้องขออภัยไว้ณ.ที่นี้ด้วย
1. สงครามเย็นกับมาครอส
เนื่องด้วยมาครอสภาคแรกนี่ถูกสร้างขึ้นประมาณช่วงเวลาที่สงครามเย็นใกล้ๆจะจบ(มาครอสออกฉายปี 1982 ส่วนโซเวียตล่มสลายประมาณปี 1991) ถ้าสังเกตุให้ดีจะเห็นได้ว่าพวกมนุษย์ต่างดาวชาวเซ็นทราดี้นี่จะออกแนวบ้าสงคราม ไม่มีวัฒธรรมของตัวเอง ไม่รู้จักดนตรีการบันเทิงเริงรม ผมเลยพออนุมาณได้ว่าเขาออกแบบเซ็นทราดี้ให้เป็นตัวแทนของพวกคอมมิวนิสต์นี่แหละ เพราะภาพลักษณ์ของคอมมิวนิสต์นี่คือการไม่เอาวัฒนธรรมไม่เอาศาสนาใดๆ (นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นกับเขมรตอนที่เขมรแดงเรืองอำนาจก็กวาดล้างแหล่งวัฒนธรรมของตัวเองจนแทบไม่เหลืออะไรไว้เลย ตอนนี้ถึงชาวกัมพูชาจะพยายามจะฟื้นคืนวัฒนธรรมตัวเองขึ้นมาแต่ก็สับสนไปแล้วว่าวัฒนธรรมตัวเองดั้งเดิมจริงๆแล้วเป็นยังไงกันแน่ เขาถึงชอบมาเครมของบ้านเราเอานี่แหละ) อีกอย่างหนึ่งถ้าดูเครื่องแบบของพวกเซ็นทราดี้ให้ดีก็จะเห็นว่ามันออกโทนเขียวๆแดงๆ เทาๆ ซึ่งก็เป็นโทนเดียวกับเครื่องแบบของทหารโซเวียตนะแหละ(ซึ่งผมว่าพวกซีออนในเรื่องกันดัมก็ดูจะใส่โทนนี้เหมือนกันนะ) ซึ่งแน่นอนพวกมนุษย์โลก UN Spacy ก็จะเป็นตัวแทนของโลกเสรี เรามีวัฒธรรมทั้งภาพยนต์ ดนตรี ไอดอล เหมือนกับที่พวกอเมริกันพยายามสร้างภาพขายของ American Pop Culture ในช่วงสงครามเย็น ซึ่งในเนื้อเรื่องตอนจบพวกเซ็นทราดี้ก็จะยอมแพ้และเข้าร่วมกับพวกมนุษย์ คล้ายๆกับเป็นการทำนายว่าสุดท้ายสงครามเย็นจะจบลงและฝ่ายโลกเสรีจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งสุดท้ายกำแพงเบอร์ลินก็ถูกทำลาย(ปี1989) โซเวียตก็ล้มสลายตามลงมาจริงๆ (หรือจะมองว่ามาครอสเป็นโฆษณาชวนเชื่ออย่างหนึ่งของอเมริกากับญี่ปุ่นที่ร่วมมือกันก็อาจจะมองได้อะนะ แต่เรื่องแนวไซไฟหุ่นยนต์รบสมัยนั้นก็มาแนวๆนี้แหละอย่างกันดัมเป็นต้น)
2. เหตุการณ์รอสเวลกับมาครอส
ประมาณปี 1947 มีเหตุการณ์ยานบินประหลาดตกที่รอสเวลรัฐนิวแม็กซิโกในบริเวณฐานทัพอากาศของประเทศสหรัฐอเมริกา จนเป็นข่าวล่ำลือกันว่าที่ตกนั้นเป็นยาน UFO จากต่างดาวและนั่นเองเป็นสาเหตุให้อเมริกามีเทคโนโลยีการบินและการทหารล้ำหน้ากว่าชาติอื่นๆเพราะได้ชำแหละซากยานอวกาศแล้ววิเคราะห์เอาเทคโนโลยีมนุษย์ต่างดาวมาใช้งาน แม้ภายหลังทางกองทัพจะออกมาปฎิเสธว่าเป็นเพียงบอลลูนวิเคราะห์สำรวจสภาพอากาศตกก็เหอะ แต่ชาวบ้านก็จินตนาการไปไหนต่อไหนกันแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเหตุการณ์ที่รอสเวลนี่ก็น่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้กับยานมาครอสที่เป็นยานต่างดาวที่ตกลงมาบนโลกเช่นกัน และทำให้มนุษย์ชาติรู้ถึงการมีอยู่ของสิ่งมีชีิวิตต่างดาวที่ทรงภูมิปัญญาร่วมถึงยังเอาเทคโนโลยีจากยานมาครอสมาพัฒนาอาวุธยุทธโธปกรณ์ต่างๆจนได้เป็นเครื่องบินรบแปลงร่างได้อย่าง Valkyrie VF0 (ปรากฎตัวในมาครอสเซโร่) โดยเขาจะใช้ศัพท์การเอาเทคโนโลยีต่างดาวมาเป็นของตัวเองอย่างนี้ว่า Over Technology ซึ่งก็น่าจะมีที่มาจากเรื่องมาครอสนี่แหละครับ
