วันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

Anime No.70 : Anima Yell ! アニマエール!

 สวัสดีครับ ช่วงนี้ก็มีการแข่งกีฬากันหลายๆประเภท นอกจากตัวนักกีฬา กรรมการ คนดู ถ้าจะให้ครบก็ต้องมี"เชียร์ลีดเดอร์"ด้วยละนะ วันนี้ก็เลยจะขอนำเสนออนิเมะที่นำเสนอเรื่องราวน่ารักๆของสาวๆเชียร์ลีดเดอร์ นั่นก็คือเรื่อง Anima Yell ! アニマエール! เรื่องราวจะเป็นเช่นไรมาลองดูกันครับ


Ataya's Star :    ★★★★★

เรื่องย่อ :

    เรื่องราวของ โคฮาเนะ ฮาโตยะ สาวน้อยที่พึ่งจะเข้าม.ปลายที่โรงเรียนคามิโนคิ เธอเป็นสาวน้อยที่ชอบช่วยเหลือผู้คนและก่อนหน้านี้ที่เธอได้เห็นการแสดงเชียร์ลีดเดอร์ทำให้เธอรู้สึกอยากจะเข้าชมรมเชียร์มากแต่ดูเหมือนที่โรงเรียนแห่งนี้จะไม่มี เธอจึงพยายามจะตั้งชมรมเชียร์ขึ้นมาให้ได้โดยพยายามจะชวน ฮิซึเมะ อาริมะ อดีตสาวเชียร์ลีดเดอร์ผู้เก่งกาจตอน ม.ต้นแต่พอขึ้น ม.ปลายก็มีเหตุไม่อยากจะทำเชียร์ต่อ และ อุคิ ซาวาตาริ เพื่อนสมัยเด็กผู้คอยดูแลโคฮาเนะมาตลอด เรื่องราวความวุ่นวายจึงเริ่มขึ้นเช่นนี้นี่เอง


ความคิดเห็น:

    เรื่องนี้ก็เป็นแนวเหล่าสาวน้อยที่มาสร้างชมรมกันนะแหละครับ เนื้อเรื่องก็จะมีการแทรกความรู้เกี่ยวกับการฝึกเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ทั้งพื่้นฐานในการฝึก ท่าที่ใช้ในการเชียร์ เรียกได้ว่าคนดูจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการเชียร์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ส่วนตัวมุกตลกก็ส่งกันโป๊ะเป๊ะ(ส่วนใหญ่ตบมุกกันแบบตลกญี่ปุ่นละนะ)ก็ขำๆดีพอสมควรละ ตัวละครก็ออกแบบได้น่ารักสดใส มีคาแร็กเตอร์เฉพาะตัวดูแล้วก็สนุกสนานดีทีเดียวครับ (เรื่องนี้ก็ออกแนวยูริละนะครับ เพราะไม่มีตัวละครหลักเป็นผู้ชายเลย)

ข้อด้อย:

        เนื้อเรื่องสนุกสนานลื่นไหลไม่สะดุดแต่ดูจะดำเนินเรื่องเร็วไปซักหน่อย ตัวมุกตลกแม้จะฮาดีแต่บางที่บางช่วงก็ดูเหมือนจะมากเกินไป(แทบจะตบมุกกันทุกช๊อต) อีกเรื่องก็คงเป็นเรื่องที่จบเร็วไปนิด อยากให้มีซีซันสองต่ออยู่เหมือนกันนะ

        กล่าวโดยสรุป เรื่องนี้ก็เป็นแนวสาวน้อยชมรมเชียร์ลีดเดอร์ ตัวละครน่ารักสดใสมากๆเหมาะจะดูคลายเครียดหรือหาความรื่นเริงให้กับชีวิตบ้างอะไรบ้าง  ใครที่ชอบแนวโมเอะๆก็น่าจะชอบเรื่องนี้ได้ไม่ยากละครับ ลองหามารับชมกันได้นะครับ

ปิดท้ายขายของ สติกเกอร์ไลน์ลูกเจี๊ยบจ้า ->


วันศุกร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

Anime Special 18 : ตามรอยฮิจิกาตะโทชิโซที่ฮาโกดาเตะ 函館にある土方歳三の影

 สวัสดีครับ หลังจากโพสต์คราวก่อนผมพาไปเดินเที่ยวงานเทศกาลหิมะที่ซับโปโรกันแล้ว วันต่อมาเราก็ย้ายกันไปที่ฮาโกดาเตะ เมืองท่าของฮอกไกโด ส่วนหนึ่งที่มาพักที่เมืองนี้เพราะผมจะมาตามรอยบุคคลท่านหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ก็มีอิทธิผลส่วนหนึ่งต่อวงการอนิเมะด้วย นั่นก็คือท่านรองปีศาจ ฮิจิกาตะโทชิโซ 土方歳三 เดี๋ยวเรามาดูรูปแล้วก็เรื่องราวความเป็นมาของเขากันครับ (Spoiler Alert !! ผมจะมีการพูดถึงอนิเมะเรื่องกินทามะ กับ โกลเด้นคามุยด้วยนะครับ ใครไม่อยากถูกสปอยล์ก็ไปดูก่อนแล้วมาอ่านต่อกันได้นะครับ)

กลายเป็นมาสคอตของฮาโกดาเตะไปซะแล้วท่านรอง !!


วิวที่มองจากโรงแรมจะเห็นท่าเรือชัดเจน

เมืองฮาโกดาเตะ 函館 เป็นเมืองท่าที่อยู่ตอนใต้ของเกาะฮอกไกโด ในสมัยที่ญี่ปุ่นยังปิดประเทศไม่ค้าขายกับต่างชาตินั้นตรงเมืองท่าฮาโกดาเตะยังเป็นหนึ่งในไม่กี่เมืองที่เปิดรับการค้าขายกับต่างชาติอยู่(อีกเมืองหนึ่งน่าจะเป็นโยโกฮาม่า หรือไม่ก็เมืองนางาซากิ อันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะ) ทำให้เมืองฮาโกดาเตะค่อนข้างจะมีความเจริญและมีความเป็นฝรั่งตะวันตกค่อนข้างสูงเลยทีเดียว สังเกตุได้จากตึกรามบ้านช่องสมัยก่อนก็จะออกแนวๆยุโรปน่ะแหละ


นั่งรถรางไปเที่ยวกัน

ตึกโบราณสไตล์ยุโรป คุ้นๆเหมือนธนาคารในเรื่องโกลเด้นคามุยที่ท่านรองฮิจิกาตะมาเอาดาบคืนละนะ

บรรยากาศหลังหิมะตกหนัก

ตอนแรกก็ว่าจะมาพิพิธภัณฑ์ของชาวไอนุ แต่ดันหลงทางก็เลยมาไม่ทันเวลาปิด(ฤดูหนาวปิด 5 โมงเย็น ปิดเร็วไปมัยขอรับ)

ไว้คราวหน้าแล้วกันนะครับ

ภูเขาฮาโกดาเตะและเนินที่เดินไปถึง(ไม่แน่ใจใช่เนินดังในเรื่อง Fan Day หรือเปล่าอะนะ)

เดินไปซื้่อของฝากที่ย่านตึกแดง 金森赤レンガ倉庫

เสร็จแล้วก็ต้องมากินเบอร์เกอร์ไก่ที่ร้านลักกี้ปิแอโร่

เป็นร้านที่เปิดสาขาอยู่เฉพาะในฮาโกดาเตะเท่านั้นก็เลยต้องมากินให้ได้ละครับ (เขารับแต่เงินสดนะขอรับ)

ก็อร่อยดีนะ คล้ายๆไก่ทอดคาราเกะใส่ซอสเค็มๆหวานๆ

ขากลับผ่านศาลเจ้าลอยน้ำ 金森神社  ดูเหมือนจะขึ้นชื่อเรื่องขอพรด้านความรัก

ความรักไม่สน ขอถูกหวยดีกว่านะท่าน สาธุๆ

กลับมาถึงโรงแรมใกล้สถานีฮาโกดาเตะก็มืดซะแล้ว(หน้าหนาวนี่สี่ห้าโมงก็มืดแล้วละนะ)