3. ระเบิดนิวเคลียร์กับมาครอส
อย่างที่ทราบกันว่า(ณ.ตอนที่เขียนบทความนี้ในปี 2024) ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่โดนทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ถึงสองลูกที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิตอนใกล้จบสงครามโลกครั้งที่2 ความหายนะและสิ่งเลวร้ายในตอนนั้นก็คงจะส่งผลกระทบกับจิตใจคนญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย แม้แต่ในมาครอสก็จะมีเนื้อเรื่องตอนที่เอะอะสู้ไม่ได้แล้วก็จะใช้ระเบิดนิวเคลียร์ซะเลยดีกว่า (ถ้าจำไม่ผิดจะมีในมาครอสเซโร่ที่ดูเหมือนจะสู้มนุษย์นกไม่ได้แล้วก็งัดเอาระเบิดนิวเคลียร์ออกมายิง หรือในมาครอสเซเว่นก็มีคำสั่งให้แม็กซ์เอาระเบิดนิวเคลียร์ไประเบิดดาวของพวกโปรโตเดวิลทิ้งซะ แล้วก็ในมาครอสฟรอนเทียร์ก็จะมีการวางแผนล่อให้งัดระเบิดนิวเคลียร์ออกมาจัดการพวกวาจูร่า หรือแม้แต่ในมาครอสเดลต้าก็จะมีการทิ้งระเบิดมิติที่เป็นสาเหตุทำให้พวกวินด์เดอรเมียร์โกรธแค้นมนุษย์โลก) แน่นอนว่าในเนื้อเรื่องจะไม่พูดว่าเป็นระเบิดนิวเคลียร์หรอกเพราะมันคงกระทบจิตใจคนดูที่เป็นคนญี่ปุ่น เขาก็จะเปลี่ยนชื่อเป็นระเบิดปฏิภาคเอยระเบิดมิติเอยนะแหละ (แต่คนดูก็รู้ว่ามันเป็นระเบิดนิวเคลียร์ละนะ) หรือแม้แต่มาครอสภาคแรกจะมีฉากที่มาครอสพยายามจะเปิดบาเรียแบบคลุมทั้งตัวแต่ผิดพลาดทำให้เมืองระเบิดหายไปทั้งเมือง ทำให้คากิซากิหนีไม่ทันก็ตายไปตอนนั้นด้วย ซึ่งถ้าดูให้ดีมันก็คือการระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์นะแหละ ซึ่งจะว่าไปเมสแซสที่ผู้เขียนบทมาครอสต้องการสื่อสารก็อาจจะเป็นการใช้ระเบิดนิวเคลียร์แบบพร่ำเพรื่อโดยไม่สนใจผลที่จะตามมามันเป็นเรื่องเลวร้ายมากกว่าที่คิดก็เป็นได้
4.ภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์กับมาครอส
อันนี้ไม่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ในชีวิตจริงแต่อย่างใด แต่เป็นข้อสันนิษฐานส่วนตัวของผมเองแหละ คืออย่างที่แฟนๆมาครอสน่าจะทราบว่ามาครอสภาคหลักๆเนี่ยเขาจะสร้างซีรี่ย์แบบฉายทางทีวีก่อนแล้วต่อมาก็จะสร้างฉบับภาพยนตร์หนังโรงออกมาฉาย ซึ่งภาคหนังโรงเนี่ยก็แทบจะมีเนื้อหาเหมือนภาคทีวีเลย (ก็เดาได้ว่าตอนเป็นซีรีย์ภาคทีวีเนี่ยมีเวลาสร้างจำกัดคงมีการเผางานไปบ้างไม่มากก็น้อย ก็เลยค่อยมาเรียบเรียงเนื้อหาแล้วทำภาคหนังโรงที่คุณภาพสูงกว่าออกมาทีหลังละนะ) ตอนแรกผมก็ว่าภาคหนังใหญ่มันก็คงเป็นการรีเมคเนื้อหาเฉยๆนะแหละ แต่พอดูภาคหนังโรง Macross 7 : Galaxy is calling me แล้วเนี่ย ผมก็เอ๊ะอะไรบางอย่างขึ้นมา ในตอนที่บาซาร่าพูดคุยกับเอมิเลีย(พี่สาวของมิเลน) เธอบอกว่าเธอเคยดูหนังเรื่องราวของมินเมย์ตอนที่เธอเป็นเด็กๆแล้วก็เกิดประทับใจต่อไอดอลนักร้องที่หยุดสงครามได้ก็เลยอยากจะเป็นนักร้องนักดนตรีบ้าง พอผมไปย้อนดูมาครอสภาคแรกทั้งที่เป็นซีรีย์หรือภาคหนังใหญ่ Do you remember love แล้วก็รู้สึกว่ามินเมย์ไม่เคยเล่นหนังที่เกี่ยวกับสงคราม Space war I เลยนี่หว่า มีแต่เล่นหนังแอ็คชันกังฟูไอ้หนุ่มมังกรขาวน้อย 小白龍(シャオパイロン) แค่นั้นแหละ ก็เลยคิดได้ว่า หรือจริงๆแล้วภาคหนังใหญ่เนี่ยก็คือภาพยนตร์อิงประวัติศาสตร์ที่ถ่ายทำจากเรื่องที่เกิดขึ้นจากภาคทีวีซีรีย์ละหว่า ? คือสมมุติว่าภาคทีวีซีรีย์นี่คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นในไทม์ไลน์จริง เสร็จแล้วก็มีคนเอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้วมาทำเป็นหนังใหญ่ออกฉายละ ? ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหนังที่เอมิเลียได้ดูตอนเด็กๆจริงๆก็คือหนังใหญ่ Macross : Do you remember love ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเป็นประวัติศาสตร์จากมาครอสทีวีซีรีย์ภาคแรกแล้วละก็น่าจะสมเหตุสมผลหรือเปล่า (เหมือนเกิดสงครามโลกครั้งที่สองไปแล้วก็มีคนเอามาทำเป็นหนัง Saving private ryan อะไรแบบนั้นแหละ) ถ้ามันเป็นยังงั้นจริงๆก็อาจจะเป็นอารมณ์แบบว่ามีผู้กำกับหนังที่ไปเจรจาซื้อลิขสิทธ์จากใครสักคนในเรื่อง เช่น มินเมย์ รันกะ เชอร์ริล วงวาลคิวเร่ แล้วเอามาเขียนบทใหม่ให้จบแบบประทับใจเพิ่มเพลงใหม่ๆทำเป็นภาพยนตร์ออกมาฉาย เราเลยอาจจะได้นั่งดูหนังใหญ่พร้อมๆกับตัวละครที่ขายลิขสิทธิ์ไปทำหนังก็ได้ (งงมัยครับเนี่ย) หมายความว่าในไทม์ไลน์จริงๆแล้วทั้งรันกะ เชอร์ริล แอลโต้ ก็เหมือนตอนจบภาคทีวีคือทั้งสามคนก็อยู่สะบายดี(อยู่กันสามคนผัวเมีย) แค่พอผู้กำกับซื้อลิขสิทธิ์เนื้อเรื่องเอาไปทำเป็นหนังใหญ่แล้วเขาอาจจะเขียนบทให้ตอนจบเป็นว่าเชอร์ริลนอนเป็นผัก แอลโต้หายสาบสูญ เหลือแต่รันกะ พอดูหนังจบออกจากโรงหนังตัวเชอร์ริลอาจจะบ่นๆว่าอะไรวะตูกลายเป็นผักหรอเนี่ย ก็เป็นไปได้นะ (ส่วนสาเหตุที่มาครอสเซเว่นไม่มีหนังใหญ่แบบรีเมคก็คงเป็นเพราะว่าตอนท้ายเรื่องรักสามเศร้าทั้งสามคน บาซาร่า มิเลน แกมลินดันหนีหายไปไหนก็ไม่รู้ ผู้กำกับหนังก็เลยไม่รู้จะไปซื้อลิขสิทธิ์หนังกับใครหรือเปล่า เฮอๆ) แต่ก็นั่นแหละครับ ทั้งหมดก็คือการมโนของผมเองล้วนๆ เอาเข้าจริงดูเหมือนว่าภาคต่อๆของมาครอสจะสร้างต่อจากภาคหนังใหญ่มากกว่าจะเป็นภาคทีวีซีรีย์ละนะ (ยกตัวอย่างเช่น ตัวละครอย่างเอ็กเซลดอนในมาครอสภาคแรกฉบับทีวีซีรีย์จะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ธรรมดาเลย แต่พอในภาคหนังใหญ่ Do you remember love จะกลายเป็นตัวสีเขียวหัวสมองใหญ่ๆ พอไปปรากฎตัวเป็นที่ปรึกษาในมาครอสเซเว่นก็จะมีรูปร่างตัวเขียวๆหัวใหญ่ๆเหมือนที่อยู่ในภาคหนังใหญ่นะแหละ)
สำหรับวันนี้ก็คงจะเขียนประมาณนี้นะครับ อย่างที่บอกว่าเนื้อหาที่เขียนผมมโนปะติดปะต่อเอง อาจจะใช่หรืออาจจะไม่ใช่ก็ได้ ใครที่เป็นแฟนมาครอสเหมือนผมอ่านแล้วคิดเห็นประการใดก็บอกกล่าวกันได้นะครับ ขอบคุณสำหรับการติดตามรับชมนะครับ
ส่งท้ายขายของหน่อยครับ ไลน์สติกเกอร์ของเฟย์จัง ->