    วันรุ่งขึ้นตอนเช้าผมก็เดินจากโรงแรมไปยังจุดสุดท้ายที่ท่านรองฮิจิกาตะมีชิวิต ก่อนอื่นต้องเล่าประวัติคร่าวๆของท่านรองฮิจิกาตะซะก่อน ท่านรองนี่เกิดวันที่ 31 พฤษภาคม ค.ศ. 1835 ในครอบครัวชาวนาในโตเกียวที่ค่อนข้างจะมีฐานะดีและมีพี่น้องอยู่ 10 คน(ท่านรองเป็นลูกคนสุดท้อง แต่บ้างก็ว่าถ้าไม่นับพี่น้องที่ตายตอนคลอดหรือไม่รอดตอนเป็นเด็กทารกก็จะจัดว่าเป็นลูกคนที่ 6 ละนะ) ตอนเด็กๆพ่อแม่ของฮิจิกาตะก็เสียชีวิตไปไล่ๆกัน ฮิจิกาตะก็เลยต้องอยู่ในความดูแลของพี่ชายคนรอง ว่ากันว่านิสัยฮิจิกาตะในวัยเด็กนิสัยไม่ค่อยจะดีเท่าไร(ก็คงเป็นเพราะเป็นเด็กขาดความรักจากพ่อแม่ละนะ) ออกจะเป็นคนไม่สนใจใครแม้แต่ครอบครัว จนกระทั้งวันนึ่งเขาได้เห็นซามูไรคนหนึ่งที่ถูกให้คว้านท้องสำเร็จโทษ ฮิจิกาตะถึงกับหลั่งน้ำตาในงานศพของชายคนนั่น และนั่นก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ฮิจิกาตะอยากเป็นนักรบซามูไร 

    ต่อมาฮิจิกาตะก็ได้พบกับ คนโดะ อิซามิ แห่งโรงฝึกชิเอกัง และก็ได้ก่อตั้งกลุ่มชินเซ็นกุมิเพื่อพิทักษ์โชกุนขึ้นในภายหลัง หลังผ่านเหตุการณ์ต่างๆนาๆ สุดท้ายคนโดะก็ได้กลายเป็นหัวหน้ากลุ่มชินเซ็นกุมิเต็มตัว ส่วนฮิจิกาตะก็ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้า เพราะฮิจิกาตะต้องทำหน้าที่ดำรงกฎเหล็กของกลุ่มชินเซ็นกุมิอย่างเคร่งครัด (ในกินทามะที่ท่านรองมักจะพูดว่าคนทำผิดต้องคว้านท้องก็เพราะตัวจริงเขาก็เป็นแบบนั้นแหละ) จนเป็นที่เกรงกลัวของคนในกลุ่มจนได้รับฉายาว่า ท่านรองปีศาจ 鬼の副長 เป็นฉายาติดตัวฮิจิกาตะไปตลอดชีวิตแหละนะ

     กาลเวลาผ่านไป เกมการเมืองก็เปลี่ยนไป สุดท้ายอำนาจของโชกุนก็หมดลง กองทัพใหม่ขององค์จักรพรรดิก็ไล่ต้อนกลุ่มกองกำลังที่เหลือของโชกุนจนคนโดะต้องยอมแพ้และถูกประหารชีวิตตัดหัวเสียบประจาน ท่านรองฮิจิกาตะเลยต้องนำกำลังที่เหลือหนีไปฮอกไกโด ฮิจิกาตะเข้ายึดป้อมห้าแฉก 五稜郭 ที่ฮาโกดาเตะ ก่อนที่กองทัพของรัฐบาลใหม่จะนำกองกำลังบุกขึ้นมาจากท่าเรือ ท่านรองก็เลยขี่ม้านำกองกำลังที่เหลืออยู่เข้าปะทะ แต่ระหว่างทางกลับโดนกระสุนปืนยิงเข้าและตกลงจากม้าเสียชีิวิต เป็นอันจบประวัติอันโลดโผนของท่านรองฮิจิกาตะไว้เช่นนี้นี่เอง (เสียชีวิตวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1869 อายุ 34 ปี)


เจอเสาหน้าท่านรองกลางหิมะ

ก็มีประวัติท่านรองเขียนอยู่นะ

ตัวป้ายจุดสุดท้ายที่ท่านรองมีชีิวิตจะอยู่เข้ามาในสวนหน่อยนะครับ


ที่ว่าเป็นป้ายบอกจุดสุดท้ายที่ท่านรองมีชีิวิตไม่ใช่ป้ายสุสานเพราะว่าไม่พบศพท่านรองละนะ หลังจากโดนยิงตกม้าก็ไม่รู้ว่าร่างหายไปไหน ป้ายหินตรงนี้เลยเป็นจุดที่ท่านรองน่าจะโดนยิงตกม้าที่ตรงนี้แหละ



หลังจากนั้นผมก็ย้อนรอยนั่งรถรางกลับไปที่ป้อมห้าแฉก 五稜郭

เดินมาสัก10กว่านาทีก็ถึง ขึ้นไปดูวิวป้อมห้าแฉกได้แต่ผมไม่มีเวลาก็เลยไม่ได้ขึ้นน่ะครับ

เข้ามาในตัวอาคาร ในที่สุดก็ได้เจอรูปปั้นท่านรองฮิจิกาตะแล้ว

เสื้อผ้าท่านรองนี่ก็ใส่ชุดแบบฝรั่งตะวันตกเลยไม่ได้ใส่กิโมโนแบบญี่ปุ่นอะไรแล้ว (ผมเดาว่าในกินทามะถึงให้หน่วยชินเซ็นกุมิใส่ชุดเครื่องแบบสีดำแบบฝรั่งมากกว่าจะเป็นชุดคลุมสีฟ้าขาวแบบดั่งเดิมละนะ)

ว่ากันว่าท่านรองเป็นคนสุดท้ายในกลุ่มชินเซ็นกุมิที่ยืนหยัดต่อสู้จนวาระสุดท้าย คนอื่นๆถ้าไม่ตายไปก่อนก็ยอมแพ้แปรพักตร์กันหมด คนถึงได้ยอมรับนับถือว่าฮิจิกาตะนี้เป็นคนจริงที่น่านับถือละนะ

รูปถ่ายท่านรอง ดูๆไปแล้วก็ค่อนข้างจะเป็นผู้ชายน่าตาดีละนะ ในมังงะอนิเมะถึงชอบวาดให้ฮิจิกาตะออกเท่ๆหล่อเหลาเอาการอยู่เหมือนกัน

อันนี้คงเป็นเรือที่ใช้ในการศึก


 ถ่ายคลิปไว้นิดหน่อยครับ ตามนี้เลย ->



 

สำหรับการตามรอยฮิจิกาตะก็จบละด้วยประการละชะนี้ จริงๆถ้าเข้าไปในป้อมห้าแฉกก็น่าจะมีอะไรแสดงอยู่มากกว่านี้แต่เพราะผมเองไม่มีเวลาเท่าไรก็เลยมาได้เท่านี้ละครับ แถมให้นิดหน่อย ผมเคยดูสารดีเกี่ยวกับท่านรองฮิจิกาตะโทชิโซอยู่อันหนึ่ง จับใจความได้ว่าหลังที่คนโดะตายไปแล้วท่านรองต้องมานำกองกำลังเองนี่ มีคนในกลุ่มชินเซ็นกุมิเขียนจดหมายถึงทางบ้านว่าท่านรองฮิจิกาตะนี่ใจดีห่วงใยลูกน้องยิ่งกว่าแม่แท้ๆของเขาเสียอีก เป็นไปได้ว่าจริงๆแล้วฮิจิกาตะเองอาจจะเป็นคนใจดีไม่ได้เป็นเข้มงวดโหดร้ายอะไรแบบที่ได้รับฉายาท่านรองปีศาจก็เป็นได้ เพียงแต่ว่าตอนที่คนโดะเป็นหัวหน้าหน่วยชินเซ็นกุมิ เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะใจดีกับลูกน้อง(เห็นได้ในเรื่องกินทามะเลยนะแหละ) ฮิจิกาตะเลยต้องสวมบทบาทเป็นคนใจร้ายเข้มงวดก็เป็นได้(คล้ายๆกับ Good Cop Bad Cop นะแหละนะ มีตำรวจใจดีก็ต้องมีตำรวจใจร้าย)  พอไม่มีคนโดะแล้วเขาถึงได้แสดงนิสัยจริงๆออกมาละนะ 

Credit : Gintama

    สำหรับในเรื่องกินทามะ เขาก็จะให้ชื่อว่าฮิจิกาตะ โทชิโร่(คงเพราะมันเป็นอนิเมะล้อเลียนขำๆ ก็เลยไม่ใช่ชื่อจริงฮิจิกาตะโทชิโซอะนะ) ความหล่อความเท่ก็คงจะก็อปมาจากตัวจริงล้วนๆน่ะแหละ ส่วนเรื่องที่ชอบสูบบุหรี่กินทุกอย่างที่ราดมายองเนสนี่ก็ไม่รู้ว่าเหมือนตัวจริงหรือเปล่าอะนะ


Credit : Golden Kamuy

    สำหรับเรื่องโกลเด้นคามุย เนื่องจากในชีวิตจริงเราไม่พบศพของท่านรองฮิจิกาตะ มันก็มีข่าวลือบางสายว่าท่านรองอาจจะมีชีวิตอยู่ก็เป็นได้ ในเรื่องโกลเด้นคามุยผู้แต่งก็เลยเขียนบทให้ฮิจิกาตะยังไม่ตายและถูกจับไปอยู่ในคุกอาบาชิริ ก่อนจะกลายเป็นผู้นำฝ่ายนักโทษแหกคุกที่ออกตามหาทองคำที่ซ่อนอยู่ ภาพลักษณ์ของฮิจิกาตะในเรื่องก็จะเป็นซามูไรเฒ่าที่ยังเก๋าอยู่ ในบางฉากก็จะแสดงให้เห็นความเฉียบขาดสมฉายาท่านรองปีศาจ หรือบางทีก็แสดงความห่วยใยลูกน้อง มีความอ่อนโยนที่มีให้กับเด็กๆเล็กๆ ซึ่งผมว่าเป็นอีกตัวละครที่น่าสนใจดีครับ

 

ส่งท้ายขายของอีกเช่นเคย ตำนานแมงสี่หูห้าตา ฉบับนวนิยาย ->

Thumbnail Seller Link
4 Ears 5 Eyes Monster Tale ตำนานแมงสี่หูห้าตา ฉบับนวนิยาย
Ataya P
www.mebmarket.com
จากตำนานเล่าขานแมงสี่หูห้าตาของชาวล้านนา สู่เรื่องราวในฉบับนวนิยายที่เรียบเรียงใหม่ให้มีความสมจริง สนุกสนาน อ่านได้สนุกทุกเพศทุกวัย เชิญลองมาอ่านกันเน...
Get it now

ซื้อที่กูเกิลบุ๊ค -> ตรงนี้ <-


 

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

Anime Special 17 : Sapporo Snow Festival 2025 さっぽろ雪まつり

 สวัสดีครับ สัปดาห์ก่อนก็ได้ไปเที่ยวงานเทศกาลหิมะที่ซับโปโรกับครอบครัวมาก็เลยเอาภาพมาฝากกัน ผมก็ได้ไปเดินเที่ยวในช่วงของถนนโอโดริซึ่งมีรูปปั้นหิมะแสดงอยู่(จริงๆจะมีอีกถนนที่มีผลงานแกะสลักน้ำแข็งแต่เวลามีไม่พอก็เลยได้เท่าที่เห็นนี่แหละครับ) มารับชมกันได้เลยครับผม

ปีนี้มีมิคุจังเป็นพรีเซนเตอร์(เหมือนเขาเรียกว่า Snow Miku)

รูปปั้นแรกที่เจอครับ

มาจากเรื่องเทนสไลมุ(เกิดใหม่ทั้งทีก็เป็นสไลม์ซะแล้ว)

อะไรสักอย่าง

ฮอกไกโดนี่ดูเหมือนจะขึ้นชื่อเรื่องม้าแข่งอยู่เหมือนกันนะครับ

รูปร่างประหลาดๆ

ดูจากอีกอีกมุม

มีคนเอาหิมะไปแปะไว้เป็นรูปหัวใจ

เห็นไฟแดงๆนึกว่าจะมีแบบอุ่นๆแต่เป็นโค้กเย็นน่ะแหละ(อุณหภูมิกลางคืนที่ซับโปโรนี่ติดลบ4ครับ)


ไม่รู้ดูออกหรือเปล่าแต่เป็นสาวน้อยเวทย์มนต์จากการ์ดยูกิอะนะ


Mobile Suit Gundam GQuuuuuuX



รู้สึกว่าจะมีตัวละครที่เป็นคนไทยด้วยนะ

วาตารุภาคใหม่

จากเรื่องสืบคดีปริศนาหมอยาตำรับโคมแดง

อันนี้ไม่รู้อะไรเหมือนกัน

เรื่องอะไรสักอย่างที่เป็นรถหนูแฮมสะเตอร์

อันนี้น่าจะเป็นอาคารศาลากลางละมั้ง

Do you want to make a snow man ?

เหล่าสัตว์ดูคนเล่นซูโม่อยู่

คิตตี้ขี่เป็ด

นกเค้าแมว

Monster Hunter

อนิเมะที่มาร่วมโปรโมทด้วย

จากเรื่องขอให้รักเรานี้ได้มีความสุข

わたしの幸せな結婚


มาถึงโซนประกวดปั่นหิมะนานาชาติ อันนี้ผลงานของอินโด


ผลงานของโปร์แลนด์

อินทรีย์หันหลัง(ให้โลกนะมั้ง??)จาก USA

ผลงานจากประเทศไทย ช้างเล่นน้ำสงกรานต์

ปีนี้ไทยได้ที่ 2 ละนะครับ

ผลงานชนะเลิศปีนี้เป็นของประเทศมองโกลครับผม


R2D2

 

Snow Miku

   

ผมถ่ายวีดีโอไว้นิดหน่อยด้วย ดูได้ตรงนี้เลยครับ ->


 

ภาพรวมโดยสรุป นักท่องเที่ยวมากันเยอะมาก โดยเฉพาะคนจีนกับเกาหลี รูปปั้นที่โชว์ก็มีหลายส่วนที่มาจากอนิเมะชื่อดัง คิดว่าคงเข้าถึงคนต่างชาติได้ง่ายด้วยละมั้ง มีการโชว์แสงสีแต่จะแสดงเป็นรอบๆมันต้องรอให้คนเต็มก่อนผมก็ขี้เกียจรอ(เพราะยืนเฉยๆมันหนาว)ก็เลยไม่ได้ถ่ายไว้เท่าไร  ก่อนหน้าที่เครื่องจะลงที่ฮอกไกโดสักวันสองวันก่อนหน้ามีพายุหิมะเข้าแต่ตอนมาถึงจริงๆอากาศค่อนข้างดีมีแดดส่องเลยไม่หนาวจัดอย่างที่คิดเท่าไร(กลางวัน -1 กลางคืน -4 องศา) ก็ถือได้ว่าเป็นการเดินทางท่องเที่ยวที่ดีและได้รับประสบการณ์ใหม่ๆด้วยครับ 

    สำหรับตอนหน้าผมจะไปตามรอยบุคคลในประวัติศาสตร์ที่ส่งอิทธิผลต่อวงการอนิเมะด้วย ยังไงก็ติดตามชมกันได้นะครับ

ส่งท้ายขายของอีกเช่นเคย ตำนานแมงสี่หูห้าตา ฉบับนวนิยาย ->

Thumbnail Seller Link
4 Ears 5 Eyes Monster Tale ตำนานแมงสี่หูห้าตา ฉบับนวนิยาย
Ataya P
www.mebmarket.com
จากตำนานเล่าขานแมงสี่หูห้าตาของชาวล้านนา สู่เรื่องราวในฉบับนวนิยายที่เรียบเรียงใหม่ให้มีความสมจริง สนุกสนาน อ่านได้สนุกทุกเพศทุกวัย เชิญลองมาอ่านกันเน...
Get it now

ซื้อที่กูเกิลบุ๊ค -> ตรงนี้ <-